โดย...รัชญา จันทะรัง
“วันที่ผ่านมา...แสนเบื่อ...เบื่อคอยรถ
เหงื่อไหลหยด รถที่คอย...อยู่ไหนหนา
จะหายใจก็ติดขัด อึดอัดพา
วันนี้ รถไฟฟ้ามา...ฟ้าเบิกบาน
รถไฟฟ้า...ฟ้าให้มา หรือไฉน
จึงสะดวกเร็วไว ดั่งใจหวัง
ช่วยลดมลพิษ ช่วยชีวิต มีพลัง
ทุกทุกครั้ง เดินทางอย่างสุขใจ”
...ท่วงทำนองของบทกลอนที่ประพันธ์ไว้ข้างต้นของคุณลุงอภิชาต ณ ระนอง ในชื่อ “รถไฟฟ้าพาสุขสันต์และรถไฟฟ้าพาสุขใจ” แสดงให้เห็นถึงการเดินทางของความรู้สึกนึกคิดในยามที่คุณลุงอภิชาต ได้ใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเดินทางมาร่วมกิจกรรมชุมชนสัมพันธ์ครั้งที่ 2 “สืบสานภูมิปัญญารัก(ษ์)โลก” ซึ่งกรุงเทพมหานคร (กทม.) จัดกิจกรรมนี้ให้กับผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในแนวเส้นทางรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง ณ อาคารลุมพินีสถาน สวนลุมพินี โดยมีผู้สูงอายุจากเขตพระโขนง เขตบางนา รวมถึงผู้สูงอายุที่มาออกกำลังกายเป็นประจำที่สวนลุมพินีเข้าร่วมกว่า 100 คน
สำหรับกิจกรรมภายในงานเป็นไปด้วยการความสนุกสนาม ทั้งการแสดง “ออกกำลังกายแบบรำไทยประยุกต์ ประกอบเพลงลาวลำปาง” ซึ่งเป็นการใช้ความคิดสร้างสรรค์จากชมรมผู้สูงอายุวัดวชิรธรรมสาธิต นำการรำไทยมาใช้เป็นท่วงท่าการออกกำลังกาย ซึ่งช่วยให้ร่างกายแข็งแรงแล้วยังช่วยอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทยได้ด้วย นอกจากนี้ ยังมีการแสดง “ฮูลาฮูป 60 ยังแจ๋ว” จากชมรมผู้สูงอายุวัดบุญรอดธรรมาราม ที่รวมตัวกันแสดงความฟิตแข็งแรงทั้งกายใจแบบลืมอายุกันเลยทีเดียว อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุทุกท่านได้ร่วมแสดงความคิดเห็นของการให้บริการของรถไฟฟ้า และการประหยัดพลังงานและสืบสานภูมิปัญญารัก(ษ์) โลกอีกด้วย
ทัศนีย์ ลือกลาง หรือ คุณป้าจุ๋ม วัย 61 ปี จากชมรมผู้สูงอายุวัดวชิรธรรมสาธิต ได้แสดงความคิดเห็นที่ได้โดยสารรถไฟฟ้า ให้ฟังว่า ช่วยประหยัดเวลาและอำนวยความสะดวกในการเดินทางทำให้เราไม่ต้องเร่งรีบในการเดินทาง เวลาเข้าเมืองตนเองก็จะโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสเสมอ
“ป้าชอบมากเลยนะ แต่ป้าไม่ได้ใช้ทุกวันหรอก จะใช้ตอนจะต้องเข้าเมืองนะ แต่ลูกป้าใช้ทุกวันเลยจะนั่งจากสถานีปุณณวิถี ไปลงสถานีอโศก รถไฟฟ้ามันช่วยลูกป้าประหยัดเวลาในการเดินทางตั้ง 30 นาที จากเดิมต้องออกจากบ้านไปทำงาน 07.30 น.เดี๋ยวนี้ออก 08.00 น.ก็ได้ ตอนแรกที่เขามาสร้างก็หวังว่าสถานีจะอยู่ปากซอยบ้านเรา คือ ซอยสุขุมวิท 101/1 ซึ่งมันอยู่กึ่งกลางระหว่างอุดมสุข กับ ปุณณวิถี แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะป้าสามารถจะไปขึ้นสถานีไหนก็ได้ระหว่างสองสถานีนี้”
คุณป้าจุ๋ม บอกถึงสิ่งที่อยากได้จากรถไฟฟ้าด้วยว่า อยากให้มีบัตรโดยสารฟรีสำหรับผู้สูงอายุ หรือครึ่งราคาก็ได้ รวมทั้งให้มีการจัดกิจกรรมอย่างนี้ต่อเนื่อง เพราะว่าผู้สูงอายุเหล่านี้อายุเหลือน้อยแล้ว ลูกหลานก็ไม่ค่อยว่างก็อยากให้จัดกิจกรรมและเชิญผู้สูงอายุมาร่วมอีก
