เยาวชน “กรีน อคาเดมี” ก้าวย่าง...ตามรอยพระราชา

ในช่วงปิดภาคเรียนที่ผ่านมา ซึ่งอาจจะเรียกได้ว่ายาวนานที่สุดเมื่อเทียบกับห้วงเวลาเดียวกันกับทุกปี จนทำเอาน้องๆ หนูๆ คิดถึงโรงเรียนกันเป็นแถว...นี่ถ้าไม่ใช่เพราะน้องน้ำ หรือจะเรียกว่าป้าน้ำ เพราะเลยหลักสี่มาแล้วเจ้าเหล่าตัวน้อยตัวนิดคงไม่ได้หยุดยาวขนาดนี้แน่ๆ !!

...และเมื่อได้โอกาสหยุดยาวซะขนาดนี้ผู้ใหญ่ใจดีอย่างเอสซีจี เปเปอร์ จึงชักชวนเด็กๆ มาร่วมสานต่อกิจกรรมดีๆที่ชื่อว่าโครงการ “ค่ายเยาวชนรุ่นใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” หรือ “SCG Paper Green Academy ” ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นรุ่นที่ 4 แล้วโดยคัดเลือกเด็กๆ จากชุมชนที่อาศัยอยู่ในรัศมี 5 กิโลเมตรรอบๆ โรงงานของเอสซีจี เปเปอร์ มาร่วมค่ายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นเวลา 3 วัน 2 คืน ณ อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชน และการศึกษาดูงานที่โครงการวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเพชรบุรี เพื่อเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมรวมทั้งส่งเสริมให้เด็กๆ เหล่านี้สามารถสร้างรายได้เสริมจากสิ่งที่มีอยู่ในชุมชน ถือเป็นการเรียนรู้และสร้างพื้นฐานที่ดี ทั้งในเชิงเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไปตามแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน

น้องมิน - ด.ช.ศุภกิตติ์ มักเจียว อายุ 11 ปี นักเรียนชั้นป.6 ร.ร.วัดหุบมะกล่ำ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เล่าถึงประสบการณ์ที่ได้รับครั้งนี้ ว่า ตนเองได้รับความสนุกและความรู้โดยเฉพาะฐานเพาะถั่วงอกที่ได้ทดลองทำด้วยตนเองซึ่งจะนำเอาไปบอกต่อที่บ้าน แถมยังได้ความรู้ใหม่ๆจากโครงการวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.เพชรบุรี ด้วยว่าหญ้าก็สามารถใช้บำบัดน้ำเสียได้ เรียนรู้การรักษาธรรมชาติจากที่นี่อีกทั้งยังได้เพื่อนใหม่ๆ อีกมากมาย

“ผมจะทำตามรอยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านทรงปฏิบัติด้วยการจะปลูกพืชผักตามหลักพออยู่พอกินบนที่ดิน 1 ไร่ และจะเริ่มต้นคัดแยกขยะ ทำน้ำยาล้างจานใช้เองภายในบ้านอีกด้วย และที่สำคัญผมอยากให้ช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมไม่ตัดไม้ทำลายป่ากันด้วยครับ”

ขณะที่น้องไนซ์ - ด.ช.นิพิฐพนธ์ จิ้มลิ้ม อายุ 11 ปี ร.ร.โพธาวัฒนามณี อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ร่วมแชร์เรื่องราวดีๆ ว่า ได้รับความรู้ในสิ่งที่ยังไม่เคยรู้ เช่น การปลูกป่าชายเลน การบำบัดน้ำเสีย การรักษาธรรมชาติซึ่งความรู้ที่ได้รับทั้งหมดนี้ตนเองจะนำเอาไปพัฒนาชุมชนโดยจะเริ่มบอกตั้งแต่คนในบ้านว่าการทำเป็นอย่างไร

ส่วน ด.ช.อรรถพล กองผุย หรือ น้องโอ๊ต อายุ 12 ปี เพื่อนร่วมชั้นเรียนกับน้องมิน บอกว่า จะเปลี่ยนมาใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก และจะนำเศษขยะที่เป็นอินทรีย์มาหมักเป็นปุ๋ยชีวภาพเพื่อนำไปช่วยไล่มดไล่แมลง หรือถ้าเป็นขยะที่สามารถนำมารีไซเคิล เราก็ควรเก็บไว้แล้วนำมารีไซเคิล หรือถ้าเก็บได้มากๆก็นำไปขายสร้างรายได้ให้กับครอบครัวอีกทางหนึ่ง

ด้าน น้องเฟิน หรือ ด.ญ.จันจิรา เพ็งเลา สาวน้อย 1 เดียววัย 14 ปี จาก ร.ร.โพธาวัฒนามณี ว่า ตื่นเต้นและสนุกมากมายที่ได้มาร่วมกิจกรรมครั้งนี้ เพราะนอกจากจะได้ความรู้ทั้งการคัดแยกขยะเพื่อช่วยลดโลกร้อน การรักษาธรรมชาติให้ยั่งยืน การเรียนรู้วิธีการทำน้ำยาล้างจานใช้เองที่บ้านซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถกลับไปทำได้เลยและได้กำไรค่อนข้างเยอะ เกือบเท่าตัวของเงินลงทุน อีกทั้งวัตถุดิบสามารถหาเองได้ไม่ยาก

ฟากผู้ใหญ่ใจดี “ประกอบ พิกุลกานตเลิศ” ผู้จัดการสำนักงานพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน เอสซีจี เปเปอร์ ฝากทิ้งท้ายว่า ที่เอสซีจีฯ ดำเนินการโครงการตั้งแต่รุ่นแรกมาจนถึงรุ่นที่ 4 นี้เพราะอยากจะปลูกฝังให้เด็กๆรักสิ่งแวดล้อม ตลอดจนให้ช่วยกันดูแลชุมชน และไม่เพียงแค่ตัวเด็กๆ จะได้ประโยชน์เองแล้วพ่อแม่เองก็ยังรู้สึกดีที่ลูกของตนเองได้เรียนรู้สิ่งแวดล้อม พร้อมๆ กับการส่งเสริมอาชีพให้เขาทำในเวลาว่างอีกด้วย

...ในอนาคตเราจะได้เห็นผลิตผลจาก “Green Academy” เติบโตเป็นไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงา หรืออย่างน้อยก็สามารถยืนด้วยลำต้นของตนเองอย่าง “พอเพียง”ตามแนวทางพระราชดำริของ “พ่อ” ผู้เป็นแรงบันดาลใจของคนไทยทุกคน...

รายงานพิเศษโดย รัชญา จันทะรัง