ผู้ปกครองแนะรัฐวางมาตรการป้องกันปัญหาหลังแจกแท็บเล็ต
นายกำธร จิระเกียรติกุล เครือข่ายผู้ปกครองโรงเรียนวัดสุทธิวราราม กล่าวว่า รู้สึกหนักใจ หากรัฐบาลจะเดินหน้าแจกแท็บเล็ตโดยยังไม่รู้ว่าโรงเรียนและครูจะมีความพร้อมมากน้อยแค่ไหนในการที่จะดูแลเด็กทั้งห้อง เพราะพ่อหนึ่งคนเลี้ยงลูก 3 คน ยังดูแลไม่ทั่วถึง แต่ครู 1 คน ดูแลเด็กนักเรียน 40-50 คน จะเป็นอย่างไร หากเราแจกแท็บเล็ตให้เด็ก ครูจะมีความพร้อมหรือเปล่าที่จะค่อยสอดส่องดูแลว่าเด็กเข้าไปดูอะไร และจะรักษาได้ไหม จึงคิดว่าไม่น่าใช้งานได้จริง เพราะเด็กกลุ่มนี้ การพัฒนาการจะเกิดจากการเคลื่อนไหว กล้ามเนื้อต่างๆ จึงเกิดขึ้น แต่เมื่อได้แท็บเล็ตมาก็จะหมกหมุ่น นั่งอยู่กับที่เด็กจะไม่มีพัฒนาการด้านร่างกาย และยิ่งให้เด็กเอาแท็บเล็ตกลับบ้านได้เด็กก็ยิ่งมีอิสระ หากสามารถเข้าอินเทอร์เน็ตก็อาจจะเข้าไปเล่นเกมออนไลน์ หรือเข้าเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมกับเด็กวัยนี้
“ขณะนี้เหมือนว่ารัฐบาลเร่งที่จะทำให้นโยบายที่เคยพูดไว้สำเร็จโดยเร็ว แต่ขอว่าอย่าสักแต่ว่าเอาเครื่องคอมพิวเตอร์มาโยนให้เด็ก แล้วยังไม่มีมาตรการอะไรมารองรับ เพราะทุกวันนี้เว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมกับเด็ก เข้าถึงได้ง่ายมาก ดังนั้นถ้ากระทรวงศึกษาธิการยังไม่มีมาตรการที่ชัดเจนในการป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นตามมา ตนเชื่อว่า จะไม่ใช้แต่เด็กวัยนี้ไม่พร้อม แต่ยังจะมีปัญหาอื่นๆตามมาด้วย” นายกำธร กล่าว
นายกำธร จิระเกียรติกุล เครือข่ายผู้ปกครองโรงเรียนวัดสุทธิวราราม กล่าวว่า รู้สึกหนักใจ หากรัฐบาลจะเดินหน้าแจกแท็บเล็ตโดยยังไม่รู้ว่าโรงเรียนและครูจะมีความพร้อมมากน้อยแค่ไหนในการที่จะดูแลเด็กทั้งห้อง เพราะพ่อหนึ่งคนเลี้ยงลูก 3 คนยังดูแลไม่ทั่วถึง แต่ครู 1 คนดูแลเด็กนักเรียน 40-50 คนจะเป็นอย่างไรหากเราแจกแท็บเล็ตให้เด็ก ครูจะมีความพร้อมหรือเปล่าที่จะค่อยสอดส่องดูแลว่าเด็กเข้าไปดูอะไร และจะรักษาได้ไหม จึงคิดว่าไม่น่าใช้งานได้จริง เพราะเด็กกลุ่มนี้ การพัฒนาการจะเกิดจากการเคลื่อนไหว กล้ามเนื้อต่างๆ จึงเกิดขึ้น แต่เมื่อได้แท็บเล็ตมาก็จะหมกหมุ่น นั่งอยู่กับที่เด็กจะไม่มีพัฒนาการด้านร่างกาย และยิ่งให้เด็กเอาแท็บเล็ตกลับบ้านได้เด็กก็ยิ่งมีอิสระหากสามารถเข้าอินเทอร์เน็ตก็อาจจะเข้าไปเล่นเกมส์ออนไลน์หรือเข้าเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมกับเด็กวัยนี้
“ขณะนี้เหมือนว่ารัฐบาลเร่งที่จะทำให้นโยบายที่เคยพูดไว้สำเร็จโดยเร็ว แต่ขอว่าอย่าสักแต่ว่าเอาเครื่องคอมพิวเตอร์มาโยนให้เด็ก แล้วยังไม่มีมาตรการอะไรมารองรับ เพราะทุกวันนี้เว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมกับเด็ก เข้าถึงได้ง่ายมาก ดังนั้นถ้ากระทรวงศึกษาธิการยังไม่มีมาตรการที่ชัดเจนในการป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นตามมา ตนเชื่อว่าจะไม่ใช้แต่เด็กวัยนี้ไม่พร้อม แต่ยังจะมีปัญหาอื่นๆ ตามมาด้วย” นายกำธร กล่าว
