ศธ.เดินหน้ายกระดับเด็กไทยให้เก่งภาษาอังกฤษ จับมือ “บริติชเคานซิล” ส่งครูเจ้าของภาษามาสอนพร้อมอ้อนจีนส่งครูจีนมาสอนโดยให้เน้นการพูด และสำเนียง เพื่อให้สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ง่ายขึ้น ขณะที่ บริติชฯ ยินดีมอบหลักสูตรให้ฟรีๆ 7 หลักสูตร ด้าน ศธ.เตรียมนำไปปรับบรรจุในแท็บเล็ต
น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ตามที่ ศธ.ได้ประกาศโครงการ “English Speaking Year 2012” ไปแล้วนั้น ขณะนี้ได้มีการดำเนินการต่างๆ ไปแล้วหลายเรื่อง และเมื่อเร็วๆ นี้ ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการ ศธ.ได้หารือกับประธานสถาบันบริติชเคานซิล ถึงความร่วมมือในเรื่องเกี่ยวกับการสอนภาษาอังกฤษให้กับนักเรียน โดยเบื้องต้นสถาบันบริติชฯ แจ้งว่า จะมอบหลักสูตรการสอนภาษาอังกฤษทุกระดับชั้น ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 (ป.1) ขึ้นไป จำนวน 7 หลักสูตรให้กับประเทศไทย โดยที่ไทยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งหลักสูตรเหล่านี้สามารถนำมาบรรจุลงในเครื่องแท็บเล็ตได้ เพียงแต่ต้องแปลงไฟล์ใฟ้เหมาะสมก่อนเท่านั้น โดยทางสถาบันบริติชฯขอเพียงให้ใส่ที่มาของหลักสูตรนี้ว่าสถาบันเท่านั้น
“ข้อดีของหลักสูตรการสอนภาษาอังกฤษของบริติชฯ คือเป็นหลักสูตรที่ใช้สอนทุกประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ แล้วได้ผลเป็นอย่างดี ซึ่งทางบริติชฯ ยินดีจะมอบให้กับเราโดยไม่ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ดังนั้น หากเราได้เครื่องแท็บเล็ตมาแล้วก็จะประสานกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการสื่อสาร หรือ ไอซีที เพื่อเลือกหลักสูตรบรรจุให้ตรงกับนักเรียน” ปลัด ศธ. กล่าว
น.ส.ศศิธารา กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ รมว.ศึกษาธิการ ได้เสนอขอให้ทางสถาบันบริติชฯ ส่งครูมาช่วยสอนภาษาอังกฤษในประเทศไทยนั้น ทางสถาบันบริติชฯ ก็ยินดีเพียงแต่แจ้งว่าต้องมีค่าใช้จ่าย ซึ่งในเรื่องดังกล่าว ศ.ดร.สุชาติ ก็ได้ตอบรับว่า ยินดีจะอำนวยความสะดวกให้ ซึ่งจากนี้จะต้องไปหารือในรายละเอียดว่าจะสามารถจัดส่งมาได้จำนวนกี่คน และจะไปสอนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนใดบ้าง อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนมิถุนายน-พฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงซัมเมอร์ของประเทศอังกฤษ ดังนั้น ทางสถาบันบริติชจะรับสมัครอาสาสมัครที่เป็นนักศึกษาทั้งชาวอังกฤษ, สกอตแลนด์ เป็นต้น ประมาณ 2,000-3,000 คน เพื่อเดินทางมาสอนภาษาอังกฤษให้กับนักเรียนไทย โดย ศธ.จะหารือกับโรงเรียนและวิทยาลัยต่างๆ ว่า สามารถรับได้แห่งละกี่คน ในหลักการ 1 คนจะอยู่ในโรงเรียนนั้นๆ ได้คนละ 2 สัปดาห์ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรม เข้าค่ายร่วมกันกับนักเรียนไทย และได้รู้จักพ่อแม่ผู้ปกครองของนักเรียน ส่วนการสอนจะให้เน้นการพูด สำเนียง และเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับสหราชอาณาจักร
น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ตามที่ ศธ.ได้ประกาศโครงการ “English Speaking Year 2012” ไปแล้วนั้น ขณะนี้ได้มีการดำเนินการต่างๆ ไปแล้วหลายเรื่อง และเมื่อเร็วๆ นี้ ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการ ศธ.ได้หารือกับประธานสถาบันบริติชเคานซิล ถึงความร่วมมือในเรื่องเกี่ยวกับการสอนภาษาอังกฤษให้กับนักเรียน โดยเบื้องต้นสถาบันบริติชฯ แจ้งว่า จะมอบหลักสูตรการสอนภาษาอังกฤษทุกระดับชั้น ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 (ป.1) ขึ้นไป จำนวน 7 หลักสูตรให้กับประเทศไทย โดยที่ไทยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งหลักสูตรเหล่านี้สามารถนำมาบรรจุลงในเครื่องแท็บเล็ตได้ เพียงแต่ต้องแปลงไฟล์ใฟ้เหมาะสมก่อนเท่านั้น โดยทางสถาบันบริติชฯขอเพียงให้ใส่ที่มาของหลักสูตรนี้ว่าสถาบันเท่านั้น
“ข้อดีของหลักสูตรการสอนภาษาอังกฤษของบริติชฯ คือเป็นหลักสูตรที่ใช้สอนทุกประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ แล้วได้ผลเป็นอย่างดี ซึ่งทางบริติชฯ ยินดีจะมอบให้กับเราโดยไม่ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ดังนั้น หากเราได้เครื่องแท็บเล็ตมาแล้วก็จะประสานกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการสื่อสาร หรือ ไอซีที เพื่อเลือกหลักสูตรบรรจุให้ตรงกับนักเรียน” ปลัด ศธ. กล่าว
น.ส.ศศิธารา กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ รมว.ศึกษาธิการ ได้เสนอขอให้ทางสถาบันบริติชฯ ส่งครูมาช่วยสอนภาษาอังกฤษในประเทศไทยนั้น ทางสถาบันบริติชฯ ก็ยินดีเพียงแต่แจ้งว่าต้องมีค่าใช้จ่าย ซึ่งในเรื่องดังกล่าว ศ.ดร.สุชาติ ก็ได้ตอบรับว่า ยินดีจะอำนวยความสะดวกให้ ซึ่งจากนี้จะต้องไปหารือในรายละเอียดว่าจะสามารถจัดส่งมาได้จำนวนกี่คน และจะไปสอนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนใดบ้าง อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนมิถุนายน-พฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงซัมเมอร์ของประเทศอังกฤษ ดังนั้น ทางสถาบันบริติชจะรับสมัครอาสาสมัครที่เป็นนักศึกษาทั้งชาวอังกฤษ, สกอตแลนด์ เป็นต้น ประมาณ 2,000-3,000 คน เพื่อเดินทางมาสอนภาษาอังกฤษให้กับนักเรียนไทย โดย ศธ.จะหารือกับโรงเรียนและวิทยาลัยต่างๆ ว่า สามารถรับได้แห่งละกี่คน ในหลักการ 1 คนจะอยู่ในโรงเรียนนั้นๆ ได้คนละ 2 สัปดาห์ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรม เข้าค่ายร่วมกันกับนักเรียนไทย และได้รู้จักพ่อแม่ผู้ปกครองของนักเรียน ส่วนการสอนจะให้เน้นการพูด สำเนียง และเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับสหราชอาณาจักร
