“วิทยา” สั่งการกรมควบคุมโรค สนับสนุนวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 80,000 โดส ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดดำเนินการฉีดให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง เจ้าหน้าที่และอาสาสมัคร ในศูนย์พักพิงขนาดใหญ่ใน 18 จังหวัด ทหาร และบุคลากรทางการแพทย์ ป้องกันการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ เนื่องจากอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก
นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมว.สธ.) ให้สัมภาษณ์ ได้สั่งการให้กรมควบคุมโรค สนับสนุนวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 80,000 โดส ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.)ที่มีศูนย์พักพิง 17 จังหวัด ได้แก่ ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา นนทบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี สระบุรี ชัยนาท อ่างทอง อุบลราชธานี นครปฐม กาญจนบุรี สมุทรสาคร ชลบุรี ราชบุรี นครนายก ประจวบคีรีขันธ์ และเพชรบุรี รวมทั้งประสาน กทม.นำวัคซีนไปฉีดให้ผู้ประสบภัยที่เป็นกลุ่มเสี่ยงในศูนย์พักพิง เจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่ดูแลศูนย์พักพิง ทหาร บุคลากรทางการแพทย์ที่ดูแลช่วยเหลือประชาชน โดยเริ่มบริการภายในสัปดาห์นี้ ในศูนย์ขนาดใหญ่ที่มีผู้อพยพมากกว่า 1,000 คน เพื่อป้องกันการระบาดของไข้หวัดใหญ่ เนื่องจากมีผู้อพยพอยู่รวมกันเป็นจำนวนมากในสถานที่จำกัด และส่วนใหญ่กว่าครึ่งเป็นผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ซึ่งเป็นกลุ่มที่ร่างกายมีความเปราะบาง เสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคติดต่อได้ง่าย และได้กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่สาธารณสุขให้การดูแลศูนย์พักพิง ทั้งด้านการรักษาพยาบาลร่างกายและจิตใจ สุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม การควบคุมป้องกันโรคอย่างต่อเนื่องด้วย
ด้านนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดสธ.กล่าวว่า โรคไข้หวัดใหญ่เป็นที่ติดต่อง่ายทางการหายใจและสัมผัสเสมหะ น้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีคนมาอยู่รวมกันจำนวนมาก อย่างเช่น ในศูนย์พักพิง อาจทำให้เกิดการระบาดได้ง่าย วิธีป้องกันที่ดีวิธีหนึ่งคือการฉีดวัคซีน โดยวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่จะฉีดให้กลุ่มเสี่ยงในศูนย์พักพิงครั้งนี้ เป็นวัคซีนชนิดรวม ป้องกันได้ 3 สายพันธุ์ คือ ชนิด 2009 ชนิดบี และชนิดเอ (เอช 3 เอ็น 2) โดยจะฉีดให้กลุ่มเสี่ยงคือบุคลากรทางการแพทย์และอาสาสมัครที่ต้องให้การดูแลรักษาผู้เจ็บป่วย ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 โรค ได้แก่ โรคปอด โรคหอบหืด โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคไตวายเรื้อรัง โรคมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัด และโรคเบาหวาน นอกจากนี้ ขอให้ผู้อพยพที่ป่วยเป็นไข้หวัดสวมหน้ากากอนามัย และล้างมือบ่อยๆ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไปสู่ผู้อื่น
ทั้งนี้ จากการเฝ้าระวังโรค 10 โรคในศูนย์พักพิง ได้แก่ อุจจาระร่วงเฉียบพลัน อาหารเป็นพิษ ถ่ายเป็นมูกเลือด เลปโตสไปโรซิส ไข้เลือดออก ปอดอักเสบเฉียบพลัน ตาแดงจากการติดเชื้อ ไข้หวัดหรือสงสัยไข้หวัดใหญ่ โรคมือ เท้า ปาก ไข้ออกผื่นสงสัยโรคติดต่อ เช่น หัด หัดเยอรมัน สุกใส และการป่วยเป็นกลุ่มก้อนด้วยโรคอื่นๆ ที่โรคแพร่ระบาดได้ง่าย โดยที่ผ่านมาพบ ผู้อพยพในศูนย์พักพิงป่วยเป็นโรคไข้หวัดหรือสงสัยไข้หวัดใหญ่ อุจจาระร่วงหรืออาหารเป็นพิษ ตาแดง และสงสัยโรคฉี่หนู บ้างประปราย ยังไม่พบการระบาดของโรคเป็นกลุ่มก้อน
