ห่วงเจดีย์อโยธยากว่า 500 ปีพัง หลังพบฐานมุมมีรอยแยกกว้าง 1 เมตร กรมศิลป์เร่งกู้โบราณสถานจมน้ำ ด้านผู้เชี่ยวชาญญี่ปุ่นพบขี้เกลือเกาะคราบอิฐเจดีย์อื้อ
วันนี้ (30 พ.ย.) ที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา นางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร พร้อมคณะ และผู้เชี่ยวชาญจากองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายโบราณสถานที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เช่น ป้อมเพชร วัดพระศรีสรรเพชญ์ วัดโลกยสุธา และวัดไชยวัฒนาราม โดย น.ส.โยโกะ ฟูตากามิ ผู้เชี่ยวชาญด้านเชื้อราจากประเทศญี่ปุ่น ยูเนสโก กล่าวภายหลังสำรวจความเสียหาย ว่า อิฐที่วัดพระศรีสรรเพชญ์ มีตะไคร่และขี้เกลือขึ้น ซึ่งเกิดจากน้ำมีความเค็มพัดพาดินโคลนมาเกาะอยู่ตามซอกอิฐ ส่วนที่อื่นๆ จะต้องดูสภาพอิฐก่อน จึงจะสรุปความเสียหาย และจะให้คำแนะนำกรมศิลปากรในวิธีการรักษาของอิฐ ในวันที่ 2 ธ.ค.
ด้าน นางโสมสุดา กล่าวว่า การที่ผู้เชี่ยวชาญยูเนสโกลงพื้นที่ จะเป็นผลดีต่อกรมศิลปากรในการบูรณะตามหลักสากล สำหรับงานเร่งด่วนในตอนนี้ จะต้องปรับปรุงภูมิทัศน์ในพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ให้กลับมาสวยดังเดิม ส่วนโบราณสถานนอกเกาะเมืองอีกสิบแห่งปัจจุบันนี้ พบว่า ยังมีน้ำท่วมขังอยู่ อย่างที่ วัดไชยวัฒนาราม ระดับน้ำ 1 เมตร ส่วนเขตอโยธยามีวัดจักรวรรดิ์ วัดมเหยงคณ์ วัดกุฎีดาว วัดดุสิตาราม เป็นต้น จึงต้องเร่งกู้โบราณสถานโดยการสูบน้ำออก เนื่องจากฐานเจดีย์อุ้มน้ำเป็นเวลานานกว่าเดือนจะเกิดเปื่อยยุ่ย หลุดร่อน แตกร้าวเหมือนที่พระนอนไสยาสน์วัดโลกยสุธาหลังน้ำลดแห้งสนิทพบรอยร้าวแตกเป็นทางยาวขวางลำตัวบริเวณเหนือฝ่าพระบาท
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบยังพบว่า สภาพเจดีย์ทรงลังกาแปดเหลี่ยมวัดอโยธยา หรือวัดเดิม ซึ่งมีอายุกว่า 500 ปี พบว่า มีรอยปริแยกของอิฐขนาดกว้างประมาณ 1 เมตรตรงฐานมุมเจดีย์เดิมอยู่ และฐานด้านทิศตะวันตกมีรอยดินถล่มลงมาเป็นวงกว้างโดยมียอดเจดีย์หักล่วงหล่นวางกองอยู่ด้านข้างเจดีย์มานาน
“รอยปริแยกฐานเจดีย์ทรงลังกา นักโบราณคดีชี้แจงว่ารอยปริแยกนั้นเป็นรอยเดิมที่ปูนสอหมดสภาพมานาน แต่จากการตรวจสภาพดินโดยรอบของฐานที่ตั้งอยู่บนเนินสูงมีรอยชื้นจากน้ำใต้ดิน ซึ่งนักโบราณคดีหลายท่านเป็นห่วงจะมีผลกระทบต่อฐานไม่มั่นคงพอที่จะรับน้ำหนักองค์เจดีย์ขนาดใหญ่ได้ ที่สำคัญเจดีย์นี้ไม่ได้รับการบูรณะมานาน จึงมอบให้สำนักศิลปากรที่ 3 อยุธยา จัดทำแผนงานบูรณะโบราณสถาน 130 แห่งให้กลับมาอยู่ในสภาพแข็งแรง” นางโสมสุดา กล่าว
ด้าน นางสุกุมล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า ตนได้รับรายงานว่า จ.นนทบุรี วัดที่ขึ้นทะเบียนโบราณสถานอีกหลายแห่งมีน้ำท่วมขังอยู่ เช่น วัดชะลอ อ.บางกรวย อุโบสถเก่าแก่ได้รับความเสียหาย ซึ่งตนและกรมศิลปากรจะลงพื้นที่ตรวจสภาพความเสียหายเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ดี คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติงบประมาณ 1,400 ล้านบาท เพื่อใช้ในการบูรณะโบราณสถานทั่วประเทศ