ศธ.ประกาศหลักเกณฑ์ 1 อ.1 ทุน รุ่น 3 รอบ2 ใหม่ใน 603 อำเภอ พร้อมปรับเกณฑ์ใหม่เปิดกว้างถึงอายุ 25 ปลดล็อกไม่ต้องโชว์หลักฐานฐานการันตียากจน แถมโละสอบสัมภาษณ์เปลี่ยนเป็นสอบ EQ แทน “สุชาติ” ชี้ เพื่อลดการใช้ดุลพินิจตามนโยบาย เพราะอาจเกิดระบบอุปถัมภ์ได้
ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อชี้แจงแนวทางการดำเนินงานและหลักเกณฑ์โครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน รุ่น 3 รอบ 2 กับผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) และ ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) ทั่วประเทศ เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า ตนได้ลงนามในประกาศกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เรื่องการคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการ 1 อำเภอ 1ทุน รุ่นที่ 3 รอบ 2 ภายหลังจากที่เปิดรับสมัครไปแล้วนั้น จำนวนผู้ผ่านการคัดเลือกไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยทุนรัฐบาลมีเป้าหมายอยู่ที่ 928 เขต/อำเภอ แต่ได้มาเพียง 325 เขต/อำเภอ เท่านั้น ดังนั้น ยังเหลืออีก 603 เขต/อำเภอ ที่ยังไม่นักเรียนสมัครเข้าร่วมโครงการ ดังนั้น จะเปิดรับสมัครรับสมัครรอบ 2 เฉพาะในส่วนนี้ยกเว้นใน 325 เขต/อำเภอ ที่มีคัดเลือกเรียบร้อยแล้วจะไม่สามารถสมัครได้อีก
ทั้งนี้ ในการรับสมัครรุ่น 3 รอบที่ 2 นี้ ได้มีการปรับเกณฑ์ใหม่ ซึ่งเปิดกว้างให้คนที่สมัครมีอายุไม่เกิน 25 แต่ต้องเป็นผู้ที่กำลังศึกษา หรือสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่าทั้งสายสามัญและอาชีพ โดยไม่ต้องนำหลักฐานการรับรองรายได้มาแสดง เพราะที่ผ่านมาเกิดปัญหาว่าคนที่ฐานะยากจนจริงๆ จะหาคนรับรองยาก ผู้สมัครต้องมีผลการเรียนเฉลี่ยระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.6) หรือเทียบเท่า สายสามัญหรือสายอาชีพ ไม่ต่ำกว่า 3.00 มีความประพฤติดีและสุขภาพแข็งแรง ไม่เป็นคนไร้ความสามารถ หรือมีความผิดปกติทางจิต ผู้สมัครรับทุนของอำเภอ/เขตใด ต้องมีภูมิลำเนาตามทะเบียนราษฎร ในอำเภอ/เขตนั้นๆ เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 6 เดือน
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อว่า สำหรับปฏิทินการรับสมัคร ดังนี้ ประกาศรับสมัคร 17 เมษายน รับสมัคร 23 เมษายน-18 พฤษภาคม ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบ 25 พฤษภาคม สอบข้อเขียน 3 มิถุนายน ประกาศผลผู้มีสิทธิได้รับทุน 27 มิถุนายน รายงานตัว 2-6 กรกฎาคม ปฐมนิเทศผู้มีสิทธิได้รับทุน 16-27 กรกฎาคม เตรียมความพร้อมผู้รับทุนด้านภาษา วิชาพื้นฐาน และทักษะที่จำเป็น 1-31 สิงหาคม และผู้รับทุนเริ่มเดินทางไปต่างประเทศ กันยายน 2555 เป็นต้นไป โดยนักเรียนสามารถขอรับใบสมัครได้ที่โรงเรียน หรือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.)และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) ทุกเขต หรือดูรายละเอียดและดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่เว็บไซต์ www.moe.go.th, หรือ www.odos.moe.go.th โดยการคัดเลือกและเกณฑ์การตัดสิน จะใช้การสอบข้อเขียนพร้อมกันทั่วประเทศ เป็นข้อสอบกลางวัดความรู้วิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์ วิชาสังคมศึกษา และวิชาภาษาอังกฤษ รวมทั้งให้มีการทดสอบความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) โดยผู้ที่ได้รับการคัดเลือกให้รับทุน จะต้องมีคะแนนรวมทุกวิชาไม่ต่ำกว่า 80% จากเดิมใช้แค่ 60% เพื่อให้สามารถคัดคนเก่ง และมีความสามารถได้อย่างแท้จริง โดยจะนำคะแนนทดสอบความฉลาดทางอารมณ์มาประกอบการพิจารณาคัดเลือกแทนการสอบสัมภาษณ์
