‘กรมศิลป์’ สั่งจับตาโบราณสถานภาคใต้ บนรอยเลื่อน-เล็งติดตั้งเครื่องวัดแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหว
วันนี้ (23 เม.ย.) นางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่จังหวัดภูเก็ต หลายครั้ง ตนได้มอบหมายให้สำนักศิลปากรที่ 15 ภูเก็ต สำรวจความเสียหายของโบราณสถาน ที่อาจจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ทางสำนักศิลปากรที่ 15 ภูเก็ต ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบโบราณสถานที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงทั้งหมด ประกอบด้วย โบราณสถานใน จ.ภูเก็ต พังงา กระบี่ และ ระนอง ขณะนี้ยังไม่มีการรายงานว่า มีโบราณสถานแห่งใดได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว แต่กรมศิลปากร ได้วางมาตรการเฝ้าระวังในเบื้องต้น โดยประสานความร่วมมือกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด (สวจ.) ในพื้นที่เสี่ยงภัย และเครือข่ายชุมชนท้องถิ่นร่วมกันเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้จะประสานงานไปยังมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่สามารถผลิตเครื่องมือวัดแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหว และนำไปติดตั้งยังสถานที่ตั้งโบราณสถานสำคัญๆ เพื่อเป็นอีกมาตรการในการเฝ้าระวังด้วย
ทั้งนี้ จากการสำรวจโบราณสถานในพื้นที่อยู่บนรอยเลื่อนเขตภาคใต้ทั้ง 2 แห่ง ได้แก่ รอยเลื่อนระนอง และรอยเลื่อนคลองมะรุย ที่ตัดผ่านด้านตะวันออก จ.ภูเก็ต เข้าไปในอ่าวพังงา จ.พังงา และในบางอำเภอ จ.สุราษฎร์ธานี นั้น พบว่า มีโบราณสถานในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พังงา สุราษฎร์ธานี และระนอง ที่อยู่ในข่ายต้องเฝ้าระวังและดูแลเรื่องความมั่นคงหลายแห่ง เช่น โบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนและอยู่ห่างจากรอยเลื่อนในรัศมี 5 กิโลเมตร จ.สุราษฎร์ธานี ได้แก่ วัดจำปา, วัดป่าลิไลยก์ (วัดป่าเลไลย์), วัดแก้ว (วัดรัตนาราม), วัดหลง, วัดเวียง และวัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร (วัดพระมหาธาตุ) ส่วน จ.ระนอง คือ วัดสุวรรณคีรีวิหาร
ส่วนโบราณสถานที่อยู่ห่างรอยเลื่อนในรัศมี 10 กิโลเมตร จ.สุราษฎร์ธานี วัดศาลาทึม (วัดชยาราม), พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ไชยา, เขาประสงค์ (วัดถ้ำใหญ่), วัดอัมพาวาส (วัดท่าม่วง) จ.พังงา วัดมงคลสุทธาวาสถ้ำผึ้ง, เขาถ้ำ (วัดสุวรรณคูหา) และโบราณสถานใน จ.ระนอง วัดสุวรรณคีรีวิหาร, เขาพระขยางค์, วัดปทุมธาราราม ด้านภูเก็ต ได้แก่ ศาลจังหวัดภูเก็ต ขณะที่โบราณสถานที่อยู่ห่างรอยเลื่อนรัศมี 20 กิโลเมตร จ.สุราษฎร์ธานี วัดสมุหนิมิตร, วัดควนท่าแร่, เมืองโบราณเวียงสระ, วัดน้ำรอบ ขณะที่ใน จ.พังงา วัดมงคลสุทธาวาส, ควนพระเหนอ, ถ้ำผึ้ง เขาถ้ำ (วัดสุวรรณคูหา) และแหล่งที่พระนารายณ์
วันนี้ (23 เม.ย.) นางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่จังหวัดภูเก็ต หลายครั้ง ตนได้มอบหมายให้สำนักศิลปากรที่ 15 ภูเก็ต สำรวจความเสียหายของโบราณสถาน ที่อาจจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ทางสำนักศิลปากรที่ 15 ภูเก็ต ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบโบราณสถานที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงทั้งหมด ประกอบด้วย โบราณสถานใน จ.ภูเก็ต พังงา กระบี่ และ ระนอง ขณะนี้ยังไม่มีการรายงานว่า มีโบราณสถานแห่งใดได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว แต่กรมศิลปากร ได้วางมาตรการเฝ้าระวังในเบื้องต้น โดยประสานความร่วมมือกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด (สวจ.) ในพื้นที่เสี่ยงภัย และเครือข่ายชุมชนท้องถิ่นร่วมกันเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้จะประสานงานไปยังมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่สามารถผลิตเครื่องมือวัดแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหว และนำไปติดตั้งยังสถานที่ตั้งโบราณสถานสำคัญๆ เพื่อเป็นอีกมาตรการในการเฝ้าระวังด้วย
ทั้งนี้ จากการสำรวจโบราณสถานในพื้นที่อยู่บนรอยเลื่อนเขตภาคใต้ทั้ง 2 แห่ง ได้แก่ รอยเลื่อนระนอง และรอยเลื่อนคลองมะรุย ที่ตัดผ่านด้านตะวันออก จ.ภูเก็ต เข้าไปในอ่าวพังงา จ.พังงา และในบางอำเภอ จ.สุราษฎร์ธานี นั้น พบว่า มีโบราณสถานในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พังงา สุราษฎร์ธานี และระนอง ที่อยู่ในข่ายต้องเฝ้าระวังและดูแลเรื่องความมั่นคงหลายแห่ง เช่น โบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนและอยู่ห่างจากรอยเลื่อนในรัศมี 5 กิโลเมตร จ.สุราษฎร์ธานี ได้แก่ วัดจำปา, วัดป่าลิไลยก์ (วัดป่าเลไลย์), วัดแก้ว (วัดรัตนาราม), วัดหลง, วัดเวียง และวัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร (วัดพระมหาธาตุ) ส่วน จ.ระนอง คือ วัดสุวรรณคีรีวิหาร
ส่วนโบราณสถานที่อยู่ห่างรอยเลื่อนในรัศมี 10 กิโลเมตร จ.สุราษฎร์ธานี วัดศาลาทึม (วัดชยาราม), พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ไชยา, เขาประสงค์ (วัดถ้ำใหญ่), วัดอัมพาวาส (วัดท่าม่วง) จ.พังงา วัดมงคลสุทธาวาสถ้ำผึ้ง, เขาถ้ำ (วัดสุวรรณคูหา) และโบราณสถานใน จ.ระนอง วัดสุวรรณคีรีวิหาร, เขาพระขยางค์, วัดปทุมธาราราม ด้านภูเก็ต ได้แก่ ศาลจังหวัดภูเก็ต ขณะที่โบราณสถานที่อยู่ห่างรอยเลื่อนรัศมี 20 กิโลเมตร จ.สุราษฎร์ธานี วัดสมุหนิมิตร, วัดควนท่าแร่, เมืองโบราณเวียงสระ, วัดน้ำรอบ ขณะที่ใน จ.พังงา วัดมงคลสุทธาวาส, ควนพระเหนอ, ถ้ำผึ้ง เขาถ้ำ (วัดสุวรรณคูหา) และแหล่งที่พระนารายณ์
