xs
xsm
sm
md
lg

สธ.สั่งทุกโรงพยาบาลเตรียมรับมืออุบัติเหตุ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วิทยา บุรณศิริ  รมว.สธ.
สธ.สั่งทุก รพ.เตรียมรับมืออุบัติเหตุ 24 ชั่วโมง เน้นบนถนน 4 สายหลัก คือ “เอเชีย พหลโยธิน มิตรภาพ และ สุขุมวิท” พร้อมแนะประชาชนดูแลความปลอดภัยชีวิตตนเอง งดดื่มเหล้าก่อนเดินทาง

นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า เทศกาลสงกรานต์ปี 2555 นี้ ซึ่งมีวันหยุดต่อเนื่อง 4 วัน ประชาชนจะออกเดินทางทั้งไปท่องเที่ยว และกลับภูมิลำเนาจำนวนมาก ทำให้มีอุบัติเหตุสูงกว่าช่วงปกติประมาณ 2 เท่าตัว ได้กำชับให้โรงพยาบาลในถนนสายหลัก ได้แก่ เอเชีย มิตรภาพ พหลโยธิน และ สุขุมวิท เตรียมทีมแพทย์ฉุกเฉินบริการตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากจะมีปริมาณรถมากกว่าปกติ โดยเพิ่มแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอุบัติเหตุทุกสาขา เสริมกับทีมแพทย์ทั่วไป เตรียมห้องฉุกเฉิน ห้องผ่าตัด ห้องไอ.ซี.ยู.เพิ่มเตียงรับผู้ป่วยขึ้นอีก 3 เท่าตัว สำรองคลังเลือดทุกกรุ๊ปประมาณ 3 เท่าตัว รวมถึงดูแลระบบการส่งต่อผู้ป่วย ทั้งโรงพยาบาลรัฐ/เอกชน ให้มีประสิทธิภาพด้วย โดยประชาชนโทร.แจ้งขอความช่วยเหลือที่สายด่วน 1669 มีทั้งหมด 500 คู่สาย ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งประชาชนจะได้รับบริการด้วยมาตรฐาน 3 เร็ว 2 ดี

นายวิทยา กล่าวด้วยว่า  ขอย้ำเตือนก่อนเดินทาง ขอให้เตรียมตัวล่วงหน้า โดยงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเดินทาง 1 วัน และพักผ่อนให้เต็มที่อย่างน้อย 8 ชั่วโมง ห้ามกินยาที่ทำให้เกิดอาการง่วง เช่น ยาแก้แพ้ ลดน้ำมูก ยาแก้ไอ ยาคลายเครียด คลายกล้ามเนื้อ เป็นต้น ขณะขับรถขออย่าประมาท และอย่าขับรถเร็ว คาดเข็มขัดนิรภัย/สวมหมวกนิรภัยทุกครั้ง และเมื่อดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้ว ห้ามขับรถอย่างเด็ดขาด เพราะระดับแอลกอฮอล์ในเลือด แม้จะต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด คือ50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ก็ตาม จะมีผลต่อการตัดสินใจช้ากว่าปกติ 2 เท่าตัว

ด้าน นายแพทย์ ไพจิตร์ วราชิต ปลัด สธ.กล่าวว่า ข้อมูลจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2554 ระบุว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ เมาสุรา พบร้อยละ 39 โดยมีพฤติกรรมเสี่ยงของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการไม่สวมหมวกนิรภัยร้อยละ 33 พาหนะที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุเป็นรถจักรยานยนต์ถึงร้อยละ 81 ส่วนใหญ่ร้อยละ 58 เกิดในถนนสายตรง ส่วนถนนในหมู่บ้านพบร้อยละ 35 และบนทางหลวงพบร้อยละ 33

ทั้งนี้ ความปลอดภัยในชีวิตของผู้โดยสารรถ ขึ้นอยู่กับคนขับ หากมีอาการง่วง อย่าฝืนขับเด็ดขาดจะเสี่ยงต่อการหลับใน ขอให้จอดรถในที่ปลอดภัยเพื่องีบหลับ หรือสลับให้คนอื่นขับแทน ซึ่งผลของการง่วงนอน จะทำให้ประสาทสัมผัสทุกอย่างช้าลง การตัดสินใจผิดพลาด สมองสั่งการกล้ามเนื้อช้าลง เมื่อเกิดเหตุการณ์คับขันจึงแตะเบรกได้ช้ากว่าปกติ เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย การหลับในเพียง 4 วินาที ก็อาจทำให้บาดเจ็บ เสียชีวิตได้

โดยหากรถวิ่งเร็ว 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และคนขับอยู่ในอาการหลับใน รถจะวิ่งต่อไปอีก 100 เมตร โดยที่ไม่มีคนควบคุมรถ หากชนกับสิ่งขีดขวาง ความรุนแรงของการพุ่งชน จะเทียบได้กับการตกตึกสูงถึง 10 ชั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น