“อยากฝาก ผอ.เขตพื้นที่ฯ และ ผอ.โรงเรียนทั้งหมด ให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์และพานักเรียนเก่งมาสมัครเข้าร่วมโครงการดังกล่าวให้มากๆ เพื่อจะได้เกิดการแข่งขันของเด็กเก่ง ซึ่งผมตั้งความหวังไว้ว่าแต่ละเขตจะต้องมีผู้มาสมัครแข่งกันตั้งแต่ 50-100 คน ไม่ใช่เหมือนการสมัครรอบที่ผ่านมา ที่คิดเป็นเฉลี่ยเขต/อำเภอละ 6 คนเท่านั้น นอกจากนี้ การคัดเลือกรอบที่สองนี้ ผมได้ยกเลิกระบบการสอบสัมภาษณ์ และเปลี่ยนเป็นการสอบ EQ แทน เพราะนโยบายของผมไม่ต้องการให้การสอบต่างๆ ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของใครบางคน หรือเกิดเป็นระบบอุปถัมภ์เอื้อประโยชน์กัน” ศ.ดร.สุชาติ กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม ในรุ่นที่ 3 นี้จะเปิดรับสมัครรอบ 2 เป็นรอบสุดท้ายเพราะเราติดด้วยระยะเวลาดำเนินการที่กำหนดไว้เรียบร้อยแล้ว
ถามว่า หากเกิดกรณีผู้สอบทำคะแนนสอบได้สูง แต่คะแนนทดสอบ EQ ต่ำ หรือทำคะแนนสอบได้ต่ำ แต่คะแนน EQ สูงนั้น จะมีการคัดเลือกอย่างไร ศ.ดร.สุชาติ กล่าวว่า กรณีนี้ยังไม่ได้เขียนลงในรายละเอียดหลักเกณฑ์ให้ชัดเจน และเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาภายหลังจะมอบให้รองปลัด ศธ.ไปทำหลักเกณฑ์ดังกล่าวให้ชัดเจน เช่น อาจกำหนดเป็นสัดส่วนคะแนนมาเลย โดยเรื่องดังกล่าวต้องชัดเจนก่อนการเปิดสอบข้อเขียนด้วย
ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อชี้แจงแนวทางการดำเนินงานและหลักเกณฑ์โครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน รุ่น 3 รอบ 2 กับผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) และ ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) ทั่วประเทศ เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า ตนได้ลงนามในประกาศกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เรื่องการคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการ 1 อำเภอ 1ทุน รุ่นที่ 3 รอบ 2 ภายหลังจากที่เปิดรับสมัครไปแล้วนั้น จำนวนผู้ผ่านการคัดเลือกไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยทุนรัฐบาลมีเป้าหมายอยู่ที่ 928 เขต/อำเภอ แต่ได้มาเพียง 325 เขต/อำเภอ เท่านั้น ดังนั้น ยังเหลืออีก 603 เขต/อำเภอ ที่ยังไม่นักเรียนสมัครเข้าร่วมโครงการ ดังนั้น จะเปิดรับสมัครรับสมัครรอบ 2 เฉพาะในส่วนนี้ยกเว้นใน 325 เขต/อำเภอ ที่มีคัดเลือกเรียบร้อยแล้วจะไม่สามารถสมัครได้อีก
ทั้งนี้ ในการรับสมัครรุ่น 3 รอบที่ 2 นี้ ได้มีการปรับเกณฑ์ใหม่ ซึ่งเปิดกว้างให้คนที่สมัครมีอายุไม่เกิน 25 แต่ต้องเป็นผู้ที่กำลังศึกษา หรือสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่าทั้งสายสามัญและอาชีพ โดยไม่ต้องนำหลักฐานการรับรองรายได้มาแสดง เพราะที่ผ่านมาเกิดปัญหาว่าคนที่ฐานะยากจนจริงๆ จะหาคนรับรองยาก ผู้สมัครต้องมีผลการเรียนเฉลี่ยระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.6) หรือเทียบเท่า สายสามัญหรือสายอาชีพ ไม่ต่ำกว่า 3.00 มีความประพฤติดีและสุขภาพแข็งแรง ไม่เป็นคนไร้ความสามารถ หรือมีความผิดปกติทางจิต ผู้สมัครรับทุนของอำเภอ/เขตใด ต้องมีภูมิลำเนาตามทะเบียนราษฎร ในอำเภอ/เขตนั้นๆ เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 6 เดือน
รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อว่า สำหรับปฏิทินการรับสมัคร ดังนี้ ประกาศรับสมัคร 17 เมษายน รับสมัคร 23 เมษายน-18 พฤษภาคม ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบ 25 พฤษภาคม สอบข้อเขียน 3 มิถุนายน ประกาศผลผู้มีสิทธิได้รับทุน 27 มิถุนายน รายงานตัว 2-6 กรกฎาคม ปฐมนิเทศผู้มีสิทธิได้รับทุน 16-27 กรกฎาคม เตรียมความพร้อมผู้รับทุนด้านภาษา วิชาพื้นฐาน และทักษะที่จำเป็น 1-31 สิงหาคม และผู้รับทุนเริ่มเดินทางไปต่างประเทศ กันยายน 2555 เป็นต้นไป โดยนักเรียนสามารถขอรับใบสมัครได้ที่โรงเรียน หรือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.)และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) ทุกเขต หรือดูรายละเอียดและดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่เว็บไซต์ www.moe.go.th, หรือ www.odos.moe.go.th โดยการคัดเลือกและเกณฑ์การตัดสิน จะใช้การสอบข้อเขียนพร้อมกันทั่วประเทศ เป็นข้อสอบกลางวัดความรู้วิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์ วิชาสังคมศึกษา และวิชาภาษาอังกฤษ รวมทั้งให้มีการทดสอบความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) โดยผู้ที่ได้รับการคัดเลือกให้รับทุน จะต้องมีคะแนนรวมทุกวิชาไม่ต่ำกว่า 80% จากเดิมใช้แค่ 60% เพื่อให้สามารถคัดคนเก่ง และมีความสามารถได้อย่างแท้จริง โดยจะนำคะแนนทดสอบความฉลาดทางอารมณ์มาประกอบการพิจารณาคัดเลือกแทนการสอบสัมภาษณ์
“อยากฝาก ผอ.เขตพื้นที่ฯ และ ผอ.โรงเรียนทั้งหมด ให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์และพานักเรียนเก่งมาสมัครเข้าร่วมโครงการดังกล่าวให้มากๆ เพื่อจะได้เกิดการแข่งขันของเด็กเก่ง ซึ่งผมตั้งความหวังไว้ว่าแต่ละเขตจะต้องมีผู้มาสมัครแข่งกันตั้งแต่ 50-100 คน ไม่ใช่เหมือนการสมัครรอบที่ผ่านมา ที่คิดเป็นเฉลี่ยเขต/อำเภอละ 6 คนเท่านั้น นอกจากนี้ การคัดเลือกรอบที่สองนี้ ผมได้ยกเลิกระบบการสอบสัมภาษณ์ และเปลี่ยนเป็นการสอบ EQ แทน เพราะนโยบายของผมไม่ต้องการให้การสอบต่างๆ ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของใครบางคน หรือเกิดเป็นระบบอุปถัมภ์เอื้อประโยชน์กัน” ศ.ดร.สุชาติ กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม ในรุ่นที่ 3 นี้จะเปิดรับสมัครรอบ 2 เป็นรอบสุดท้ายเพราะเราติดด้วยระยะเวลาดำเนินการที่กำหนดไว้เรียบร้อยแล้ว
ถามว่า หากเกิดกรณีผู้สอบทำคะแนนสอบได้สูง แต่คะแนนทดสอบ EQ ต่ำ หรือทำคะแนนสอบได้ต่ำ แต่คะแนน EQ สูงนั้น จะมีการคัดเลือกอย่างไร ศ.ดร.สุชาติ กล่าวว่า กรณีนี้ยังไม่ได้เขียนลงในรายละเอียดหลักเกณฑ์ให้ชัดเจน และเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาภายหลังจะมอบให้รองปลัด ศธ.ไปทำหลักเกณฑ์ดังกล่าวให้ชัดเจน เช่น อาจกำหนดเป็นสัดส่วนคะแนนมาเลย โดยเรื่องดังกล่าวต้องชัดเจนก่อนการเปิดสอบข้อเขียนด้วย