นายกำธร จิระเกียรติกุล เครือข่ายผู้ปกครองโรงเรียนวัดสุทธิวราราม กล่าวว่า รู้สึกหนักใจ หากรัฐบาลจะเดินหน้าแจกแท็บเล็ตโดยยังไม่รู้ว่าโรงเรียนและครูจะมีความพร้อมมากน้อยแค่ไหนในการที่จะดูแลเด็กทั้งห้อง เพราะพ่อหนึ่งคนเลี้ยงลูก 3 คน ยังดูแลไม่ทั่วถึง แต่ครู 1 คน ดูแลเด็กนักเรียน 40-50 คน จะเป็นอย่างไร หากเราแจกแท็บเล็ตให้เด็ก ครูจะมีความพร้อมหรือเปล่าที่จะค่อยสอดส่องดูแลว่าเด็กเข้าไปดูอะไร และจะรักษาได้ไหม จึงคิดว่าไม่น่าใช้งานได้จริง เพราะเด็กกลุ่มนี้ การพัฒนาการจะเกิดจากการเคลื่อนไหว กล้ามเนื้อต่างๆ จึงเกิดขึ้น แต่เมื่อได้แท็บเล็ตมาก็จะหมกหมุ่น นั่งอยู่กับที่เด็กจะไม่มีพัฒนาการด้านร่างกาย และยิ่งให้เด็กเอาแท็บเล็ตกลับบ้านได้เด็กก็ยิ่งมีอิสระ หากสามารถเข้าอินเทอร์เน็ตก็อาจจะเข้าไปเล่นเกมออนไลน์ หรือเข้าเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมกับเด็กวัยนี้
“ขณะนี้เหมือนว่ารัฐบาลเร่งที่จะทำให้นโยบายที่เคยพูดไว้สำเร็จโดยเร็ว แต่ขอว่าอย่าสักแต่ว่าเอาเครื่องคอมพิวเตอร์มาโยนให้เด็ก แล้วยังไม่มีมาตรการอะไรมารองรับ เพราะทุกวันนี้เว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมกับเด็ก เข้าถึงได้ง่ายมาก ดังนั้นถ้ากระทรวงศึกษาธิการยังไม่มีมาตรการที่ชัดเจนในการป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นตามมา ตนเชื่อว่า จะไม่ใช้แต่เด็กวัยนี้ไม่พร้อม แต่ยังจะมีปัญหาอื่นๆตามมาด้วย” นายกำธร กล่าว
นายกำธร จิระเกียรติกุล เครือข่ายผู้ปกครองโรงเรียนวัดสุทธิวราราม กล่าวว่า รู้สึกหนักใจ หากรัฐบาลจะเดินหน้าแจกแท็บเล็ตโดยยังไม่รู้ว่าโรงเรียนและครูจะมีความพร้อมมากน้อยแค่ไหนในการที่จะดูแลเด็กทั้งห้อง เพราะพ่อหนึ่งคนเลี้ยงลูก 3 คนยังดูแลไม่ทั่วถึง แต่ครู 1 คนดูแลเด็กนักเรียน 40-50 คนจะเป็นอย่างไรหากเราแจกแท็บเล็ตให้เด็ก ครูจะมีความพร้อมหรือเปล่าที่จะค่อยสอดส่องดูแลว่าเด็กเข้าไปดูอะไร และจะรักษาได้ไหม จึงคิดว่าไม่น่าใช้งานได้จริง เพราะเด็กกลุ่มนี้ การพัฒนาการจะเกิดจากการเคลื่อนไหว กล้ามเนื้อต่างๆ จึงเกิดขึ้น แต่เมื่อได้แท็บเล็ตมาก็จะหมกหมุ่น นั่งอยู่กับที่เด็กจะไม่มีพัฒนาการด้านร่างกาย และยิ่งให้เด็กเอาแท็บเล็ตกลับบ้านได้เด็กก็ยิ่งมีอิสระหากสามารถเข้าอินเทอร์เน็ตก็อาจจะเข้าไปเล่นเกมส์ออนไลน์หรือเข้าเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมกับเด็กวัยนี้
“ขณะนี้เหมือนว่ารัฐบาลเร่งที่จะทำให้นโยบายที่เคยพูดไว้สำเร็จโดยเร็ว แต่ขอว่าอย่าสักแต่ว่าเอาเครื่องคอมพิวเตอร์มาโยนให้เด็ก แล้วยังไม่มีมาตรการอะไรมารองรับ เพราะทุกวันนี้เว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมกับเด็ก เข้าถึงได้ง่ายมาก ดังนั้นถ้ากระทรวงศึกษาธิการยังไม่มีมาตรการที่ชัดเจนในการป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นตามมา ตนเชื่อว่าจะไม่ใช้แต่เด็กวัยนี้ไม่พร้อม แต่ยังจะมีปัญหาอื่นๆ ตามมาด้วย” นายกำธร กล่าว