เปิดพื้นที่ประชาชนเฝ้ารับเสด็จฯ ในหลวง ราชินี พระบรมวงศานุวงศ์ รอบพื้นที่พระเมรุท้องสนามหลวง งานพระราชพิธีพระราชเพลิงพระศพ สมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ ด้าน กรมศิลป์ ส่งมอบพื้นที่พระเมรุให้ สำนักพระราชวัง
วันนี้ (6 เม.ย.) เวลา 10.00 น.ที่ โรงประติมากรรมต้นแบบ กรมศิลปากร ช่างแทงหยวกเมืองเพชรบุรี ร่างแบบพระจิตกาธาน เพื่อใช้ในการประกอบพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี โดยนายเอนก สุสุทธิ ช่างแทงหยวก กล่าวว่า ขณะนี้ได้ดำเนินร่างแบบและเตรียมที่จะแทงหยวกเพื่อประกอบพระจิตกาธาน โดยพระจิตกาธานมีความสูงรวม 9 ชั้น แบ่งเป็นส่วนยอด 7 ชั้น ส่วนฐาน 2 ชั้น มีความสูงไม่เกิน 9 เมตร กว้าง 1.2 เมตร โดยช่างจะแทงหยวกเป็นลวดลายตามที่สำนักพระราชวังกำหนด กว่า 1,000 ชิ้น ประกอบเป็นพระจิตกาธานบริเวณพระเมรุ วันที่ 8 เม.ย.
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 11.00 น.กรมศิลปากร ประกอบพิธีทำบุญเลี้ยงพระอุทิศให้แก่บรมครูช่าง เพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคล และสร้างขวัญกำลังใจในการทำงานช่างในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ โดย นางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร เป็นประธาน จากนั้นเวลา 13.00 น.นางโสมสุดา ร่วมประชุมกับกรมราชองครักษ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมเส้นทางเสด็จพระราชดำเนิน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ พร้อมส่งมอบพื้นที่พระเมรุ ให้แก่ สำนักพระราชวัง ในการเตรียมพร้อมพื้นที่ประกอบพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอเจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ
อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า กรมราชองครักษ์ ได้ประสานหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมความพร้อมในการรับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ ที่จะเสด็จพระราชดำเนินประกอบพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ ระหว่างวันที่ 9-10 เม.ย.ประกอบด้วย สำนักพระราชวัง กรมศิลปากร กองบังคับการตำรวจนครบาล (บช.น.) สถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม และกรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยมีการหารือถึงการเตรียมความพร้อมตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จพระราชดำเนินออกจากโรงพยาบาลศิริราช ถึงมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ในเวลา 16.30 น.จนกระทั่งเสร็จสิ้นพระราชพิธี สำหรับส่วนประชาชนที่จะมารอเฝ้ารับเสด็จฯ สามารถรอรับเสด็จฯได้โดยรอบสนามหลวง
นางโสมสุดา กล่าวว่า กรมศิลปากร ได้ส่งมอบพื้นที่พระเมรุให้แก่ สำนักพระราชวัง โดยมี นายดิสธร วัชโรทัย รองเลขาธิการพระราชวัง เป็นผู้รับมอบ เพื่อให้ทางสำนักพระราชวัง ได้เตรียมการจัดพื้นเฝ้ารับเสด็จฯ รวมทั้งจัดพื้นสำหรับผู้เข้าร่วมพระราชพิธีตามอาคารต่างๆ เนื่องจากจะต้องเตรียมรองรับผู้ที่เข้าร่วมพระราชพิธีมากกว่า 4,000 คน อย่างไรก็ตาม กรมศิลปากร ยังคอยดูแลความเรียบร้อยพระเมรุ และอาคารประกอบพระเมรุอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความงดงามจนกระทั่งเสร็จสิ้นงานพระราชพิธี