xs
xsm
sm
md
lg

“สุชาติ” ตั้ง กก.สอบทุจริต ครุภัณฑ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รมว.ศธ.
พิษทุจริตครุภัณฑ์อาชีวะ “สุชาติ” ตั้ง กก.สืบสวนข้อเท็จจริง มอบ ปลัดยุติธรรม เป็นประธานให้เวลา 15 วัน  ชี้ ระบุ ปลัด ศธ.ไม่จำเป็นต้องยุติบทบาทเพราะมองว่าออกมาจากจุดนั้นแล้ว คงไม่มีอิทธิพลต่อคนหรือเอกสารใด ๆ ในอาชีวะ ด้าน “ศศิธารา” ยันทุกอย่างโปร่งใส

ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่ากระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 มีนาคม ที่ผ่านมา ตนได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีมีหนังสือร้องเรียนกล่าวหา อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.) หรือ นางสาวศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัด ศธ. ปฏิบัติราชการหาผลประโยชน์ให้พรรคพวกและบกพร่องในหน้าที่ทำให้ราชการเสียหายอย่างร้ายแรงเกี่ยวกับการทุจริตงบไทยเข้มแข็ง (SP2) ในการดำเนินโครงการของสำนักคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.)  สำหรับคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ประกอบด้วย นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม (ยธ.)  เป็นประธานกรรมการ นายกิจสุวัฒน์ หงส์เจริญ ผู้ตรวจราชการ ศธ.เป็นเลขานุการ ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ในการสืบสวนหาข้อเท็จจริงการจัดหาครุภัณฑ์โครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 ไทยเข้มแข็ง (SP2) มูลค่า 884 ล้านบาท  ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน

“ขณะนี้มีข้อเท็จจริงเปิดเผยออกมาบางส่วนแล้ว และผมมองว่าต้องสร้างความโปร่งใสอย่างรวดเร็วจึงขอให้ ปลัด ยธ.มาเป็นประธานและมีคณะกรรมการจากคนภายนอก ศธ. มาร่วมตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะตอนมีการร้องเรียนทั้ง ปลัด ศธ.ปัจจุบัน และเรื่องวิธีการจัดซื้อครุภัณฑ์ก็ต้องสอบสวนให้ชัดเจนว่าไปเกี่ยวพันกับใครบ้าง” รมว.ศึกษาธิการ กล่าว

ถามว่า ในช่วงเวลาการสืบสวนข้อเท็จจริงจำเป็นต้องให้ น.ส.ศศิธารา ยุติบทบาทในระหว่างการสืบหาข้อเท็จจริงหรือไม่ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า “ผมเข้าใจว่าปลัด ศธ.นั้นได้ย้ายออกมาจาก สอศ.แล้วเหมือนย้ายมาอีกหน่วยงานหนึ่ง ไม่มีอิทธิพลหรือสามารถสั่งการต่อคนหรือเอกสารใด ๆ ในอาชีวะ และระบบกระทรวงศึกษาฯ นั้นเป็นระบบค่อนข้างอิสระมีทั้ง 5 แท่งแม้ ปลัด ศธ. จะเป็นซี 11 แต่ก็ไม่สามรรถไปสั่งซี 11 คนอื่น ๆ ได้ และก็ไม่กังวลเรื่องคนจะมองว่าปกป้อง ผมเป็นคนทำงานตรงไปตรงมา เดี๋ยวถ้าผมไม่ตั้งก็จะมีบางส่วนบอกว่าทำไมไม่ตั้งเพราะฉะนั้นจะยึดหลักการความโปร่งใส”
 

ด้าน น.ส.ศศิธารา กล่าวว่า ตนมองว่าเป็นสิ่งที่ดีเมื่อมีการออกมาให้ข้อมูลเช่นนี้และมีการตรวจสอบ โดยเฉพาะ  ศ.ดร.สุชาติ นั้นประกาศเป็นนโยบายแต่ต้นว่าต้องยึดความโปร่งใส ที่ผ่านมาตนพูดด้วยปากแต่ไม่มีใครเชื่อ ว่ากระบวนการดำเนินการทั้งหมดนั้นเป็นไปตามขั้นตอน 100% ตั้งแต่เริ่มการอนุมัติจัดซื้อนำหนังสือผ่าน รมช.ศึกษาธิการ และรมว.ศึกษาธิการ ที่กำกับจนกระทั่งนำเสนอ ผ่าน ครม. ไปสู่การพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรอง มีการเปรียบเทียบราคาของโดยผู้มีความรู้ ครูผู้สอน และมีการประชาพิจารณ์อย่างถูกต้อง จนกระทั่งเมื่อถึงกระบวนการอีอ็อกชั่น ซึ่งในเวลาดังกล่าวตนได้มารับตำแหน่ง ปลัด ศธ. แล้ว และทราบว่า นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการ กอศ.ก็ได้ลงนามในสัญญาซึ่งเป็นการปฏิบัติตามระเบียบหากไม่ทำมีความผิดอีก ส่วนกระบวนการตรวจรับซึ่งเป็นในส่วนของวิทยาลัยหากตรวจสอบว่าไม่ตรงกับสเป็กก็ต้องมาตรวจสอบ

“น่ายินดีว่าตอนนี้เงินจำนวน 884 ล้านบาทนั้นยังไม่มีการเบิกออกมา ดังนั้น เมื่อมีร้องก็ตรวจสอบพบว่าไม่ตรงตามสเปกผู้รับเหมาก็ต้องไปเปลี่ยน แต่หากสเป็กไม่ตรงก็ยังตรวจรับอีกก็คนตรวจสอบก็จะผิด คนจ่ายเงินก็ผิดด้วย แต่ตอนนี้ยังไม่มีการจ่ายเพราะฉะนั้นเป็นเรื่องที่ดีที่ต้องทำให้โปร่งใส  เราก็ต้องจู้จี้กับผู้รับเหมาเอาของที่ถูกต้องมาให้ ส่วนตัวเชื่อและยืนยันว่ากระบวนการดำเนินการโปร่งใส 100% และจากการทำงานกับ รมว.ศึกษาธิการ มา 2 เดือนก็สัมผัสได้ว่าเป็นคนมีจริยธรรมคุณธรรม แม้อาจจะดูว่าดิฉันสนิมสนมทำงานใกล้ชิดแต่อะไรที่ รมว.ศึกษากังขา ท่านก็จะทำแบบนี้ อย่างไรก็ตาม เรื่องแบบนี้แม้แต่บนโต๊ะทำงานดิฉันก็มีจำนวนมาก แต่มันจะมีประโยชน์อะไรที่จะเอามาพูดมีแต่คนคิดให้ร้าย และเท่าที่สืบทราบเรื่องนี้ก็มาจากบุคคลเดิม เพราะฉะนั้น เชื่อว่าคนที่ติดตามข่าวมาตลอดจะรู้ว่าเรื่องนี้เกิดจากอะไร”ปลัด ศธ. กล่าว
 
 
 
 
 
 
กำลังโหลดความคิดเห็น