“วรวัจน์” ชี้เด็กแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม เพราะครูห่างห้องเรียน

“วรวัจน์” ชี้เด็กแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม เพราะครูห่างห้องเรียน ดูแลเด็กไม่ทั่วถึง ระบุศธ.ได้ปรับวิธีการทำผลงานใหม่เพื่อคืนครูให้ นร. ชู “โครงการผู้นำตามธรรมชาติ” ที่คัดเด็กดีและเป็นที่ยอมรับมาเป็นแบบอย่างให้คนอื่นๆ พร้อมกำชับผู้บริหาร ครูดูแลเด็กใกล้ชิด

ตามที่มีผู้นำคลิปวิดีโอจากเว็บไซต์ยูทิวบ์ ซึ่งตั้งชื่อว่า อนาคต...(http://youtu.be/9HIYbZqzHAg) มาเผยแพร่ มีความยาว 1.47 นาที ซึ่งมีผู้นำมาโพสต์ไว้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2554 ที่ผ่านมา โดยภาพในคลิปวิดีโอเป็นเด็กหญิงสาวที่อยู่ในเครื่องแบบนักเรียนมัธยมต้น คาดว่าอายุไม่เกิน 15 ปี ยืนอยู่บนเก้าอี้สวมชุดนักเรียนอยู่กลางห้องเรียน และมีกลุ่มเพื่อนนักเรียนชายหญิงยืนมองการเต้นอยู่รอบห้อง โดยเด็กสาวคนดังกล่าวได้เต้นโยกย้ายส่ายสะโพกไปมา ก่อนจะเริ่มถอดกระโปรงออกมาแล้วโยนเหวี่ยงออกจากตัว และเริ่มร่ายท่าเต้นด้วยลีลายั่วยวน เหลือกางเกงขาสั้นเอาไว้ เพียงไม่นานก็จบการเต้นด้วยการถอดเสื้อนักเรียนออกจนเหลือเพียงยกทรงสีดำ ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางเพื่อนชายตัดผมสั้นเกรียน และเพื่อนหญิงที่พร้อมใจกันยกกล้องถ่ายบันทึกภาพจากโทรศัพท์มือถือ

นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า แน่นอนว่าสิ่งที่เกิดนั้นเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม แต่ปัญหาการแสดงออกในพฤติกรรมต่างๆ ของเด็กนั้นสาเหตุส่วนหนึ่งเพราะขาดการดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดจากครูที่หันไปใช้เวลาเพื่อการทำผลงานวิทยฐานะ กลายเป็นว่าต้องห่างห้องเรียน ห่างเด็กออกไป ไม่สามารถรู้ได้ว่าเด็กแต่ละคนในการดูแลมีพฤติกรรมเสี่ยง หรือมีปัญหาที่ต้องได้รับการดูแลใกล้ชิดหรือไม่ เพราะฉะนั้น เพื่อให้ครูไม่ห่างห้องเรียนและเด็ก ศธ.ก็มีการปรับเปลี่ยนวิธีการประเมินวิทยฐานะ เพื่อคืนครูให้กับนักเรียน

นอกจากนั้น ศธ.ยังได้จัดโครงการผู้นำตามธรรมชาติ ที่คัดเลือกนักเรียนที่ดี เป็นที่ยอมรับของเพื่อนมาเป็นผู้นำในการสร้างสิ่งดีๆ เพื่อเป็นแบบอย่างและจะมีการจัดกิจกรรมลงไปในแต่ละโรงเรียนซึ่งโครงการดังกล่าวเพิ่งเริ่มไม่นานงบประมาณที่จะใช้สนับสนุนยังไม่เพียงพอทำได้เต็มที่ ซึ่งเชื่อว่าในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 ที่ได้รับอนุมัติงบประมาณเรียบร้อยแล้วจะได้เห็นการทำงานที่ชัดเจนขึ้น อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วคงแก้ไขอะไรไม่ได้ แต่ ศธ.ได้จะหาแนวทางเพื่อป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก โดยจะกำชับให้ผู้อำนวยการสถานศึกษา และครูทุกคนคอยติดตามดูแลนักเรียนใกล้ชิดด้วย