xs
xsm
sm
md
lg

รู้จัก “นิมิตร์ เทียนอุดม” NGO สุขภาพ...แถวหน้า/คอลัมน์...ส่องฅนคุณภาพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายนิมิตร์ เทียนอุดม ผอ.มูลนิธิเข้าถึงเอดส์
โดย...วรรณภา บูชา

องค์การพัฒนาภาคเอกชน หรือ เอ็นจีโอ มาจากคำย่อภาษาอังกฤษ NGO : Non-Governmental Organization หลายคนมองภาพลักษณ์เอ็นจีโอติดลบ บ้างว่า เป็นพวกขัดขวางความเจริญ บ้างว่า เป็นพวกค้านแหลก บ้างว่า เป็นพวกรับใช้ต่างชาติ ฯลฯ

ไม่ว่าใครจะพูดอย่างไร มีหนุ่ม สาว จำนวนไม่น้อยที่เดินตามความฝัน ปลุกจิตวิญญาณความเป็นอาสาสมัคร ใช้ไฟรุนแรงของคนรุ่นใหม่กระโจนสู่สนามการเป็นเอ็นจีโอ ตั้งใจแน่วแน่ในจุดยืนที่หวังสร้างสรรค์สิ่งดีๆ เพื่อสังคม

เป็นเวลานับสิบๆ ปีแล้วที่ “นิมิตร์ เทียนอุดม” หนุ่มใหญ่วัย 51 ปี ที่หลายคนอาจคุ้นชื่อ แต่อาจยังไม่รู้จักผู้ชายคนนี้มากนัก พี่นิมิตร์เป็นผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ (AIDS Access) ที่คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงนักพัฒนาเอกชนด้านสุขภาพมานาน ถือได้ว่าเป็นเอ็นจีโอรุ่นใหญ่ที่อยู่แถวหน้าของประเทศไทยอีกคนหนึ่ง

พี่นิมิตร์ เล่าย้อนกลับไปราวปี 2528 เมื่อศึกษาจบคณะรัฐศาสตร์ รั้วมหาวิทยาลัยรามคำแหง ด้วยความเป็นนักกิจกรรม ทำงานอาสาหลายอย่างทั้งชมรม และการออกค่าย จึงถูกชักชวนเข้าไปร่วมงานกับมูลนิธิโกมลคีมทอง ที่กำลังต้องการคนหนุ่มสาวมาทำงานเพื่อสังคม

การเริ่มงานที่มูลนิธิโกมลคีมทอง พี่นิมิตร์ ได้ทำหนังสือพิมพ์เพื่อนชาวบ้าน ลงพื้นที่ชนบท พูดคุยกับชาวบ้าน ชาวไร่ ชาวนา นำมาถ่ายทอด พร้อมกับเชื่อมโยงกระบวนการการศึกษา ต่อจากนั้น ก็ได้เข้ามาทำงานในโครงการอาสาสมัครเพื่อสังคม ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนเป็นมูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม เป็นการค้นหาอาสาสมัครที่ต้องการเรียนรู้ด้านสังคม โดยเปิดโอกาสให้เป็นอาสาสมัคร 2 ปี ช่วยค่าครองชีพแบบเต็มเวลา มีหน้าที่พัฒนาเรียนรู้ทำประโยชน์เพื่อสังคม ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่ได้เรียนรู้การเป็นเอ็นจีโอ

“เราอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงของสังคมไปในทางที่ดีขึ้น พร้อมๆ กับได้สนุก ได้คิดอยู่ตลอดเวลา และเชื่อว่า สิ่งที่เราทำนั้น มีประโยชน์ต่อส่วนรวม และช่วยกันสร้างฝันให้เป็นจริงขึ้นมา แต่ลักษณะงานจะมีอายุสั้น เป็นโครงการ 1 ปี บ้าง 2 ปี ต้องหาผู้สนับสนุนทางการเงิน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเงินทุนจากต่างประเทศ เพราะงบประมาณเหล่านี้ นอกจากใช้ในการดำเนินงานต่างๆ แล้วยังเป็นเงินเดือนของคนที่ทำงานด้วย”

พอทำอยู่ 4 ปี ก็รู้สึกเบื่อ ประกอบกับมีครอบครัวที่ต้องดูแล จึงกลับไปเลี้ยงดูลูกอยู่ 1 ปี จังหวะนี้เองที่พี่นิมิตร์ ได้เข้ารับราชการด้วย พี่นิมิตร์ เล่าให้ฟังว่า ครอบครัวไม่ค่อยเห็นด้วยที่จะเป็นเอ็นจีโอ โดยเฉพาะแม่อยากให้มีชีวิตที่มั่นคง เขามองว่า เอ็นจีโอไม่เป็นหลักแหล่ง พึ่งพาไม่ได้ จนขัดแม่ไม่ได้ตัดสินใจสอบเข้าราชการ ได้เป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผนอบจ.มหาชัย แต่ทำงานอยู่เพียง 5 วัน เขาก็ตัดสินใจลาออก ทำให้แม่ไม่พูดกับเขาอยู่หลายปี

“มันเหมือนไม่ใช่เรา อาจเพราะเป็นงานใหม่ด้วยเป็นวัยรุ่นด้วย ทำงานเป็นเอ็นจีโอมาตั้ง 4 ปี อยู่ๆ จะให้นั่งโต๊ะ มันไม่สนุก ไม่ท้าทาย ก็คิดนะว่าเราจะมีชีวิตต่อไปอย่างไร ถ้าอยากให้ทำราชการเพื่อจะได้สวัสดิการ ก็มาตั้งต้นคิดว่า ทำไมคนไทยไม่มีสวัสดิการด้านสุขภาพ”

