เล็งซื้อเฮลิคอปเตอร์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพดับเพลิง สภา กทม.พร้อมออกข้อบัญญัติมัดเจ้าของอาคารปฏิบัติตามกฎหมาย
นายสุทธิชัย วีระกุลสุนทร ประธานสภากรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมสภากทม.ว่า สภา กทม.ได้มีการตั้งคณะกรรมการวิสามัญศึกษาตรวจสอบอาคารสูงและอาคารขนาดใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้ จะร่วมกับผู้บริหาร กทม.เพื่อเร่งตรวจสอบอาคารที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย โดยเฉพาะอาคารที่ก่อสร้างก่อนปี พ.ศ.2535 ซึ่งยังไม่มีพระราชบัญญัติควบคุมอาคารปี 2535 และไม่มีความเข้มงวดในเรื่องความปลอดภัยของอาคาร ทั้งนี้ พบว่า อาคารที่สร้างก่อนปี พ.ศ.2535 ส่วนใหญ่ไม่มีการติดตั้งระบบเตืิอนภัย อาทิ ระบบสปริงเกอร์ เครื่องดันน้ำ เครื่องส่งน้ำ รวมถึงอาคารที่สูงเกิน 7 ชั้น ซึ่งในกฎหมายได้กำหนดให้มีลานจอดเฮลิคอปเตอร์ แต่ปรากฏว่า เจ้าของหลายอาคารได้ละเลย ดัดแปลง และต่อเติมอาคาร จนเฮลิคอปเตอร์ไม่สามารถลงจอดได้ จึงกลายเป็นปัญหาเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ เจ้าหน้าที่เข้าปฏิบัติงานได้ล่าช้า
นายสุทธิชัย กล่าวต่อว่า คณะกรรมการชุดนี้ นอกจากจะมีหน่วยงานของ กทม.อย่าง สำนักผังเมือง สำนักการโยธา สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแล้ว จะมีการเชิญหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมโยธาธิการและผังเมือง ร่วมตรวจสอบเพื่อดูรายละเอียดปลีกย่อยให้ครอบคลุม อย่างไรก็ตาม หากตรวจสอบแล้ว พบว่า อาคารใดๆ ที่สร้างก่อนปี 2535 ไม่มีระบบเตือนภัยตามกฎหมาย ก็จะขอร่วมมือเจ้าของอาคารให้ติดตั้ง ทั้งนี้ หากยังมีการละเลยและไม่ให้ความร่วมมือ กทม.ก็จะออกข้อบัญญัติกทม.เพื่อบังคับให้อาคารเหล่านั้นปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2535 ซึ่ง กทม.สามารถออกข้อบัญญติได้ โดยไม่ขัดต่อกฎหมาย หากยังไม่ปฏิบัติก็จะมีความผิดทางอาญา กทม.ในฐานะเจ้าพนักงานท้องที่ สามารถสั่งให้รื้อถอน หรือสั่งปรับเป็นรายวันได้
นายสุทธิชัย กล่าวอีกว่า กทม.อาจจะมีการซื้อเฮลิคอปเตอร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดับเพลิง ช่วยเหลือผู้ประสบภัย และปฏิบัติงานในช่วงน้ำท่วม ซึ่งเฮลิคอปเตอร์ที่จะซื้อคงเป็นลำใหญ่ 20 ที่นั่ง