เครือข่ายเยาวชนฯ จี้ มท.1 ฟื้นนโยบายจัดระเบียบสังคม สางปัญหาสถานบันเทิง ปล่อยเด็กต่ำกว่ากฎหมายกำหนด เข้าใช้บริการ หลังสุ่มพบ 100% ปล่อยเยาวชนต่ำกว่า 20 ปีเข้าได้
วันนี้ (27 ม.ค.) ที่กระทรวงมหาดไทย นายธีรภัทร์ คหะวงศ์ แกนนำเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ พร้อมด้วย เครือข่ายเยาวชนสร้างสรรค์รู้ทันแอลกอฮอล์ และมูลนิธิเพื่อนเยาวชนเพื่อการพัฒนา กว่า 30 คน เข้าร้องเรียนกรณีสถานบันเทิงปล่อยให้เยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้บริการ โดยไม่มีการตรวจบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมนำหลักฐานเป็นภาพถ่าย คลิปวิดีโอ มอบให้ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ด้วย
แกนนำเครือข่ายเยาวชนฯ กล่าวว่า ผลกระทบที่เกิดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ถือเป็นการสร้างปัญหาที่รุนแรงให้กับสังคม ต้นเหตุการเกิดอุบัติเหตุ อาชญากรรม เห็นได้จากจำนวนเยาวชนที่ต้องกลายเป็นนักดื่มหน้าใหม่และเพิ่มขึ้นทุกวัน ขณะเดียวกัน ข้อมูลที่เครือข่ายเยาวชนฯ ลงพื้นที่สุ่มสำรวจการกระทำผิดของสถานบันเทิงรอบสถาบันการศึกษา เมื่อวันที่ 6-8 ม.ค.2555 ในเขตกรุงเทพฯ และปริมลทล ทั้งหมด 65 ร้าน รวม 11 พื้นที่ ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ มหาวิทยาลัยรังสิต มหาวิทยาลัยหอการค้า มรภ.สวนดุสิต มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มรภ.บ้านสมเด็จเจ้าพระยา มรภ.จันทรเกษม มรภ.สวนสุนันทา และวิทยาลัยราชพฤกษ์ พบว่า มีสถานบริการ ผับบาร์ ที่ตรวจบัตรประชาชนเพียง 5 ร้าน คิดเป็น 7.69% เท่านั้น แต่เมื่อเข้าสำรวจในสถานประกอบการทั้งหมด กลับพบว่า มีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ใช้บริการอยู่ภายใน ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่ามีการตรวจบัตรแค่พอเป็นพิธีเท่านั้น และยังพบอีกว่าทุกร้านมีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับเด็กเยาวชนเหล่านั้นด้วย ซึ่งถือว่าผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจยังพบว่ามีเด็กและเยาวชนในชุดเครื่องแบบนักเรียนนักศึกษา อยู่ในร้านต่างๆ ถึง 24 ร้าน คิดเป็น 36.92% ด้วย
“เพื่อเป็นการจัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมรอบสถานศึกษา และลดจำนวนนักดื่มหน้าใหม่ จึงขอเรียกร้องผ่านไปยังคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ให้เร่งแก้ปัญหาในเรื่องนี้ด้วยก่อนที่ความรุนแรงจะเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว เพราะหากดูจากปัญหาที่เกิดขึ้นตามข่าวหน้าหนังสือพิมพ์ ที่มีสาเหตุจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ถือว่าเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ และข่าวส่วนใหญ่ก็เกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเอง ก็เป็นกรรมการชุดดังกล่าวด้วย โดยเครือข่ายยินดีสนับสนุน ในการมีส่วนร่วมเฝ้าระวังสอดส่อง ดูแล และแจ้งเบาะแส เพื่อให้ทุกฝ่ายบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด” นายธีรภัทร์ กล่าว
สำหรับข้อเรียกร้องของเครือข่ายเยาวชนฯ เพื่อต้องการให้กระทรวงมหาดไทยนำไปพิจารณา ดังนี้ 1.ให้กระทรวงมหาดไทยบังคับใช้กฎหมาย และเพิกถอนใบอนุญาตกับสถานบริการ ที่พบว่ามีการฝ่าฝืนกฎหมายปล่อยให้เด็กเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้บริการ รวมถึงสถานบริการที่ปิดเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด และกำชับไปยังหน่วยงานในสังกัดทุกพื้นที่ 2.ขอให้กระทรวงมหาดไทยจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ ลงพื้นที่สุ่มตรวจสถานบริการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่รอบสถานศึกษา โดยทำงานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ 3.ขอให้กระทรวงมหาดไทย ฟื้นนโยบายจัดระเบียบสังคม โดยเฉพาะแหล่งอบายมุขรอบสถานศึกษา เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมให้เด็กและเยาวชน
จากนั้น นายยงยุทธ กล่าวภายหลังรับข้อร้องเรียนของเครือข่ายเยาวชนฯ ว่า เห็นด้วยและยินดีสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพราะก่อนหน้านี้ ทางกระทรวงได้มีการประชุมถึงประเด็นการจัดระเบียบสังคมอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม การที่มีเครือข่ายเยาวชนเห็นถึงความสำคัญในเรื่องนี้ เราก็คงต้องคิดให้มากขึ้น ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยยินดีทำงานร่วมกับเครือข่ายเยาวชน เพื่อให้เกิดการเฝ้าระวัง แจ้งเบาะแสตามความผิด พ.ร.บ.สถานประกอบการ และจากนี้จะนำเรื่องดังกล่าวมอบให้อธิบดีกรมการปกครองเพื่อตรวจสอบต่อไป
