อธิบดีกรมควบคุมโรค ลงพื้นที่ประเมินสถานการณ์ปัญหาหมอกควันที่เชียงใหม่ พบมีผู้ได้รับผลกระทบแนวโน้มสูงขึ้น แนะประชาชนดูแลสุขภาพตนเอง จากปัญหาวิกฤตหมอกควัน ทั้งสวมหน้ากากอนามัย หากต้องออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน ลดการเผาขยะจำนวนมาก ๆ และเผาในเวลาที่เหมาะสม พร้อมมอบ สคร.10 จัดร่วมมือเครือข่ายจัดกิจกรรมกระตุ้นชุมชนให้ตระหนักถึงอันตราย
ตามที่ นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มีความเป็นห่วงประชาชนในพื้นที่ประสบปัญหาหมอกควัน โดยเฉพาะภาคเหนือ มอบหมายให้อธิบดีกรมควบคุมโรคลงพื้นที่ ที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อติดตามสถานการณ์ประเมินความเสี่ยงของศูนย์เด็กเล็กจากปัญหาหมอกควัน และอาจจัดหาสถานที่ที่เหมาะสม เพื่อใช้เป็นที่อพยพของกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ เด็ก ผู้ที่มีโรคประจำตัว แนะให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์คาดหน้ากากอนามัยและควรใส่หมวกกันน็อคชนิดที่มีกระบังปิดหน้า จะช่วยป้องกันการสูดฝุ่นละอองเข้าปอดได้
วันนี้ (6 มี.ค) ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค นำทีมสื่อมวลชน ร่วมกิจกรรมรณรงค์ป้องกันภัยสุขภาพจากปัญหาหมอกควัน ในกลุ่มแกนนำอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ณ องค์การบริหารส่วนตำบลดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เพื่อติดตามสถานการณ์และติดตามประเมินผลกระทบต่อศูนย์เด็กเล็กในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในหมู่บ้าน เพื่อวางมาตรฐานป้องกันแก้ไขอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงต่างๆ ได้แก่ กลุ่มเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ และผู้ป่วยด้วยโรคเรื้อรัง เช่น โรคหอบหืด โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ โรคปอด โรคภูมิแพ้ โรคหัวใจ รวมทั้งผู้ที่ทำงาน หรือออกกำลังกายกลางแจ้ง จากรายงานการเฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพจากปัญหาหมอกควัน โดยสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 เชียงใหม่ ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและโรงพยาบาลของรัฐในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ทำการเฝ้าระวัง 4 กลุ่มโรค ได้แก่ กลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือดทุกชนิด กลุ่มโรคทางเดินหายใจทุกชนิด กลุ่มโรคตาอักเสบ และกลุ่มโรคผิวหนังอักเสบ พบว่า ขณะนี้ผู้ได้รับผลกระทบทางสุขภาพจากปัญหาหมอกควันมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น และทุกจังหวัดในเขตภาคเหนือตอนบน ยังพบค่าฝุ่นละอองในอากาศ (PM10) และค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (ค่า AQI) เกินค่ามาตรฐาน
ดร.นพ.เทพ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงที่มีการประกาศภาวะหมอกควัน ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงดูแลสุขภาพของตัวเอง และร่วมลดปัญหาหมอกควัน ไม่ว่าจะเป็นการเผาขยะในที่โล่งควรเผาในช่วงเวลาที่เหมาะสม ไม่เผาขยะครั้งละจำนวนมากๆ และในกรณีที่ต้องออกนอกอาคารหรือทำกิจกรรมนอกบ้าน ควรปิดปากและจมูกด้วยหน้ากากอนามัยทุกครั้ง และมอบหมายให้สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 เชียงใหม่ (สคร.10) ร่วมกับเครือข่ายในพื้นที่ จัดกิจกรรมรณรงค์กระตุ้นชุมชนให้มีความร่วมมือในการดูแลและป้องกันสุขภาพของตนเองจากภาวะหมอกควันได้อย่างเหมาะสม เช่น สนับสนุนการผลิตหน้ากากอนามัยแบบผ้าไว้ใช้เอง เป็นการประหยัดและสามารถนำกลับมาใช้ได้อีก สนับสนุนการจัดการสิ่งแวดล้อมลดปัญหาหมอกควัน เพื่อไม่เป็นการเพิ่มมลภาวะในอากาศต่อไป