ขณะที่คุณป้าวิเชียร สุดเจริญ วัย 72 ปี จากชมรมผู้สูงอายุ 08 บุญรอดรุ่งเรือง บอกว่า รู้สึกชอบที่มีรถไฟฟ้ามาถึงบางนา เพราะมันสะดวกสบาย ความเจริญก็เข้าถึงที่นี่ เราสามารถกะเวลาการเดินทางได้ และก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้สูงอายุอย่างเราโดยเฉพาะไม่ต้องลำบากเหมือนเวลาที่ต้องก้าวขึ้นรถเมล์ ซึ่งไม่ต้องกลัวว่าจะตกบันได นอกจากนี้ การมีรถไฟฟ้าจะได้พาคนต่างถิ่นมาดูวัฒนธรรมของชาวบางนา ซึ่งมีประเพณีที่ดีงาม เช่น ประเพณีสงกรานต์ เป็นต้น
“อย่างไรก็ตาม ป้าอยากให้มีช่องทางเข้าสำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ และมีคนคอยดูแลให้ เพราะบางทีผู้สูงอายุยังเดินไม่พ้นช่องสอดบัตรโดยสารก็ต้องถูกที่กั้นตี ทำให้เจ็บ รวมถึงอยากให้มีบัตรโดยสารฟรีสำหรับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ตลอดจนมีกิจกรรมต่อเนื่องอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ”
สุดท้าย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. บอกว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้จะเป็นการช่วยสร้างความคุ้นเคย และความเชื่อมั่นให้แก่ผู้สูงอายุ ซึ่งควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษในการใช้บริการรถไฟฟ้า โดยจะสร้างความมั่นใจด้วยการอำนวยความสะดวก เช่น ลิฟต์ บันไดเลื่อน และมีความปลอดภัยสูงกับสิ่งป้องกันอันตรายต่างๆ อาทิ พื้นผิวต่างสัมผัส ราวกันตกที่มีพร้อมในทุกสถานี รวมทั้งความเอาใจใส่ดูแลจากเจ้าหน้าที่ทุกคน นอกจากนี้ ยังส่งเสริมให้ผู้สูงอายุได้ร่วมกันพัฒนาชุมชนของตนเองและชุมชนที่อยู่ในแนวเส้นทางรถไฟฟ้าให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และวัฒนธรรมเป็นการสร้างรายได้ให้กับชุมชนอีกทางหนึ่งด้วย
“วันที่ผ่านมา...แสนเบื่อ...เบื่อคอยรถ
เหงื่อไหลหยด รถที่คอย...อยู่ไหนหนา
จะหายใจก็ติดขัด อึดอัดพา
วันนี้ รถไฟฟ้ามา...ฟ้าเบิกบาน
รถไฟฟ้า...ฟ้าให้มา หรือไฉน
จึงสะดวกเร็วไว ดั่งใจหวัง
ช่วยลดมลพิษ ช่วยชีวิต มีพลัง
ทุกทุกครั้ง เดินทางอย่างสุขใจ”
...ท่วงทำนองของบทกลอนที่ประพันธ์ไว้ข้างต้นของคุณลุงอภิชาต ณ ระนอง ในชื่อ “รถไฟฟ้าพาสุขสันต์และรถไฟฟ้าพาสุขใจ” แสดงให้เห็นถึงการเดินทางของความรู้สึกนึกคิดในยามที่คุณลุงอภิชาต ได้ใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเดินทางมาร่วมกิจกรรมชุมชนสัมพันธ์ครั้งที่ 2 “สืบสานภูมิปัญญารัก(ษ์)โลก” ซึ่งกรุงเทพมหานคร (กทม.) จัดกิจกรรมนี้ให้กับผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในแนวเส้นทางรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง ณ อาคารลุมพินีสถาน สวนลุมพินี โดยมีผู้สูงอายุจากเขตพระโขนง เขตบางนา รวมถึงผู้สูงอายุที่มาออกกำลังกายเป็นประจำที่สวนลุมพินีเข้าร่วมกว่า 100 คน
สำหรับกิจกรรมภายในงานเป็นไปด้วยการความสนุกสนาม ทั้งการแสดง “ออกกำลังกายแบบรำไทยประยุกต์ ประกอบเพลงลาวลำปาง” ซึ่งเป็นการใช้ความคิดสร้างสรรค์จากชมรมผู้สูงอายุวัดวชิรธรรมสาธิต นำการรำไทยมาใช้เป็นท่วงท่าการออกกำลังกาย ซึ่งช่วยให้ร่างกายแข็งแรงแล้วยังช่วยอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทยได้ด้วย นอกจากนี้ ยังมีการแสดง “ฮูลาฮูป 60 ยังแจ๋ว” จากชมรมผู้สูงอายุวัดบุญรอดธรรมาราม ที่รวมตัวกันแสดงความฟิตแข็งแรงทั้งกายใจแบบลืมอายุกันเลยทีเดียว อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุทุกท่านได้ร่วมแสดงความคิดเห็นของการให้บริการของรถไฟฟ้า และการประหยัดพลังงานและสืบสานภูมิปัญญารัก(ษ์) โลกอีกด้วย
