“บำเหน็จ” เผย “สันติภาพ” ให้คำมั่นไม่ปลดพนักงานที่ร่วมชุมนุมออก แต่จะใช้กฎหมายจัดการหากถูกนำไปพูดให้เสียหาย ชี้ ที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ รับจะนำเรื่องรายงาน “สุชาติ” ย้ำ จะทำตรงไปตรงมา และให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ระบุต้องทำตามขั้นตอนและรอข้อสรุปที่แน่ชัด
ตามที่ นายอารีย์ สืบวงศ์ ประธานสหภาพองค์การค้า (อค.) ของ สกสค.พร้อมด้วยพนักงานเจ้าหน้าที่ อค.สกสค.กว่า 200 คน ได้เดินทางมากระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ยื่นหนังสือต่อ ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยมี นายประแสง มงคลศิริ ที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ รับมอบหนังสือแทน ซึ่งประกอบด้วย แถลงการณ์ของสหภาพฯ ที่เป็นข้อเรียกร้องประจำปี 2554 ที่ขอให้มีการปรับเปลี่ยนสถานภาพการจ้างต่อ อค.สกสค.และเอกสารที่เกี่ยวข้องกับกรณีที่ นายสันติภาพ อินทรพัฒน์ ผอ.อค.สกสค.กรณีขายที่ดินที่ จ.สุราษฎร์ธานี โดยไม่ผ่านมติบอร์ด สกสค.การขายหนังสือและอุปกรณ์การเรียนให้กองทุนครอบครัวข่าว 3 ที่เอื้อประโยชน์ให้กับน้องสาวของตัวเอง และจ้างพิมพ์หนังสือแบบเรียนภายนอกที่ไม่เป็นไปตามระเบียบสำนักนายก โดยเรียกร้องให้ รมว.ศึกษาธิการ ใช้อำนาจในการตรวจสอบหากพบมีความจริงก็ขอให้ยกเลิกสัญญาจ้างโดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า
นายบำเหน็จ ทิพยอักษร รองเลขาธิการคณะกรรมการสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ในฐานะกรรมการบอร์ด สกสค.เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเหตุการณดังกล่าว วานนี้ (6 ก.พ.) ที่โรงพิมพ์ อค.สกสค.ที่ลาดพร้าว ที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ, ผู้แทนกระทรวงแรงงาน 2 คน, นายอารีย์, นายสันติภาพ และตนในฐานะกรรมการบอร์ด สกสค.ได้ร่วมประชุมเพื่อรับทราบปัญหาและการชี้แจงจากทั้งทางตัวแทนสหภาพ อค.สกสค.และ นายสันติภาพ ซึ่งใช้เวลาประชุมตั้งแต่เวลา 08.00 น.จนกระทั่งช่วงเย็นของวันดังกล่าว อย่างไรก็ตาม นายประแสง ได้ชี้แจงในที่ประชุมว่าขอให้แยกเรื่องออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรก คือ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับข้อเรียกร้องของทางสหภาพ อค.สกสค.และส่วนที่ 2 คือ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับกรณี นายสันติภาพ ขายที่ดินจำนวน 48 ไร่ ใน จ.สุราษฎร์ธานี และการขายหนังสือและอุปกรณ์การเรียนให้กองทุนครอบครัวข่าว 3 ที่เอื้อประโยชน์ให้กับน้องสาวของตัวเอง
ทั้งนี้ จากผลการประชุมเบื้องต้นนั้น ในประเด็นข้อเรียกร้องของสหภาพนั้นภาพรวมได้ข้อสรุปที่เห็นสอดคล้องกันอาจจะมีในรายละเอียดบางประเด็นที่ต้องหารือกันเพิ่มเติม ซึ่ง นายประแสง ได้เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้ชี้แจงอย่างสร้างสรรค์ด้วยเหตุและผล ขณะเดียวกัน นายสันติภาพ ก็ยืนยันว่า จะไม่มีการปลดพนักงานเจ้าหน้าที่ที่มาร่วมกับสหภาพในการเรียกร้องครั้งนี้ออกตามที่มีหลายฝ่ายกังวลซึ่งก็เป็นที่พอใจกับทุกฝ่าย และผู้แทนกระทรวงแรงงานที่มาร่วมรับฟังก็ได้บันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรด้วย ส่วนกรณี 2 เรื่องที่ดิน และการซื้อขายหนังสืออุปกรณ์การเรียนให้กองทุนครอบครัวข่าว 3 นั้น ที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ ได้ยืนยันในที่ประชุมว่าจะนำเรื่องไปเรียนให้ รมว.