“จักษุแพทย์” เตือนภาวะสายตาสั้นเทียมในเด็กต่ำกว่า 12 ปี น่าห่วง เผย 1 ใน 10 ที่พบแพทย์เป็นภาวะสายตาเทียม หวั่นผู้ปกครองเข้าใจผิดแห่พาเด็กตัดแว่นมั่ว ก่อปัญหาสายตาสั้นภายหลัง ชี้วัดสายตาเด็กให้ชัดต้องหยอดยาลดการเพ่งมอง กม.อนุญาตให้ทำโดยแพทย์-พยาบาลเท่านั้น
รศ.นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ ประธานราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า เนื่องจากการใช้ชีวิตของคนในสังคมปัจจุบันใช้เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับเทคโนโลยี เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ และนับวันเป็นที่นิยมในคนอายุน้อยลงทุกวัน ซึ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อปัญหาสายตาอย่างมาก โดยภาวะผลกระทบที่เกิดขึ้นในปัจจุบันจะพบภาวะสายตาสั้นเทียม โดยเฉพาะในเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ซึ่งพบว่าเด็ก 1 ใน 10 ที่เข้ามาพบจักษุแพทย์เกี่ยวกับปัญหาสายตาจะเกิดภาวะตาเทียม หรือ 4-5% ของเด็กที่มีปัญหาสายตาสั้น ขณะที่สถานการณ์สายตาสั้นในภาพรวมของเด็กไทยพบว่า มีราว 20-30% ซึ่งถือว่าเป็นสถานการณ์ปกติ
รศ.นพ.ศักดิ์ชัย สำหรับอาการสายตาสั้นเทียมจะมีภาวะตามัว เลือนราง และมองภาพเบลอ แม้กระทั่งคู่สนทนา ซึ่งภาวะนี้จะเกิดขึ้นเร็ว หรือช้าไม่เท่ากัน บางรายใช้คอมพิวเตอร์นานก็จะมีอาการค้างเป็นวัน ขณะบางรายเกิดขึ้นแค่ 15 นาที - 1 ชั่วโมง โดยส่าเหตุเกิดจาการพยายามเพ่งมองและโฟกัสไปในจุดใดจุดหนึ่งมากเกินไป ดวงตาจะเมื่อยล้า และคลายจุดโฟกัสช้า แม้ไม่ได้เกิดผลกระทบรุนแรงแต่ก็ถือเป็นอาการที่น่าห่วง เนื่องจากผู้ปกครองบางรายเข้าใจไปเองว่าลูกอาจสายตาสั้นจริงก็พาเข้าไปวัดสายตาตามร้านจำหน่ายแว่น ซึ่งหากอาการเกิดขึ้นนาน 1 ชั่วโมง ถึง 1 วันผลการวัดก็ออกมาชี้ชัดว่าสายตาสั้น มากน้อยแตกต่างกัน กรณีนี้ทำให้เด็กสายตาปกติต้องกลายเป็นว่าคุ้นชินกับการใช้แว่นสายตา และเมื่อใช้นานๆ เข้าสายตาก็จะสั้นลงเรื่อยๆ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ถูกทาง เนื่องจากภาวะสายตาสั้นเทียมไม่ได้อันตรายมากนัก เพียงแค่ดวงตาอ่อนล้า เพลีย และไม่มีแรงจะโฟกัสภาพก็เท่านั้น ซึ่งเมื่อได้รับการพักผ่อน หลับตาพักก็จะดีขึ้นได้แล้ว เว้นแต่รายที่เป็นนาน 1-2 วันกรณีจ้องจอคอมพิวเตอร์ เล่นเกม นานต่อเนื่องประมาณ 7-10 ชั่วโมง ก็เสี่ยงเกิดภาวะดังกล่าวได้บ่อย
“ในการวัดสายตาเด็กต่ำกว่า 12 ปี ไม่ควรไปวัดตามร้านจำหน่ายแว่น เนื่องจากนาทางการแพทย์นั้นกำหนดให้แพทย์หรือพยาบาลวัดความผิดปกติของสายตาเด็กที่มีจุดโฟกัสดีกว่าสายตาผู้ใหญ่ ด้วยการหยอดยาลดการเพ่งก่อน โดยหยอดทิ้งไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้เด็กเพ่งน้อยลง แล้วค่อยวัดความสั้น ความเอียง ซึ่งตามกฎหมายการใช้ยาดังกล่าวร้านจำหน่ายแว่นไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ เพราะจะต้องดำเนินการโดยแพทย์หรือพยาบาลเท่านั้น จึงขอเตือนผู้ปกครองว่า หากสงสัยว่าบุตรหลายอายุต่ำกว่า 12 ปี มีปัญหาสายตาหรือไม่ ให้ไปพบแพทย์ในโรงพยาบาลหรือคลินิกจักษุแพทย์จะดีที่สุด ซึ่งก่อนที่แพทย์จะวินิจฉัยว่าผิดปกติหรือไม่ต้องนัดตรวจซ้ำอย่างน้อย 1-2 ครั้ง เพื่อให้แน่ใจ และหากพบว่าเป็นสายตาสั้นเทียมก็จะแนะนำแค่ให้พักสายตา โดยไม่จำเป็นต้องใช้ยาใดๆ” รศ.นพ.ศักดิ์ชัย กล่าว
