เร่งพัฒนา 9,726 รพ.สต. 215 ศูนย์สุขภาพเมือง ช่วยลดความแออัด ผู้ป่วย รพ.ใหญ่ครึ่งหนึ่ง หวังอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนไม่ต้องรอคิวยาว
วันนี้ (12 ธ.ค.) นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัด สธ. เปิดศูนย์แพทย์ชุมชนดอนยอ ต.คูหาสวรรค์ อ.เมือง จ.พัทลุง ซึ่งเป็นเครือข่ายบริการแห่งที่ 3 ของโรงพยาบาลพัทลุง หลังเปิดไปแล้ว 2 แห่ง คือ ที่ศูนย์แพทย์ชุมชนท่ามิหรำ และศูนย์แพทย์ชุมชนคูหาสวรรค์ จากนั้นเดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลพัทลุง และไปที่มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง เพื่อติดตามความก้าวหน้าการตั้งศูนย์การศึกษาและบริการทางการแพทย์ของมหาวิทยาลัย
นายวิทยากล่าวว่า ปัญหาบริการสุขภาพที่ต้องเร่งแก้ไขขณะนี้มี 5 เรื่อง คือ การเข้าถึงบริการ ระบบการส่งต่อผู้ป่วย ประชาชนพึ่งพิงโรงพยาบาลไม่พึ่งตนเอง โรงพยาบาล (รพ.) ใหญ่แออัด และบริการของหน่วยบริการพื้นฐานยังมีข้อจำกัด รัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุข มีนโยบายเร่งพัฒนาระบบริการทุกระดับทั้งเขตเมืองและชนบทให้เพียงพอ ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน เครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็น เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการใกล้บ้านและมีคุณภาพ และลดปัญหาแออัดของผู้ป่วยที่แผนกผู้ป่วยนอกในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ 95 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้คิวยาวตรวจรักษาแห่งละ 1,500-2,000 รายต่อวัน ประมาณร้อยละ 40 เป็นผู้ป่วยโรคเรื้อรัง คือ โรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูง หากผู้ป่วยกลุ่มนี้ได้รับการดูแลรักษาไม่ดีพอก็จะเกิดโรคแทรกอื่นตามมาอีก เช่น โรคหัวใจ ไตวาย และผู้ป่วยอีกประมาณร้อยละ 70 ป่วยไม่รุนแรง จึงต้องเร่งพัฒนาระบบบริการ และการบริหารจัดการควบคู่กัน
นายวิทยากล่าวต่อว่า ในปี 2555 นี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ตั้งเป้าหมายลดปัญหาแออัดผู้ป่วยนอก โดยพัฒนาหน่วยบริการใกล้บ้าน ในเขตชนบท คือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่มี 9,726 แห่ง ส่วนในเขตอ.เมือง ซึ่งที่ผ่านมาจะมีเฉพาะโรงพยาบาลใหญ่คือโรงพยาบาลศูนย์ และโรงพยาบาลทั่วไป ก็จะตั้งศูนย์สุขภาพเมืองเพิ่มอำเภอละ 2-3 แห่ง มีแพทย์ มีห้องแล็บ อุปกรณ์การแพทย์อื่นๆ ที่จำเป็น รวมทั้งหมด 215 แห่ง เป็นหน่วยบริการตรวจรักษาผู้ป่วยนอกทั่วไป และผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ต้องไปพบแพทย์ตามนัด โดยจะให้โรงพยาบาลทุกแห่งเชื่อมโยงข้อมูลผู้ป่วยในพื้นที่ที่อยู่ในความดูแลผ่านในระบบคอมพิวเตอร์ออนไลน์ รวมทั้งการให้เจ้าหน้าที่และอสม.ออกเยี่ยมผู้ป่วยเรื้อรังที่อาการทรงตัวและนอนรักษาที่บ้านเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพ มั่นใจว่าระบบดังกล่าว จะทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการได้เร็ว ไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาลใหญ่ คาดว่าจะสามารถลดความแออัดผู้ป่วยไปใช้บริการในโรงพยาบาลใหญ่ลงได้ 50 เปอร์เซ็นต์
นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า ในปี 2555 นี้ กระทรวงสาธารณสุขจะพัฒนาศักยภาพของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 1,000 แห่ง ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นหน่วยทหารราบ ให้มีความเข้มแข็ง เป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพคุณภาพ เป็นที่เชื่อมั่นและการยอมรับของประชาชนในพื้นที่ และเป็นต้นแบบของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทั่วประเทศ หัวใจของการให้บริการหลักคือการสร้างสุขภาพนำซ่อมสุขภาพ โดยมีการเพิ่มกำลังคน และพัฒนาองค์ความรู้เจ้าหน้าที่จากกรมวิชาการต่างๆเพื่อให้เป็นนักสุขภาพประจำครอบครัว ออกเยี่ยมบ้านให้ได้ร้อยละ 80 ของงานบริการ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะรู้ปัญหาสุขภาพทุกครอบครัว และมีระบบดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรัง โดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวาน ความดันโลหิตสูงทุกราย ซึ่งขณะนี้ทั่วประเทศมีประมาณ 3 ล้านคน ไม่ให้เกิดปัญหาแทรกซ้อนเช่นไตวาย ตาบอด ขณะเดี่ยวกันจะตรวจคัดกรองสุขภาพประชาชนในพื้นที่ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไปร่วมกับอสม. เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงเช่นการออกกำลังกาย การกินอาหาร ป้องกันไม่ให้มีผู้ป่วยรายใหม่เกิดขึ้น ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มั่นใจว่าทิศทางดังกล่าวจะลดจำนวนผู้ป่วยเรื้อรังในประเทศไทยในอนาคตได้สำเร็จ