สธ.รับมอบน้ำเกลือจากญี่ปุ่น มูลค่า 5 ล้านบาท เตรียมกระจายให้สถานพยาบาลโดยเร็ว
วันนี้ (28 ธ.ค.) นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รับมอบน้ำเกลือสำหรับผู้ป่วยโรคไต จากประเทศญี่ปุ่นจำนวน 150,000 ลิตร มูลค่า 5 ล้านบาท เพื่อนำไปช่วยผู้ป่วยโรคไตที่ประสบอุทกภัย
โดย นายวิทยา กล่าวว่า จากสถานการณ์ที่ประเทศไทยประสบปัญหาน้ำท่วมนั้น จากปัญหาน้ำท่วมส่งผลกระทบต่อโรงงานผลิตน้ำเกลือบางส่วน และอยู่ระหว่างการซ่อมแซม ทำให้ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ บางส่วนเพื่อสำรองไว้ ดังนั้น จึงเป็นการดีที่ประเทศญี่ปุ่นมามอบน้ำเกลือให้ ซึ่ง สธ.จะเร่งกระจายให้สถานพยาบาลในสังกัดต่อไปสำหรับจำนวนผู้ป่วยไตวายเรื้อรังที่ต้องรักษาด้วยการฟอกเลือดผ่านเครื่องด้วยน้ำเกลือสำหรับล้างไตจากจำนวน 30,000 รายทั่วประเทศ และมีผู้ป่วยได้รับผลกระทบจำนวน 12,000 ราย นอกจากนี้ยังได้มอบนโยบายให้องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ได้ดำเนินการเกี่ยวกับการตั้งโรงงานผลิตน้ำเกลือเองด้วย เพื่อที่ในอนาคตจะได้มี
ด้าน นายไซจิ โคจิมา เอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย กล่าวว่า เนื่องจากช่วงที่ประเทศญี่ปุ่นประสบภัยแผ่นดินไหว ประเทศไทยได้มีการให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี ดังนั้น จึงถือว่าเป็นการตอบแทนประเทศไทย โดยค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะทางประเทศญี่ปุ่นจะรับผิดชอบ
วันนี้ (28 ธ.ค.) นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รับมอบน้ำเกลือสำหรับผู้ป่วยโรคไต จากประเทศญี่ปุ่นจำนวน 150,000 ลิตร มูลค่า 5 ล้านบาท เพื่อนำไปช่วยผู้ป่วยโรคไตที่ประสบอุทกภัย
โดย นายวิทยา กล่าวว่า จากสถานการณ์ที่ประเทศไทยประสบปัญหาน้ำท่วมนั้น จากปัญหาน้ำท่วมส่งผลกระทบต่อโรงงานผลิตน้ำเกลือบางส่วน และอยู่ระหว่างการซ่อมแซม ทำให้ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ บางส่วนเพื่อสำรองไว้ ดังนั้น จึงเป็นการดีที่ประเทศญี่ปุ่นมามอบน้ำเกลือให้ ซึ่ง สธ.จะเร่งกระจายให้สถานพยาบาลในสังกัดต่อไปสำหรับจำนวนผู้ป่วยไตวายเรื้อรังที่ต้องรักษาด้วยการฟอกเลือดผ่านเครื่องด้วยน้ำเกลือสำหรับล้างไตจากจำนวน 30,000 รายทั่วประเทศ และมีผู้ป่วยได้รับผลกระทบจำนวน 12,000 ราย นอกจากนี้ยังได้มอบนโยบายให้องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ได้ดำเนินการเกี่ยวกับการตั้งโรงงานผลิตน้ำเกลือเองด้วย เพื่อที่ในอนาคตจะได้มี
ด้าน นายไซจิ โคจิมา เอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย กล่าวว่า เนื่องจากช่วงที่ประเทศญี่ปุ่นประสบภัยแผ่นดินไหว ประเทศไทยได้มีการให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี ดังนั้น จึงถือว่าเป็นการตอบแทนประเทศไทย โดยค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะทางประเทศญี่ปุ่นจะรับผิดชอบ