วันนี้ (27 ม.ค.) ที่กระทรวงมหาดไทย นายธีรภัทร์ คหะวงศ์ แกนนำเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ พร้อมด้วย เครือข่ายเยาวชนสร้างสรรค์รู้ทันแอลกอฮอล์ และมูลนิธิเพื่อนเยาวชนเพื่อการพัฒนา กว่า 30 คน เข้าร้องเรียนกรณีสถานบันเทิงปล่อยให้เยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้บริการ โดยไม่มีการตรวจบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมนำหลักฐานเป็นภาพถ่าย คลิปวิดีโอ มอบให้ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ด้วย
แกนนำเครือข่ายเยาวชนฯ กล่าวว่า ผลกระทบที่เกิดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ถือเป็นการสร้างปัญหาที่รุนแรงให้กับสังคม ต้นเหตุการเกิดอุบัติเหตุ อาชญากรรม เห็นได้จากจำนวนเยาวชนที่ต้องกลายเป็นนักดื่มหน้าใหม่และเพิ่มขึ้นทุกวัน ขณะเดียวกัน ข้อมูลที่เครือข่ายเยาวชนฯ ลงพื้นที่สุ่มสำรวจการกระทำผิดของสถานบันเทิงรอบสถาบันการศึกษา เมื่อวันที่ 6-8 ม.ค.2555 ในเขตกรุงเทพฯ และปริมลทล ทั้งหมด 65 ร้าน รวม 11 พื้นที่ ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ มหาวิทยาลัยรังสิต มหาวิทยาลัยหอการค้า มรภ.สวนดุสิต มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มรภ.บ้านสมเด็จเจ้าพระยา มรภ.จันทรเกษม มรภ.สวนสุนันทา และวิทยาลัยราชพฤกษ์ พบว่า มีสถานบริการ ผับบาร์ ที่ตรวจบัตรประชาชนเพียง 5 ร้าน คิดเป็น 7.69% เท่านั้น แต่เมื่อเข้าสำรวจในสถานประกอบการทั้งหมด กลับพบว่า มีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ใช้บริการอยู่ภายใน ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่ามีการตรวจบัตรแค่พอเป็นพิธีเท่านั้น และยังพบอีกว่าทุกร้านมีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับเด็กเยาวชนเหล่านั้นด้วย ซึ่งถือว่าผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจยังพบว่ามีเด็กและเยาวชนในชุดเครื่องแบบนักเรียนนักศึกษา อยู่ในร้านต่างๆ ถึง 24 ร้าน คิดเป็น 36.92% ด้วย
“เพื่อเป็นการจัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมรอบสถานศึกษา และลดจำนวนนักดื่มหน้าใหม่ จึงขอเรียกร้องผ่านไปยังคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ให้เร่งแก้ปัญหาในเรื่องนี้ด้วยก่อนที่ความรุนแรงจะเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว เพราะหากดูจากปัญหาที่เกิดขึ้นตามข่าวหน้าหนังสือพิมพ์ ที่มีสาเหตุจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ถือว่าเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ และข่าวส่วนใหญ่ก็เกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชน ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเอง ก็เป็นกรรมการชุดดังกล่าวด้วย โดยเครือข่ายยินดีสนับสนุน ในการมีส่วนร่วมเฝ้าระวังสอดส่อง ดูแล และแจ้งเบาะแส เพื่อให้ทุกฝ่ายบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด” นายธีรภัทร์ กล่าว
สำหรับข้อเรียกร้องของเครือข่ายเยาวชนฯ เพื่อต้องการให้กระทรวงมหาดไทยนำไปพิจารณา ดังนี้ 1.ให้กระทรวงมหาดไทยบังคับใช้กฎหมาย และเพิกถอนใบอนุญาตกับสถานบริการ ที่พบว่ามีการฝ่าฝืนกฎหมายปล่อยให้เด็กเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้บริการ รวมถึงสถานบริการที่ปิดเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด และกำชับไปยังหน่วยงานในสังกัดทุกพื้นที่ 2.ขอให้กระทรวงมหาดไทยจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ ลงพื้นที่สุ่มตรวจสถานบริการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่รอบสถานศึกษา โดยทำงานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ 3.ขอให้กระทรวงมหาดไทย ฟื้นนโยบายจัดระเบียบสังคม โดยเฉพาะแหล่งอบายมุขรอบสถานศึกษา เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมให้เด็กและเยาวชน
จากนั้น นายยงยุทธ กล่าวภายหลังรับข้อร้องเรียนของเครือข่ายเยาวชนฯ ว่า เห็นด้วยและยินดีสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพราะก่อนหน้านี้ ทางกระทรวงได้มีการประชุมถึงประเด็นการจัดระเบียบสังคมอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม การที่มีเครือข่ายเยาวชนเห็นถึงความสำคัญในเรื่องนี้ เราก็คงต้องคิดให้มากขึ้น ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยยินดีทำงานร่วมกับเครือข่ายเยาวชน เพื่อให้เกิดการเฝ้าระวัง แจ้งเบาะแสตามความผิด พ.ร.บ.สถานประกอบการ และจากนี้จะนำเรื่องดังกล่าวมอบให้อธิบดีกรมการปกครองเพื่อตรวจสอบต่อไป