xs
xsm
sm
md
lg

เครือข่ายแรงงาน ชง สธ.ออกกฎห้ามดื่ม-ขายเหล้า ในโรงงาน

เผยแพร่:

เครือข่ายแรงงาน ชง รมว.สธ.ออกกฎเหล็กห้ามขาย-ห้ามดื่มเหล้า ในโรงงาน หนุนมาตรการห้ามขาย ห้ามดื่มบนรถ-ถนน หลังยอดสงกรานต์ ตายเพิ่ม 49 ศพ ระบุ 2 มาตรการควรบังคับใช้พร้อมกัน

วันนี้ (25 เม.ย.) ที่กระทรวงสาธารณสุข นางสาวประนอม เชียงอั๋ง ผู้ประสานงานเครือข่ายโรงงานสีขาว ลด ละ เลิกเหล้า พร้อมด้วย นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ที่ปรึกษาเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร่วมกับเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ เครือข่ายองค์กรงดเหล้า และมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กว่า 30 คน เข้าพบ นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเรียกร้องให้ผลักดันร่างกฎหมายห้ามขาย หรือบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่ประกอบกิจการโรงงาน พ.ศ... และห้ามขาย ห้ามดื่ม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนรถ ถนน และทางสาธารณะ โดยขอให้เร่งนำเข้าพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ และมีผลบังคับใช้ทันที

นางสาวประนอม กล่าวว่า จากผลสำรวจของมูลนิธิหญิงชายก้าวไกลและเครือข่ายโรงงานฯ ระหว่างวันที่ 16-20 ก.พ.2555 ในประเด็นผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และความคิดเห็นต่อ “มาตรการห้ามขาย หรือห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในโรงงาน” จากจำนวนกลุ่มตัวอย่าง 948 ราย แบ่งเป็น ลูกจ้าง 900 ราย และนายจ้าง 48 ราย ทั้งหมด 30 โรงงาน จากพื้นที่จังหวัดลำพูน นนทบุรี สมุทรสาคร นครปฐม พบว่า ลูกจ้าง 95.78% เห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าว ขณะที่ นายจ้างเห็นด้วย 100% โดยเชื่อว่า จะช่วยลดปัญหาการดื่มเหล้าของคนงานในโรงงานและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้
นางสาวประนอม กล่าวว่า ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาที่ตรงจุด จึงขอให้กระทรวงสาธารณสุข นำข้อเรียกร้องของเครือข่ายไปพิจารณาดังนี้ 1.ขอให้คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เร่งผ่านร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการห้ามขายหรือห้ามบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในพื้นที่ประกอบกิจการโรงงาน เป็นการด่วน 2.จากจำนวนผู้เสียชีวิตในช่วง 7 วันอันตราย เทศกาลสงกรานต์2555 ที่เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาสูงถึง 49 ราย และปัญหาการทะเลาะวิวาท ลวนลาม ของคนเมาขาดสติ จากผลของการขายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บนถนนที่เพิ่มขึ้น จึงขอให้คณะกรรมการเร่งออกมาตรการห้ามขาย ห้ามดื่มบนถนน โดยครอบคลุมถึงบนรถ ท้ายกระบะ และทางสาธารณะ เพื่อลดปัญหา และ 3.ขอให้กำลังใจกระทรวงสาธารณสุข ในการต่อสู้กับอิทธิพลของผู้ที่เสียประโยชน์จากมาตรการดังกล่าวข้างต้น เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการคุ้มครองสุขภาพประชาชน และลดผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ด้านนายจะเด็จ กล่าวว่า ภาคประชาชนมีความหวัง และรอให้เกิดการบังคับใช้ร่างกฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับนี้ มาโดยตลอด และเชื่อว่า ร่างฉบับนี้จะผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ เนื่องจากทุกภาคส่วนเห็นด้วย โดยกฎหมายห้ามขายหรือบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่ประกอบกิจการโรงงาน พ.ศ... สามารถใช้อำนาจตามความใน พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ออกเป็นประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ จะส่งผลดีทั้งกับคนงานเองทั้งในด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ ครอบครัว และนายจ้างที่จะได้ประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา โรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งยังไม่มีกฎหมาย หรือข้อบังคับใดที่สามารถนำมาใช้ควบคุมการจำหน่ายและบริโภคได้อย่างจริงจัง

เพื่อความชัดเจนและป้องกันปัญหาไม่ให้ซ้ำรอย จึงอยากขอให้ระบุวันเวลาให้ชัดเจน ว่า จะมีการบังคับใช้ได้เมื่อไหร่ เพราะถือเป็นกฎหมายใหม่ ที่เครือข่าย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะต้องเตรียมความพร้อม ประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจกับประชาชน อย่างไรก็ตาม ขอสนับสนุนท่าทีของนายวิทยา เพราะถือว่ามาถูกทางแล้ว ควรนำร่างกฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับ ผลักดันให้เกิดการบังคับใช้ไปพร้อมกัน รวมถึงร่างกฎหมายอื่นๆ ที่ภาคประชาชนผลักดันไปก่อนหน้านี้ด้วย” นายจะเด็จ กล่าว

ขณะที่นายวิทยา กล่าวภายหลังจากรับข้อเสนอจากเครือข่าย ว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งตนจะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อผ่านร่าง จากนั้นจะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ เพื่อพิจารณา ให้มีผลบังคับใช้ต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น