กระทรวงแรงงาน ทุ่มงบอีก 13 ล้าน ขยายโรงงานสีขาวอีก 2 พันแห่งในปีนี้ พร้อมสั่งจัดทีมลุยตรวจเข้มสารเสพติดในโรงงาน ควบคู่การสร้างจิตสำนึก หวังแรงงานมีคุณภาพชีวิตที่ดี ลดต้นทุนการผลิต
วันนี้ (18 ม.ค.) นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (รง.) เป็นประธานเปิดงานปฏิบัติการมุ่งสู่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนครสีขาว ป้องกันยาเสพติด เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา พร้อมมอบเกียรติบัตรให้แก่สถานประกอบกิจการที่ผ่านเกณฑ์เป็นโรงงานสีขาวจำนวน 87 แห่ง เพิ่มขึ้นจาก 66 แห่ง เป็น 135 แห่ง จากโรงงานทั้งหมด 500 กว่าแห่งในนิคมฯ
โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ในปีนี้เรื่องยาเสพติดในโรงงานต้องเร่งขยายผลให้เป็นรูปธรรม ซึ่งได้กำชับให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จัดหาตัวแทนเข้าไปคลุกคลีกับผู้ใช้แรงงาน หรือหาตัวแทนแรงงาน เป็นผู้เก็บข้อมูลว่า มีแรงงานยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดหรือไม่ เพื่อจะได้หามาตรการแก้ไขทัน
ขณะเดียวกัน ในปีนี้จะมีการสุ่มตรวจสารเสพติดตามโรงงานถี่ขึ้น โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แท้จริง หากตรวจพบก็จะได้ส่งเข้ารับการบำบัด ซึ่งทุกภาคส่วนต้องร่วมกันแก้ไขปัญหายาเสพติดให้หมดไป โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ต้องร่วมกับผู้ประกอบการในการสร้างจิตสำนึกที่ดี และชี้ให้เห็นถึงผิดภัยของยาเสพติดควบคู่กันไป
เนื่องจากผู้ใช้แรงงานถือได้ว่ามีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจได้ หากยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด สุขภาพร่างกายก็จะเสื่อมโทรม การทำงานจะขาดประสิทธิภาพ จนส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุ และสิ้นเปลืองวัตถุดิบในการทำงานได้ แต่หากผู้ใช้แรงงานห่างไกลยาเสพติด ก็จะไม่มีทั้งปัญหาเรื่องเงิน ครอบครัว และงานตามมา
ด้านนายอาทิตย์ อิสโม อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวว่า ปีนี้ตั้งเป้าจะขยายผลโครงการโรงงานสีขาวสู่สถานประกอบการอีก 2,000 แห่ง และขยายสู่นิคมอุตสาหกรรมอีก 15 นิคม จากเดิม 10 นิคม ในงบประมาณดำเนินการ 13 ล้านบาท ซึ่งรวมขณะนี้มีสถานประกอบการ 54,100 แห่ง ครอบคลุมแรงงาน 5,645,020 คน โดยปีนี้จะขยายผลสู่สถานประกอบการขนาดเล็กที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 20 คนขึ้นไป ที่มีประมาณ 5 หมื่นแห่ง จากเดิมที่เน้นกลุ่มเป้าหมายสถานประกอบการที่มีลูกจ้าง 50 คนขึ้นไป ที่มีประมาณ 2 หมื่นแห่ง เนื่องจากสถานประกอบการขนาดเล็กถือเป็นกลุ่มเสี่ยง
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า การดำเนินการจะราบรื่น และมีสถานประกอบการเข้าร่วมเกินกว่าเป้าที่ตั้งไว้ เพราะว่าการส่งเจ้าหน้าเข้าพูกคุยกับผู้ประกอบการ พบว่า ส่วนใหญ่สนใจเข้าร่วมโครงการ โดยระบุว่า เป็นเรื่องที่ดี มีประโยชน์ต่อทั้งแรงงาน ครอบครัว สถานประกอบการ และระบบเศรษฐกิจ
ขณะที่ในรอบปี 2554 พบว่า มีผู้ใช้แรงงานทั่วประเทศเข้ารับการบำบัดยาเสพติด 4,486 คน และได้ช่วยเหลือจัดหางานให้ผู้ผ่านการบำบัด 15 คน ส่วนที่เหลือกลับเข้าสู่สถานประกอบการเดิม เนื่องจากโครงการโรงงานสีขาวได้ขอให้สถานประกอบการรับลูกจ้างที่ผ่านการบำบัดกลับเข้าทำงานตามเดิม นอกจากนี้ ยังได้กำชับให้กองสวัสดิการแรงงาน ติดตามผลโรงงานที่เข้าร่วมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดผลที่แท้จริง