ตามที่ นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มีความเป็นห่วงประชาชนในพื้นที่ประสบปัญหาหมอกควัน โดยเฉพาะภาคเหนือ มอบหมายให้อธิบดีกรมควบคุมโรคลงพื้นที่ ที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อติดตามสถานการณ์ประเมินความเสี่ยงของศูนย์เด็กเล็กจากปัญหาหมอกควัน และอาจจัดหาสถานที่ที่เหมาะสม เพื่อใช้เป็นที่อพยพของกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ เด็ก ผู้ที่มีโรคประจำตัว แนะให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์คาดหน้ากากอนามัยและควรใส่หมวกกันน็อคชนิดที่มีกระบังปิดหน้า จะช่วยป้องกันการสูดฝุ่นละอองเข้าปอดได้
วันนี้ (6 มี.ค) ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค นำทีมสื่อมวลชน ร่วมกิจกรรมรณรงค์ป้องกันภัยสุขภาพจากปัญหาหมอกควัน ในกลุ่มแกนนำอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ณ องค์การบริหารส่วนตำบลดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เพื่อติดตามสถานการณ์และติดตามประเมินผลกระทบต่อศูนย์เด็กเล็กในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในหมู่บ้าน เพื่อวางมาตรฐานป้องกันแก้ไขอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงต่างๆ ได้แก่ กลุ่มเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ และผู้ป่วยด้วยโรคเรื้อรัง เช่น โรคหอบหืด โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ โรคปอด โรคภูมิแพ้ โรคหัวใจ รวมทั้งผู้ที่ทำงาน หรือออกกำลังกายกลางแจ้ง จากรายงานการเฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพจากปัญหาหมอกควัน โดยสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 เชียงใหม่ ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและโรงพยาบาลของรัฐในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ทำการเฝ้าระวัง 4 กลุ่มโรค ได้แก่ กลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือดทุกชนิด กลุ่มโรคทางเดินหายใจทุกชนิด กลุ่มโรคตาอักเสบ และกลุ่มโรคผิวหนังอักเสบ พบว่า ขณะนี้ผู้ได้รับผลกระทบทางสุขภาพจากปัญหาหมอกควันมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น และทุกจังหวัดในเขตภาคเหนือตอนบน ยังพบค่าฝุ่นละอองในอากาศ (PM10) และค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (ค่า AQI) เกินค่ามาตรฐาน
ดร.นพ.เทพ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงที่มีการประกาศภาวะหมอกควัน ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงดูแลสุขภาพของตัวเอง และร่วมลดปัญหาหมอกควัน ไม่ว่าจะเป็นการเผาขยะในที่โล่งควรเผาในช่วงเวลาที่เหมาะสม ไม่เผาขยะครั้งละจำนวนมากๆ และในกรณีที่ต้องออกนอกอาคารหรือทำกิจกรรมนอกบ้าน ควรปิดปากและจมูกด้วยหน้ากากอนามัยทุกครั้ง และมอบหมายให้สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 เชียงใหม่ (สคร.10) ร่วมกับเครือข่ายในพื้นที่ จัดกิจกรรมรณรงค์กระตุ้นชุมชนให้มีความร่วมมือในการดูแลและป้องกันสุขภาพของตนเองจากภาวะหมอกควันได้อย่างเหมาะสม เช่น สนับสนุนการผลิตหน้ากากอนามัยแบบผ้าไว้ใช้เอง เป็นการประหยัดและสามารถนำกลับมาใช้ได้อีก สนับสนุนการจัดการสิ่งแวดล้อมลดปัญหาหมอกควัน เพื่อไม่เป็นการเพิ่มมลภาวะในอากาศต่อไป