ทัศนีย์ ลือกลาง หรือ คุณป้าจุ๋ม วัย 61 ปี จากชมรมผู้สูงอายุวัดวชิรธรรมสาธิต ได้แสดงความคิดเห็นที่ได้โดยสารรถไฟฟ้า ให้ฟังว่า ช่วยประหยัดเวลาและอำนวยความสะดวกในการเดินทางทำให้เราไม่ต้องเร่งรีบในการเดินทาง เวลาเข้าเมืองตนเองก็จะโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสเสมอ
“ป้าชอบมากเลยนะ แต่ป้าไม่ได้ใช้ทุกวันหรอก จะใช้ตอนจะต้องเข้าเมืองนะ แต่ลูกป้าใช้ทุกวันเลยจะนั่งจากสถานีปุณณวิถี ไปลงสถานีอโศก รถไฟฟ้ามันช่วยลูกป้าประหยัดเวลาในการเดินทางตั้ง 30 นาที จากเดิมต้องออกจากบ้านไปทำงาน 07.30 น.เดี๋ยวนี้ออก 08.00 น.ก็ได้ ตอนแรกที่เขามาสร้างก็หวังว่าสถานีจะอยู่ปากซอยบ้านเรา คือ ซอยสุขุมวิท 101/1 ซึ่งมันอยู่กึ่งกลางระหว่างอุดมสุข กับ ปุณณวิถี แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะป้าสามารถจะไปขึ้นสถานีไหนก็ได้ระหว่างสองสถานีนี้”
คุณป้าจุ๋ม บอกถึงสิ่งที่อยากได้จากรถไฟฟ้าด้วยว่า อยากให้มีบัตรโดยสารฟรีสำหรับผู้สูงอายุ หรือครึ่งราคาก็ได้ รวมทั้งให้มีการจัดกิจกรรมอย่างนี้ต่อเนื่อง เพราะว่าผู้สูงอายุเหล่านี้อายุเหลือน้อยแล้ว ลูกหลานก็ไม่ค่อยว่างก็อยากให้จัดกิจกรรมและเชิญผู้สูงอายุมาร่วมอีก
ขณะที่คุณป้าวิเชียร สุดเจริญ วัย 72 ปี จากชมรมผู้สูงอายุ 08 บุญรอดรุ่งเรือง บอกว่า รู้สึกชอบที่มีรถไฟฟ้ามาถึงบางนา เพราะมันสะดวกสบาย ความเจริญก็เข้าถึงที่นี่ เราสามารถกะเวลาการเดินทางได้ และก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้สูงอายุอย่างเราโดยเฉพาะไม่ต้องลำบากเหมือนเวลาที่ต้องก้าวขึ้นรถเมล์ ซึ่งไม่ต้องกลัวว่าจะตกบันได นอกจากนี้ การมีรถไฟฟ้าจะได้พาคนต่างถิ่นมาดูวัฒนธรรมของชาวบางนา ซึ่งมีประเพณีที่ดีงาม เช่น ประเพณีสงกรานต์ เป็นต้น
“อย่างไรก็ตาม ป้าอยากให้มีช่องทางเข้าสำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ และมีคนคอยดูแลให้ เพราะบางทีผู้สูงอายุยังเดินไม่พ้นช่องสอดบัตรโดยสารก็ต้องถูกที่กั้นตี ทำให้เจ็บ รวมถึงอยากให้มีบัตรโดยสารฟรีสำหรับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ตลอดจนมีกิจกรรมต่อเนื่องอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ”
สุดท้าย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. บอกว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้จะเป็นการช่วยสร้างความคุ้นเคย และความเชื่อมั่นให้แก่ผู้สูงอายุ ซึ่งควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษในการใช้บริการรถไฟฟ้า โดยจะสร้างความมั่นใจด้วยการอำนวยความสะดวก เช่น ลิฟต์ บันไดเลื่อน และมีความปลอดภัยสูงกับสิ่งป้องกันอันตรายต่างๆ อาทิ พื้นผิวต่างสัมผัส ราวกันตกที่มีพร้อมในทุกสถานี รวมทั้งความเอาใจใส่ดูแลจากเจ้าหน้าที่ทุกคน นอกจากนี้ ยังส่งเสริมให้ผู้สูงอายุได้ร่วมกันพัฒนาชุมชนของตนเองและชุมชนที่อยู่ในแนวเส้นทางรถไฟฟ้าให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และวัฒนธรรมเป็นการสร้างรายได้ให้กับชุมชนอีกทางหนึ่งด้วย