อย่างไรก็ตาม ในสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการโรงงานสีขาวกว่า 100 แห่ง ได้เปิดเป็นศูนย์การเรียนรู้โครงการกลับสู่ชีวิตใหม่ ในการส่งต่อผู้ใช้แรงงานที่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเข้ารับการบำบัดในโรงพยาบาลเครือข่ายต่างๆ โดยไม่มีการเลิกจ้าง เมือบำบัดเสร็จก็รับกลับเข้าทำงานในตำแหน่งหน้าที่เดิม โดยไม่สร้างความรังเกลียด ให้ถือว่าเป็นผู้ป่วย ไม่ใช้ผู้ติดยา
ขณะที่นางสาววีณา กรแก้ว ผู้จัดการฝ่ายบุคคล บ.ทซึจิยา (ประเทศไทย) จำกัด ผลิตอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ กล่าวว่า บริษัทเข้าร่วมโครงการโรงงานสีขาวตั้งแต่ปี 2547 ซึ่งพนักงาน285 คนและครอบครัว ให้ความร่วมมือเข้าร่วมโครงการเป็นอย่างดี เนื่องจากเห็นว่าช่วยลดปัญหาครอบครัว และ ผลิตชิ้นงานมีคุณภาพลดอุบัติเหตุจากการทำงาน โดยช่วงที่ผ่านมาสามารถลดอุบัติเหตุจนกลายเป็นศูนย์
ทั้งนี้ บริษัทได้จัดโครงการ สปก.ก-09 สมาชิกป้องกันการติดยา ในการจัดพื้นที่ว่างเปล่าหลังโรงงาน ให้พนักงานแบ่งทีมปลูกพืชผัก เช่น ข้าว ข้าวโพด ถั่วพลู ผักคะน้า และประกวดผลผลิตในทุกปี เพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับพนักงานเห็นความสำคัญ รวมไปถึงจัดสรรพื้นที่ในโรงงานจำหน่ายผลผลิต ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ช่วยในเรื่องแรงงานสัมพันธ์ ลดความขัดแย้ง และเกิดความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนายจ้างลูกจ้าง
วันนี้ (18 ม.ค.) นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (รง.) เป็นประธานเปิดงานปฏิบัติการมุ่งสู่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนครสีขาว ป้องกันยาเสพติด เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา พร้อมมอบเกียรติบัตรให้แก่สถานประกอบกิจการที่ผ่านเกณฑ์เป็นโรงงานสีขาวจำนวน 87 แห่ง เพิ่มขึ้นจาก 66 แห่ง เป็น 135 แห่ง จากโรงงานทั้งหมด 500 กว่าแห่งในนิคมฯ
โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ในปีนี้เรื่องยาเสพติดในโรงงานต้องเร่งขยายผลให้เป็นรูปธรรม ซึ่งได้กำชับให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จัดหาตัวแทนเข้าไปคลุกคลีกับผู้ใช้แรงงาน หรือหาตัวแทนแรงงาน เป็นผู้เก็บข้อมูลว่า มีแรงงานยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดหรือไม่ เพื่อจะได้หามาตรการแก้ไขทัน
ขณะเดียวกัน ในปีนี้จะมีการสุ่มตรวจสารเสพติดตามโรงงานถี่ขึ้น โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แท้จริง หากตรวจพบก็จะได้ส่งเข้ารับการบำบัด ซึ่งทุกภาคส่วนต้องร่วมกันแก้ไขปัญหายาเสพติดให้หมดไป โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ต้องร่วมกับผู้ประกอบการในการสร้างจิตสำนึกที่ดี และชี้ให้เห็นถึงผิดภัยของยาเสพติดควบคู่กันไป