ศึกษาธิการ ทราบและยืนยันจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาเละให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยจะดำเนินการโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ เพราะเรื่องดังกล่าวจะต้องลงไปดูในรายละเอียดด้วยว่าใครมีอำนาจหน้าที่ที่จะตัดสินใจดำเนินการเรื่องเหล่านี้ ทุกอย่างจะต้องดำเนินการตามกระบวนการขั้นตอนและต้องรอข้อสรุปที่แน่ชัดเสียก่อน ส่วนการประชุมบอร์ด สกสค.ครั้งต่อไปจะมีขึ้นประมาณวันที่ 22 มีนาคม
“การประชุมครั้งนี้ถือเป็นการประชุมที่ยาวนานที่สุดของ อค.สกสค.เนื่องจาก ที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ ต้องการให้ทุกฝ่ายได้ชี้แจงข้อมูล และให้มีการโต้แย้งด้วยเหตุและผล เพื่อให้ยอมรับซึ่งกันและกัน โดยขอให้คำนึงถึงประโยชน์ขององค์กรเป็นหลักด้วย อย่างไรก็ตาม นายสันติภาพ เองก็ได้ยืนยันแล้วว่าจะไม่มีการปลดพนักงานที่หยุดงานครั้งนี้ออกถือเป็นการใช้หลักความเมตตากับผู้ใต้บังคับบัญชา แต่ขณะเดียวกัน นายสันติภาพ ก็ระบุว่า ต่อไปหากมีกรณีอื่นที่เข้าข่ายหมิ่นประมาทให้ต้องเสียหาย และเกิดความเข้าใจผิดในตัวของ ผอ.อค.สกสค.ก็จะดำเนินการทางกฎหมายได้ ซึ่งนายสันติภาพ ไม่ได้ระบุว่าเรื่องใดบ้าง ส่วนโฉนดที่ดิน จ.สุราษฎร์ธานี นั้น นายสันติภาพ แจ้งว่า ได้ส่งมาให้ยังสำนักงาน สกสค.แล้ว”นายบำเหน็จ กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม จากนี้ตนจะสรุปรายงานดังกล่าวและนำเสนอ น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัด ศธ.ในฐานะประธานบอร์ด สกสค.รับทราบต่อไป
ตามที่ นายอารีย์ สืบวงศ์ ประธานสหภาพองค์การค้า (อค.) ของ สกสค.พร้อมด้วยพนักงานเจ้าหน้าที่ อค.สกสค.กว่า 200 คน ได้เดินทางมากระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ยื่นหนังสือต่อ ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยมี นายประแสง มงคลศิริ ที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ รับมอบหนังสือแทน ซึ่งประกอบด้วย แถลงการณ์ของสหภาพฯ ที่เป็นข้อเรียกร้องประจำปี 2554 ที่ขอให้มีการปรับเปลี่ยนสถานภาพการจ้างต่อ อค.สกสค.และเอกสารที่เกี่ยวข้องกับกรณีที่ นายสันติภาพ อินทรพัฒน์ ผอ.อค.สกสค.กรณีขายที่ดินที่ จ.สุราษฎร์ธานี โดยไม่ผ่านมติบอร์ด สกสค.การขายหนังสือและอุปกรณ์การเรียนให้กองทุนครอบครัวข่าว 3 ที่เอื้อประโยชน์ให้กับน้องสาวของตัวเอง และจ้างพิมพ์หนังสือแบบเรียนภายนอกที่ไม่เป็นไปตามระเบียบสำนักนายก โดยเรียกร้องให้ รมว.ศึกษาธิการ ใช้อำนาจในการตรวจสอบหากพบมีความจริงก็ขอให้ยกเลิกสัญญาจ้างโดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า
