“สุชาติ” ชี้ กรณี ส.ส.-ส.ว.เป็นนายก/กรรมการสมาคมผู้ปกครอง แล้วเรียกรับเงินถือเป็นการคอร์รัปชันเฉพาะบุคคล แนะ “วัฒนา” แจ้งความให้ตำรวจตรวจสอบ ระบุ ไม่ควรปิดกั้นคนที่จะเข้ามาช่วยเหลือการศึกษา ไม่เช่นนั้นจะไม่เหลือใครเลย
ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยถึงกรณีที่ นายวัฒนา เซ่งไพเราะ โฆษกประจำตัวประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า รัฐสภาได้รับการร้องเรียนว่า มีโรงเรียนรัฐบาลเรียกรับเงินแปะเจี๊ยะ ผ่านทางสมาคมผู้ปกครองนักเรียน เพื่อแลกกับการเข้าเรียนต่อระดับชั้น ม.1 และ ม.4 ประจำปีการศึกษา 2555 โดยมี ส.ส.บางคน ที่เข้าไปดำรงตำแหน่งนายกสมาคมครูและผู้ปกครอง ทำหน้าที่เรียกรับเงินด้วยตัวเอง จึงต้องการให้ ศธ.ทำการตรวจสอบและเสนอว่า ไม่ควรให้ ส.ส.และ ส.ว.เข้ามาเป็นกรรมการในสมาคม ว่า หากมีกรณีดังกล่าวจริง ก็น่าจะเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองต้องเข้ามาตรวจสอบ ซึ่งการเรียกรับเงิน ถือว่าเป็นเรื่องคอร์รัปชัน ตนจึงอยากให้ นายวัฒนา ไปแจ้งความ
อย่างไรก็ตาม ศธ.นั้นไม่มีอำนาจให้โทษ มีหน้าที่เพียงป้องปรามเท่านั้น ซึ่งในเรื่องนี้จะมอบให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ไปตรวจสอบว่า เรื่องนี้เป็นจริงหรือไม่ ทั้งนี้ ตนมองว่า กรณีของบุคคลที่จะเข้ามาเป็นคณะกรรมการสถานศึกษา, สมาคมครูและผู้ปกครองนักเรียนนั้น ควรต้องเปิดกว้างให้บุคคลต่างๆ เข้ามา ไม่อยากให้เกิดการปิดกั้น ไม่เช่นนั้นแล้วต่อไปจะไม่มีใครมาช่วยเหลือโรงเรียน
ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยถึงกรณีที่ นายวัฒนา เซ่งไพเราะ โฆษกประจำตัวประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า รัฐสภาได้รับการร้องเรียนว่า มีโรงเรียนรัฐบาลเรียกรับเงินแปะเจี๊ยะ ผ่านทางสมาคมผู้ปกครองนักเรียน เพื่อแลกกับการเข้าเรียนต่อระดับชั้น ม.1 และ ม.4 ประจำปีการศึกษา 2555 โดยมี ส.ส.บางคน ที่เข้าไปดำรงตำแหน่งนายกสมาคมครูและผู้ปกครอง ทำหน้าที่เรียกรับเงินด้วยตัวเอง จึงต้องการให้ ศธ.ทำการตรวจสอบและเสนอว่า ไม่ควรให้ ส.ส.และ ส.ว.เข้ามาเป็นกรรมการในสมาคม ว่า หากมีกรณีดังกล่าวจริง ก็น่าจะเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองต้องเข้ามาตรวจสอบ ซึ่งการเรียกรับเงิน ถือว่าเป็นเรื่องคอร์รัปชัน ตนจึงอยากให้ นายวัฒนา ไปแจ้งความ
อย่างไรก็ตาม ศธ.นั้นไม่มีอำนาจให้โทษ มีหน้าที่เพียงป้องปรามเท่านั้น ซึ่งในเรื่องนี้จะมอบให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ไปตรวจสอบว่า เรื่องนี้เป็นจริงหรือไม่ ทั้งนี้ ตนมองว่า กรณีของบุคคลที่จะเข้ามาเป็นคณะกรรมการสถานศึกษา, สมาคมครูและผู้ปกครองนักเรียนนั้น ควรต้องเปิดกว้างให้บุคคลต่างๆ เข้ามา ไม่อยากให้เกิดการปิดกั้น ไม่เช่นนั้นแล้วต่อไปจะไม่มีใครมาช่วยเหลือโรงเรียน