เนื่องจากผู้ใช้แรงงานถือได้ว่ามีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจได้ หากยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด สุขภาพร่างกายก็จะเสื่อมโทรม การทำงานจะขาดประสิทธิภาพ จนส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุ และสิ้นเปลืองวัตถุดิบในการทำงานได้ แต่หากผู้ใช้แรงงานห่างไกลยาเสพติด ก็จะไม่มีทั้งปัญหาเรื่องเงิน ครอบครัว และงานตามมา
ด้านนายอาทิตย์ อิสโม อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวว่า ปีนี้ตั้งเป้าจะขยายผลโครงการโรงงานสีขาวสู่สถานประกอบการอีก 2,000 แห่ง และขยายสู่นิคมอุตสาหกรรมอีก 15 นิคม จากเดิม 10 นิคม ในงบประมาณดำเนินการ 13 ล้านบาท ซึ่งรวมขณะนี้มีสถานประกอบการ 54,100 แห่ง ครอบคลุมแรงงาน 5,645,020 คน โดยปีนี้จะขยายผลสู่สถานประกอบการขนาดเล็กที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 20 คนขึ้นไป ที่มีประมาณ 5 หมื่นแห่ง จากเดิมที่เน้นกลุ่มเป้าหมายสถานประกอบการที่มีลูกจ้าง 50 คนขึ้นไป ที่มีประมาณ 2 หมื่นแห่ง เนื่องจากสถานประกอบการขนาดเล็กถือเป็นกลุ่มเสี่ยง
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า การดำเนินการจะราบรื่น และมีสถานประกอบการเข้าร่วมเกินกว่าเป้าที่ตั้งไว้ เพราะว่าการส่งเจ้าหน้าเข้าพูกคุยกับผู้ประกอบการ พบว่า ส่วนใหญ่สนใจเข้าร่วมโครงการ โดยระบุว่า เป็นเรื่องที่ดี มีประโยชน์ต่อทั้งแรงงาน ครอบครัว สถานประกอบการ และระบบเศรษฐกิจ
ขณะที่ในรอบปี 2554 พบว่า มีผู้ใช้แรงงานทั่วประเทศเข้ารับการบำบัดยาเสพติด 4,486 คน และได้ช่วยเหลือจัดหางานให้ผู้ผ่านการบำบัด 15 คน ส่วนที่เหลือกลับเข้าสู่สถานประกอบการเดิม เนื่องจากโครงการโรงงานสีขาวได้ขอให้สถานประกอบการรับลูกจ้างที่ผ่านการบำบัดกลับเข้าทำงานตามเดิม นอกจากนี้ ยังได้กำชับให้กองสวัสดิการแรงงาน ติดตามผลโรงงานที่เข้าร่วมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดผลที่แท้จริง
อย่างไรก็ตาม ในสถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการโรงงานสีขาวกว่า 100 แห่ง ได้เปิดเป็นศูนย์การเรียนรู้โครงการกลับสู่ชีวิตใหม่ ในการส่งต่อผู้ใช้แรงงานที่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเข้ารับการบำบัดในโรงพยาบาลเครือข่ายต่างๆ โดยไม่มีการเลิกจ้าง เมือบำบัดเสร็จก็รับกลับเข้าทำงานในตำแหน่งหน้าที่เดิม โดยไม่สร้างความรังเกลียด ให้ถือว่าเป็นผู้ป่วย ไม่ใช้ผู้ติดยา
ขณะที่นางสาววีณา กรแก้ว ผู้จัดการฝ่ายบุคคล บ.ทซึจิยา (ประเทศไทย) จำกัด ผลิตอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ กล่าวว่า บริษัทเข้าร่วมโครงการโรงงานสีขาวตั้งแต่ปี 2547 ซึ่งพนักงาน285 คนและครอบครัว ให้ความร่วมมือเข้าร่วมโครงการเป็นอย่างดี เนื่องจากเห็นว่าช่วยลดปัญหาครอบครัว และ ผลิตชิ้นงานมีคุณภาพลดอุบัติเหตุจากการทำงาน โดยช่วงที่ผ่านมาสามารถลดอุบัติเหตุจนกลายเป็นศูนย์
ทั้งนี้ บริษัทได้จัดโครงการ สปก.ก-09 สมาชิกป้องกันการติดยา ในการจัดพื้นที่ว่างเปล่าหลังโรงงาน ให้พนักงานแบ่งทีมปลูกพืชผัก เช่น ข้าว ข้าวโพด ถั่วพลู ผักคะน้า และประกวดผลผลิตในทุกปี เพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับพนักงานเห็นความสำคัญ รวมไปถึงจัดสรรพื้นที่ในโรงงานจำหน่ายผลผลิต ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ช่วยในเรื่องแรงงานสัมพันธ์ ลดความขัดแย้ง และเกิดความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนายจ้างลูกจ้าง
