วอนดัน ม.นอกระบบ ให้เดินหน้าต่อ เผย มีร่าง พ.ร.บ.มหา’ลัยหลายแห่งรอเสนอให้ ครม.พิจารณา ชี้ มหา’ลัยที่ออกนอกระบบก่อนหน้ามีการพัฒนาที่ดีขึ้น เตรียมจี้ขอคำตอบเพิ่มเงินเดือน 5% ขรก.ทั้งระบบในปี 54 แต่จนบัดนี้ยังได้ไม่ครบต้องใช้เงินรายได้สำรองจ่ายแทน
ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ว่า ที่ประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เปิดเผยว่า ในการประชุม ทปอ.เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมได้หารือกรณีที่ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มีท่าทีไม่เห็นด้วยที่จะให้มหาวิทยาลัยจะออกนอกระบบ โดยให้เหตุผลว่า เป็นการผลักภาระให้ผู้ปกครองและนักศึกษานั้น ทางที่ประชุมมีความเห็นว่า แม้ นายวรวัจน์ จะไม่เห็นด้วยกับการออกนอกระบบ แต่หากมหาวิทยาลัยใดมีร่าง พ.ร.บ.ของตัวเองแล้ว ทปอ.ก็อยากขอความกรุณาให้นายวรวัจน์ ช่วยผลักดันร่าง พ.ร.บ.ของมหาวิทยาลัยที่มีความพร้อมให้เข้าสู่การพิจารณาของ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามขั้นตอน
ทั้งนี้ ทปอ.ยินดีจะชี้แจงถึงเหตุผล ข้อดี ของการเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับรัฐ ให้ รมว.ศึกษาธิการ เข้าใจด้วย และที่ผ่านมา ก็มีบทพิสูจน์แล้วว่ามหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ที่ออกนอกระบบไปแล้วจะ มีการพัฒนาไปในทิศทางที่ดี โดยขณะนี้มีร่าง พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) มหาวิทยาลัยที่ผ่านสภามหาวิทยาลัยแล้วและกำลังรอเข้า ครม. เช่น พ.ร.บมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) ร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) และร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยศิลปากร (มศก.) เป็นต้น ส่วนที่ยังอยู่ระหว่างการจัดทำร่าง พ.ร.บ.ก็ขอให้ขึ้นอยู่กับการความพร้อมของแต่ละแห่ง
อธิการบดี มธ.กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังหารือเกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้กับพนักงานมหาวิทยาลัย ลักษณะคล้ายกับกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือ กบข.ใช้สำหรับมหาวิทยาลัยที่ออกนอกระบบไปแล้ว เพื่อให้พนักงานมหาวิทยาลัยมีหลักประกันที่ดีในอนาคต เพราะต่อไปจะมีจำนวนพนักงานมหาวิทยาลัยมากขึ้น ดังนั้น จึงควรมีความมั่นคงในชีวิตด้วย ขณะเดียวกัน ทปอ.จะทวงถามรัฐบาล กรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้เพิ่มเงินเดือน 5% แก่ข้าราชการทั้งระบบ ในปีงบประมาณ 2554 ซึ่งรวมถึงพนักงานมหาวิทยาลัยด้วย แต่ปรากฏว่าพนักงานมหาวิทยาลัยยังไม่ได้รับเงินส่วนนี้ ขณะที่หลายมหาวิทยาลัยใช้เงินรายได้ของมหาวิทยาลัยจ่ายเงินเดือนให้พนักงานไปแล้ว ว่ารัฐบาลจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ว่า ที่ประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เปิดเผยว่า ในการประชุม ทปอ.เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมได้หารือกรณีที่ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มีท่าทีไม่เห็นด้วยที่จะให้มหาวิทยาลัยจะออกนอกระบบ โดยให้เหตุผลว่า เป็นการผลักภาระให้ผู้ปกครองและนักศึกษานั้น ทางที่ประชุมมีความเห็นว่า แม้ นายวรวัจน์ จะไม่เห็นด้วยกับการออกนอกระบบ แต่หากมหาวิทยาลัยใดมีร่าง พ.ร.บ.ของตัวเองแล้ว ทปอ.ก็อยากขอความกรุณาให้นายวรวัจน์ ช่วยผลักดันร่าง พ.ร.บ.ของมหาวิทยาลัยที่มีความพร้อมให้เข้าสู่การพิจารณาของ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามขั้นตอน
ทั้งนี้ ทปอ.ยินดีจะชี้แจงถึงเหตุผล ข้อดี ของการเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับรัฐ ให้ รมว.ศึกษาธิการ เข้าใจด้วย และที่ผ่านมา ก็มีบทพิสูจน์แล้วว่ามหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ที่ออกนอกระบบไปแล้วจะ มีการพัฒนาไปในทิศทางที่ดี โดยขณะนี้มีร่าง พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) มหาวิทยาลัยที่ผ่านสภามหาวิทยาลัยแล้วและกำลังรอเข้า ครม. เช่น พ.ร.บมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) ร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) และร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยศิลปากร (มศก.) เป็นต้น ส่วนที่ยังอยู่ระหว่างการจัดทำร่าง พ.ร.บ.ก็ขอให้ขึ้นอยู่กับการความพร้อมของแต่ละแห่ง
อธิการบดี มธ.กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังหารือเกี่ยวกับการจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้กับพนักงานมหาวิทยาลัย ลักษณะคล้ายกับกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือ กบข.ใช้สำหรับมหาวิทยาลัยที่ออกนอกระบบไปแล้ว เพื่อให้พนักงานมหาวิทยาลัยมีหลักประกันที่ดีในอนาคต เพราะต่อไปจะมีจำนวนพนักงานมหาวิทยาลัยมากขึ้น ดังนั้น จึงควรมีความมั่นคงในชีวิตด้วย ขณะเดียวกัน ทปอ.จะทวงถามรัฐบาล กรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้เพิ่มเงินเดือน 5% แก่ข้าราชการทั้งระบบ ในปีงบประมาณ 2554 ซึ่งรวมถึงพนักงานมหาวิทยาลัยด้วย แต่ปรากฏว่าพนักงานมหาวิทยาลัยยังไม่ได้รับเงินส่วนนี้ ขณะที่หลายมหาวิทยาลัยใช้เงินรายได้ของมหาวิทยาลัยจ่ายเงินเดือนให้พนักงานไปแล้ว ว่ารัฐบาลจะดำเนินการอย่างไรต่อไป