ปลัดแรงงาน ชี้ชัด เซอร์วิสชาร์จคิดรวมเป็นค่าจ้างขั้นต่ำได้ หากเก็บผ่านใบเสร็จ แต่แนะผู้ประกอบคิดให้รอบคอบ อาจได้ไม่คุ้มเสียทำลูกจ้างขวัญหายหมดกำลังใจทำงาน
วันนี้ (19 มี.ค.) นพ.สมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ได้หารือกับผู้ประกอบการโรงแรมและการท่องเที่ยว เมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่าค่าเซอร์วิสชาร์จ จะนำมารวมเป็นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท ซึ่งจะเริ่มมีผล 1 เม.ย.นี้ หรือไม่ว่า โดยการหารือได้ข้อสรุปว่าหากลูกค้าของโรงแรมจ่ายค่าเซอร์วิสชาร์จแก่ลูกจ้างโดยตรง จะไม่สามารถนำมาคิดรวมเป็นค่าจ้างขั้นต่ำได้
อย่างไรก็ตาม หากเป็นการเรียกเก็บค่าเซอร์วิสชาร์จ ผ่านใบเสร็จค่าบริการ และนำมาเป็นรายได้ของโรงแรม แล้วจึงนำมาจ่ายเป็นรายได้ของพนักงานในภายหลังก็สามารถนำมาคิดรวมเป็นค่าจ้างขั้นต่ำได้ ซึ่งจะทำให้ฐานเงินเดือนสูงขึ้น มีผลต่อเนื่องในการคำนวณการจ่ายโบนัส ค่าล่วงเวลา และการปรับขึ้นเงินเดือนตามไปด้วย ทั้งนี้ ในช่วงโลว์ซีซันลูกค้าน้อย และไม่มีรายได้จากค่าเซอร์วิสชาร์จ ผู้ประกอบการยังคงต้องจ่ายค่าจ้างขั้นต่ำตามที่กฎหมายกำหนด โดยเป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการต้องบริหารจัดการการเงินเอง
“หากผู้ประกอบการจะจ่ายแต่เฉพาะค่าจ้างขั้นต่ำ และงดจ่ายค่าเซอร์วิสชาร์จก็เป็นสิทธิที่ทำได้ กฎหมายไม่ได้เขียนบังคับไว้ในเรื่องนี้ แต่ผู้ประกอบการก็ต้องคำนึงถึงความรู้สึกของพนักงาน เพราะแต่เดิมเคยได้ค่าเซอร์วิสชาร์จเป็นรายได้ แต่พอปรับค่าจ้างขั้นต่ำแล้วกลับไม่ได้ ลูกจ้างจะเสียขวัญและกำลังใจในการทำงาน ดังนั้นนายจ้างต้องพิจารณาให้ดีว่าคุ้มหรือไม่กับผลกระทบที่ตามมา” นพ.สมเกียรติ กล่าว
นพ.สมเกียรติ กล่าวต่อว่า หากเกิดกรณีดังกล่าวขึ้นมา กระทรวงแรงงานจะมอบหมายให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) ส่งพนักงานตรวจแรงงานไปพูดคุยกับผู้ประกอบการเพื่อขอความร่วมมือในการจ่ายค่าเซอร์วิสชาร์จเป็นสวัสดิการแก่พนักงานตามเดิมแต่คงบังคับไม่ได้เพราะกฎหมายไม่ได้บังคับไว้
น.ส.อาภรณ์ ชุนวร หัวหน้าฝ่ายบริหารทรัพยากรมนุษย์ โรงแรมอัปสรา บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา ใน อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา กล่าวว่า ขณะนี้ความเห็นในเรื่องการปรับค่าจ้างขั้นต่ำระหว่างลูกจ้างกับนายจ้างยัง ไม่ตรงกัน โดยลูกจ้างเห็นว่าโรงแรมควรจ่ายค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินเดือนล้วนๆ โดยไม่นำค่าเซอร์วิสชาร์จมารวม และอยากให้นำเงินดังกล่าวมาเป็นสวัสดิการแก่ลูกจ้าง ขณะที่ฝ่ายนายจ้าง เห็นว่า ควรนำค่าเซอร์วิสชาร์จมารวมอยู่ในค่าจ้างขั้นต่ำด้วย อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป ผู้บริหารโรงแรมจะประชุมใหญ่วันที่ 28 มี.ค.นี้ เพืื่อหาข้อสรุปที่ชัดเจน