นายบำเหน็จ ทิพยอักษร รองเลขาธิการคณะกรรมการสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ในฐานะกรรมการบอร์ด สกสค.เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเหตุการณดังกล่าว วานนี้ (6 ก.พ.) ที่โรงพิมพ์ อค.สกสค.ที่ลาดพร้าว ที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ, ผู้แทนกระทรวงแรงงาน 2 คน, นายอารีย์, นายสันติภาพ และตนในฐานะกรรมการบอร์ด สกสค.ได้ร่วมประชุมเพื่อรับทราบปัญหาและการชี้แจงจากทั้งทางตัวแทนสหภาพ อค.สกสค.และ นายสันติภาพ ซึ่งใช้เวลาประชุมตั้งแต่เวลา 08.00 น.จนกระทั่งช่วงเย็นของวันดังกล่าว อย่างไรก็ตาม นายประแสง ได้ชี้แจงในที่ประชุมว่าขอให้แยกเรื่องออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรก คือ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับข้อเรียกร้องของทางสหภาพ อค.สกสค.และส่วนที่ 2 คือ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับกรณี นายสันติภาพ ขายที่ดินจำนวน 48 ไร่ ใน จ.สุราษฎร์ธานี และการขายหนังสือและอุปกรณ์การเรียนให้กองทุนครอบครัวข่าว 3 ที่เอื้อประโยชน์ให้กับน้องสาวของตัวเอง
ทั้งนี้ จากผลการประชุมเบื้องต้นนั้น ในประเด็นข้อเรียกร้องของสหภาพนั้นภาพรวมได้ข้อสรุปที่เห็นสอดคล้องกันอาจจะมีในรายละเอียดบางประเด็นที่ต้องหารือกันเพิ่มเติม ซึ่ง นายประแสง ได้เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้ชี้แจงอย่างสร้างสรรค์ด้วยเหตุและผล ขณะเดียวกัน นายสันติภาพ ก็ยืนยันว่า จะไม่มีการปลดพนักงานเจ้าหน้าที่ที่มาร่วมกับสหภาพในการเรียกร้องครั้งนี้ออกตามที่มีหลายฝ่ายกังวลซึ่งก็เป็นที่พอใจกับทุกฝ่าย และผู้แทนกระทรวงแรงงานที่มาร่วมรับฟังก็ได้บันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรด้วย ส่วนกรณี 2 เรื่องที่ดิน และการซื้อขายหนังสืออุปกรณ์การเรียนให้กองทุนครอบครัวข่าว 3 นั้น ที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ ได้ยืนยันในที่ประชุมว่าจะนำเรื่องไปเรียนให้ รมว.ศึกษาธิการ ทราบและยืนยันจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาเละให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยจะดำเนินการโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ เพราะเรื่องดังกล่าวจะต้องลงไปดูในรายละเอียดด้วยว่าใครมีอำนาจหน้าที่ที่จะตัดสินใจดำเนินการเรื่องเหล่านี้ ทุกอย่างจะต้องดำเนินการตามกระบวนการขั้นตอนและต้องรอข้อสรุปที่แน่ชัดเสียก่อน ส่วนการประชุมบอร์ด สกสค.ครั้งต่อไปจะมีขึ้นประมาณวันที่ 22 มีนาคม
“การประชุมครั้งนี้ถือเป็นการประชุมที่ยาวนานที่สุดของ อค.สกสค.เนื่องจาก ที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ ต้องการให้ทุกฝ่ายได้ชี้แจงข้อมูล และให้มีการโต้แย้งด้วยเหตุและผล เพื่อให้ยอมรับซึ่งกันและกัน โดยขอให้คำนึงถึงประโยชน์ขององค์กรเป็นหลักด้วย อย่างไรก็ตาม นายสันติภาพ เองก็ได้ยืนยันแล้วว่าจะไม่มีการปลดพนักงานที่หยุดงานครั้งนี้ออกถือเป็นการใช้หลักความเมตตากับผู้ใต้บังคับบัญชา แต่ขณะเดียวกัน นายสันติภาพ ก็ระบุว่า ต่อไปหากมีกรณีอื่นที่เข้าข่ายหมิ่นประมาทให้ต้องเสียหาย และเกิดความเข้าใจผิดในตัวของ ผอ.อค.สกสค.ก็จะดำเนินการทางกฎหมายได้ ซึ่งนายสันติภาพ ไม่ได้ระบุว่าเรื่องใดบ้าง ส่วนโฉนดที่ดิน จ.สุราษฎร์ธานี นั้น นายสันติภาพ แจ้งว่า ได้ส่งมาให้ยังสำนักงาน สกสค.แล้ว”นายบำเหน็จ กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม จากนี้ตนจะสรุปรายงานดังกล่าวและนำเสนอ น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัด ศธ.ในฐานะประธานบอร์ด สกสค.รับทราบต่อไป