สำหรับไข้หวัดใหญ่ ในปี 2554 ตั้งแต่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2554 สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค รายงานพบผู้ป่วยแล้ว 51,868ราย เสียชีวิต 5 ราย ซึ่งแนวโน้มลดลงกว่าในปี 2553 ซึ่งตลอดทั้งปี พบผู้ป่วย 115,183 ราย เสียชีวิต 126 ราย
นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมว.สธ.) ให้สัมภาษณ์ ได้สั่งการให้กรมควบคุมโรค สนับสนุนวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 80,000 โดส ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.)ที่มีศูนย์พักพิง 17 จังหวัด ได้แก่ ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา นนทบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี สระบุรี ชัยนาท อ่างทอง อุบลราชธานี นครปฐม กาญจนบุรี สมุทรสาคร ชลบุรี ราชบุรี นครนายก ประจวบคีรีขันธ์ และเพชรบุรี รวมทั้งประสาน กทม.นำวัคซีนไปฉีดให้ผู้ประสบภัยที่เป็นกลุ่มเสี่ยงในศูนย์พักพิง เจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่ดูแลศูนย์พักพิง ทหาร บุคลากรทางการแพทย์ที่ดูแลช่วยเหลือประชาชน โดยเริ่มบริการภายในสัปดาห์นี้ ในศูนย์ขนาดใหญ่ที่มีผู้อพยพมากกว่า 1,000 คน เพื่อป้องกันการระบาดของไข้หวัดใหญ่ เนื่องจากมีผู้อพยพอยู่รวมกันเป็นจำนวนมากในสถานที่จำกัด และส่วนใหญ่กว่าครึ่งเป็นผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ซึ่งเป็นกลุ่มที่ร่างกายมีความเปราะบาง เสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคติดต่อได้ง่าย และได้กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่สาธารณสุขให้การดูแลศูนย์พักพิง ทั้งด้านการรักษาพยาบาลร่างกายและจิตใจ สุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม การควบคุมป้องกันโรคอย่างต่อเนื่องด้วย
ด้านนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดสธ.กล่าวว่า โรคไข้หวัดใหญ่เป็นที่ติดต่อง่ายทางการหายใจและสัมผัสเสมหะ น้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีคนมาอยู่รวมกันจำนวนมาก อย่างเช่น ในศูนย์พักพิง อาจทำให้เกิดการระบาดได้ง่าย วิธีป้องกันที่ดีวิธีหนึ่งคือการฉีดวัคซีน โดยวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่จะฉีดให้กลุ่มเสี่ยงในศูนย์พักพิงครั้งนี้ เป็นวัคซีนชนิดรวม ป้องกันได้ 3 สายพันธุ์ คือ ชนิด 2009 ชนิดบี และชนิดเอ (เอช 3 เอ็น 2) โดยจะฉีดให้กลุ่มเสี่ยงคือบุคลากรทางการแพทย์และอาสาสมัครที่ต้องให้การดูแลรักษาผู้เจ็บป่วย ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 โรค ได้แก่ โรคปอด โรคหอบหืด โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคไตวายเรื้อรัง โรคมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัด และโรคเบาหวาน นอกจากนี้ ขอให้ผู้อพยพที่ป่วยเป็นไข้หวัดสวมหน้ากากอนามัย และล้างมือบ่อยๆ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไปสู่ผู้อื่น
ทั้งนี้ จากการเฝ้าระวังโรค 10 โรคในศูนย์พักพิง ได้แก่ อุจจาระร่วงเฉียบพลัน อาหารเป็นพิษ ถ่ายเป็นมูกเลือด เลปโตสไปโรซิส ไข้เลือดออก ปอดอักเสบเฉียบพลัน ตาแดงจากการติดเชื้อ ไข้หวัดหรือสงสัยไข้หวัดใหญ่ โรคมือ เท้า ปาก ไข้ออกผื่นสงสัยโรคติดต่อ เช่น หัด หัดเยอรมัน สุกใส และการป่วยเป็นกลุ่มก้อนด้วยโรคอื่นๆ ที่โรคแพร่ระบาดได้ง่าย โดยที่ผ่านมาพบ ผู้อพยพในศูนย์พักพิงป่วยเป็นโรคไข้หวัดหรือสงสัยไข้หวัดใหญ่ อุจจาระร่วงหรืออาหารเป็นพิษ ตาแดง และสงสัยโรคฉี่หนู บ้างประปราย ยังไม่พบการระบาดของโรคเป็นกลุ่มก้อน
สำหรับไข้หวัดใหญ่ ในปี 2554 ตั้งแต่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2554 สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค รายงานพบผู้ป่วยแล้ว 51,868ราย เสียชีวิต 5 ราย ซึ่งแนวโน้มลดลงกว่าในปี 2553 ซึ่งตลอดทั้งปี พบผู้ป่วย 115,183 ราย เสียชีวิต 126 ราย