วันนี้ (19 มี.ค.) นพ.สมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ได้หารือกับผู้ประกอบการโรงแรมและการท่องเที่ยว เมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่าค่าเซอร์วิสชาร์จ จะนำมารวมเป็นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท ซึ่งจะเริ่มมีผล 1 เม.ย.นี้ หรือไม่ว่า โดยการหารือได้ข้อสรุปว่าหากลูกค้าของโรงแรมจ่ายค่าเซอร์วิสชาร์จแก่ลูกจ้างโดยตรง จะไม่สามารถนำมาคิดรวมเป็นค่าจ้างขั้นต่ำได้
อย่างไรก็ตาม หากเป็นการเรียกเก็บค่าเซอร์วิสชาร์จ ผ่านใบเสร็จค่าบริการ และนำมาเป็นรายได้ของโรงแรม แล้วจึงนำมาจ่ายเป็นรายได้ของพนักงานในภายหลังก็สามารถนำมาคิดรวมเป็นค่าจ้างขั้นต่ำได้ ซึ่งจะทำให้ฐานเงินเดือนสูงขึ้น มีผลต่อเนื่องในการคำนวณการจ่ายโบนัส ค่าล่วงเวลา และการปรับขึ้นเงินเดือนตามไปด้วย ทั้งนี้ ในช่วงโลว์ซีซันลูกค้าน้อย และไม่มีรายได้จากค่าเซอร์วิสชาร์จ ผู้ประกอบการยังคงต้องจ่ายค่าจ้างขั้นต่ำตามที่กฎหมายกำหนด โดยเป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการต้องบริหารจัดการการเงินเอง
“หากผู้ประกอบการจะจ่ายแต่เฉพาะค่าจ้างขั้นต่ำ และงดจ่ายค่าเซอร์วิสชาร์จก็เป็นสิทธิที่ทำได้ กฎหมายไม่ได้เขียนบังคับไว้ในเรื่องนี้ แต่ผู้ประกอบการก็ต้องคำนึงถึงความรู้สึกของพนักงาน เพราะแต่เดิมเคยได้ค่าเซอร์วิสชาร์จเป็นรายได้ แต่พอปรับค่าจ้างขั้นต่ำแล้วกลับไม่ได้ ลูกจ้างจะเสียขวัญและกำลังใจในการทำงาน ดังนั้นนายจ้างต้องพิจารณาให้ดีว่าคุ้มหรือไม่กับผลกระทบที่ตามมา” นพ.สมเกียรติ กล่าว
นพ.สมเกียรติ กล่าวต่อว่า หากเกิดกรณีดังกล่าวขึ้นมา กระทรวงแรงงานจะมอบหมายให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) ส่งพนักงานตรวจแรงงานไปพูดคุยกับผู้ประกอบการเพื่อขอความร่วมมือในการจ่ายค่าเซอร์วิสชาร์จเป็นสวัสดิการแก่พนักงานตามเดิมแต่คงบังคับไม่ได้เพราะกฎหมายไม่ได้บังคับไว้
น.ส.อาภรณ์ ชุนวร หัวหน้าฝ่ายบริหารทรัพยากรมนุษย์ โรงแรมอัปสรา บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา ใน อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา กล่าวว่า ขณะนี้ความเห็นในเรื่องการปรับค่าจ้างขั้นต่ำระหว่างลูกจ้างกับนายจ้างยัง ไม่ตรงกัน โดยลูกจ้างเห็นว่าโรงแรมควรจ่ายค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินเดือนล้วนๆ โดยไม่นำค่าเซอร์วิสชาร์จมารวม และอยากให้นำเงินดังกล่าวมาเป็นสวัสดิการแก่ลูกจ้าง ขณะที่ฝ่ายนายจ้าง เห็นว่า ควรนำค่าเซอร์วิสชาร์จมารวมอยู่ในค่าจ้างขั้นต่ำด้วย อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป ผู้บริหารโรงแรมจะประชุมใหญ่วันที่ 28 มี.ค.นี้ เพืื่อหาข้อสรุปที่ชัดเจน