ส่วนเป็นไงมาไงจึงมาทำงานที่ มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ หลังจากพักงานไป 1 ปี ช่วงปี 2530 อ.จอน อึ้งภากรณ์ ก็ชวนไปทำงานพัฒนาสังคมด้านเอดส์ แม้จะลังเลอยู่บ้างพี่นิมิตร์ ก็เริ่มทำงานด้านเอดส์ตั้งแต่นั้นมา โดยมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ เริ่มก่อตั้งองค์กรเมื่อปี 2534 เป็นการทำงานในด้านการแก้ไขปัญหาเอดส์ ที่เป็นปัญหาสังคม ซึ่งมีผลกระทบต่อเรื่องสิทธิ คุณภาพชีวิต ตลอดจนความเป็น มนุษย์ ของผู้ติดเชื้อ/ผู้ป่วยเอดส์ และครอบครัว และเป็นตัวแทนประเทศไทยในการประสานงานระหว่างประเทศในประเด็นที่เกี่ยวกับโรคเอดส์

พี่นิมิตร์ บอกว่า เรามีจังหวะที่ดีที่ได้ทุนสนับสนุนจากต่างประเทศ ที่ให้อิสระในการทำงานมาก ขณะเดียวกัน ก็ไม่อยากของบจากส่วนราชการ เพราะขอแล้วกลายเป็นเบี้ยหัวแตก แถมยังเป็นการจำกัดการทำงานของตัวเอง ดังนั้น จึงเลือกที่จะไม่รับทุนจากรัฐ ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วองค์กรพัฒนาเอกชนเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร มีจุดมุ่งหมายเดียวกันกับภาครัฐ เพียงแต่คนทำงานกลุ่มนี้ไม่อยากอยู่ในระบบราชการเท่านั้น

ที่สำคัญ แม้จุดเริ่มแรกของเอ็นจีโอจะมาจากอาสาสมัคร แต่เราพบว่า หากเป็นเพียงอาสาสมัครก็จะทำได้ในช่วงสั้นๆ ไม่สามารถรักษาคนทำงานได้ ต้องเปลี่ยนหน้าสร้างคนอยู่ตลอดเวลา งานที่ตั้งใจจะทำก็ไปไม่ถึงไหน เมื่อคนเป็นกลไกสำคัญในการเป็นเอ็นจีโอ เพื่อเป็นหลักในการขับเคลื่อน ฉะนั้น ต้องพยายามทำให้เป็นวิชาชีพ มีความมั่นคงในชีวิต ดังนั้น มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ จึงมีการสร้างระบบฐานเงินเดือน ดูแลสวัสดิการคนทำงาน ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีกิน หรือเพื่อนจบร่วมรุ่นเดียวกัน เงินเดือนไปไกลมากแล้ว แต่เรายังอยู่ที่เดิม ฉะนั้น คนที่เรียนจบปริญญาตรีก็จะมีฐานเงินเดือนที่จะได้ นอกจากนี้ ก็มีการต่อสัญญาทุก 3 ปี

“ส่วนทัศนคติเชิงลบต่อเอ็นจีโอทั้งหลายนั้น เกิดขึ้นทุกยุคทุกสมัย แต่พี่มองว่า ในส่วนที่เอ็นจีโอมองต่างเป็นเรื่องที่ดี สังคมจำเป็นที่ต้องมีความเห็นที่หลากหลาย เช่น หากรัฐพัฒนาประเทศโดยไม่สนใจมิติทางสังคม ทำให้เกิดช่องว่างสูง หากไม่มีการถ่วงดุลเลยปัญหาจะยิ่งมากขึ้น ดังนั้น จึงเป็นการเห็นต่างที่จะนำไปสู่การพัฒนาและแก้ปัญหาไปด้วยกัน ในขณะเดียวกัน เอ็นจีโอก็ไม่จำเป็นต้องค้านอย่างเดียว เราสามารถสนับสนุน ผลักดันหรือทำงานร่วมกันได้เหมือนที่มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ทำอยู่”

พี่นิมิตร์ ทิ้งท้ายด้วยว่า สิ่งที่ทำให้สามารถทำงานเป็นเอ็นจีโอได้อย่างยาวนานเพราะความรู้สึกภูมิใจในการช่วยให้ผู้ป่วยเข้าถึงยาต้านไวรัสเอชไอวีมากขึ้น ทำให้ช่วยรักษาชีวิตผู้ที่ติดเชื้อ และมีชีวิตที่มีคุณภาพที่ดี โดยการที่เพื่อน พี่ น้อง ที่ทำงานด้วยกันไม่ต้องเสียชีวิต เป็นกำลังใจสำคัญในการทำงานอย่างมาก

******

รับสมัครอาสาสมัครให้การปรึกษาปัญหาเรื่องเอดส์ทางโทรศัพท์

“1663 สายปรึกษาเอดส์แห่งชาติ” เปิดรับ “อาสาสมัคร” ที่มีใจรักและมีจิตอาสา ไม่หวังค่าตอบแทน และมีเวลาว่าง 2-4 วัน ต่อเดือน สนใจเป็นผู้ให้การปรึกษาเรื่องเอดส์ทางโทรศัพท์ สถานที่ปฏิบัติงานมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ ถ.รามคำแหง 104 กรุงเทพฯ

ผู้ใดสนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ 0-2372-2113-4 หรือติดต่อ คุณกมลเดช 089-887-3020 คุณพัฒน์พงษ์ 086-424-5142 เวลา10.00 - 17.00 น.หรือที่อีเมลแอสเดรส tum@aidsaccess.com  / punneemay@gmail.com / som@aidsaccess.com ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 พฤษภาคม 2555
กำลังโหลดความคิดเห็น