จากสถานการณ์น้ำท่วมในปัจจุบัน กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ซึ่งมีภารกิจในการดูแลด้านระบบบริการสุขภาพและระบบสุขภาพภาคประชาชน ได้จัดทีมผู้บริหารลงพื้นที่ออกหน่วยช่วยเหลือและมอบอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) เพื่อช่วยเหลือประชาชน และจัดทีมออกหน่วยสุขศึกษา เพื่อให้ความรู้ในการปฏิบัติตัวในภาวะน้ำท่วมอย่างถูกสุขลักษณะ ตลอดจนการป้องกันตรวจสอบ ซ่อมแซม และประเมินความเสียหายของอุปกรณ์การแพทย์ โครงการสร้างอาคาร ของสถานพยาบาลและบริการสุขภาพ
นพ.สมชัย ภิญโญพรพาณิชย์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวเตือนผู้ที่ประสบอุทกภัยในครั้งนี้ ว่า ให้ตรวจสอบระบบไฟฟ้าและโครงสร้างอาคารหลังน้ำลดว่า แม้ประชาชนส่วนใหญ่ได้มีการป้องกันระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าก่อนน้ำท่วมไว้แล้ว แต่ภายหลังจากน้ำลดจนสามารถกลับเข้าไปอาศัยได้แล้ว การตรวจสอบระบบไฟฟ้าและโครงสร้างอาคารอย่างถูกวิธี ก็ถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ในการป้องกันความเสียหายของชีวิตและทรัพย์สิน
ด้านการตรวจสอบระบบไฟฟ้า เมื่อกลับเข้าบ้านให้เปิดคัทเอ้าท์ เพื่อให้มีกระแสไฟฟ้าเข้า หากจุดใดจุดหนึ่งในระบบยังเปียกชื้นอยู่คัทเอ้าท์จะตัดไฟ ให้เปลี่ยนฟิวส์แล้วทิ้งไว้ประมาณ 1 วัน เพื่อให้ความชื้นระเหยออกไป ต่อมาให้ลองเปิดสวิตช์ไฟฟ้าทีละจุด ตรวจเช็กการทำงานของทุกจุด จากนั้นให้ลองดับไฟทุกจุดในบ้าน ปลดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าออกทั้งหมด แต่เปิดคัตเอาต์ทิ้งไว้ แล้วให้ตรวจเช็กมิเตอร์ไฟฟ้าว่าหมุนหรือไม่ หากไม่เคลื่อนไหวแสดงว่าไฟฟ้าในบ้านเป็นปกติ แต่หากมิเตอร์หมุนแสดงว่าอาจเกิดไฟฟ้ารั่วภายในบ้าน ให้รีบตามช่างไฟมาตรวจเช็ก และหากต้องการป้องกันระบบไฟฟ้าจากภาวะน้ำท่วมในอนาคต ให้ปรับตำแหน่งปลั๊กไฟทั้งหมดภายในบ้านไปอยู่ที่ระดับประมาณ 1.10 เมตรจากพื้นบ้าน หรือแยกวงจรไฟฟ้าออกเป็น 2-3 วงจร เพื่อความสะดวกต่อการควบคุมการเปิด-ปิดและซ่อมแซมบำรุงรักษาวงจรไฟฟ้าในบ้าน ส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ที่ถูกน้ำท่วม เช่น เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า อย่าเพิ่งเปิดใช้โดยเด็ดขาด เพราะอาจเสี่ยงต่อการเกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้ ควรนำช่างมาตรวจเช็กให้แน่ใจก่อน
ในส่วนของโครงสร้างอาคาร ที่จมน้ำอยู่เป็นเวลานาน เช่น ฝ้าเพดาน รั้วคอนกรีต ประตู-หน้าต่างที่ทำจากไม้ อาจก่อให้เกิดการบวม หรือเปื่อยยุ่ยได้ หากฝ้าเพดานเปื่อยยุ่ยให้เลาะออกและติดตั้งใหม่ เพื่อป้องกันฝ้าเพดานร่วงหล่นลงมา จนเกิดอันตรายต่อผู้อยู่อาศัยได้ ประตู-หน้าต่างไม้ที่เกิดการบวมและบิดตัว ควรปล่อยให้แห้งสนิทก่อน จึงค่อยทาสีใหม่ หากโครงสร้างเป็นเหล็กและเกิดสนิม ให้ใช้กระดาษทรายขัดสนิมออกให้หมดก่อน จึงทาสีใหม่พร้อมยากันสนิม จึงค่อยทาสีใหม่ ส่วนของรั้วบ้านคอนกรีต หากมีอาการเอียงให้นำไม้มาค้ำยัน หรือแจ้งช่างมาซ่อมแซมจะดีที่สุด
ทั้งนี้ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ โดยกองวิศวกรรมการแพทย์และกองแบบแผน ได้ดำเนินการประเมินความเสียหายของ รพ.และหน่วยงานสาธารณสุข ด้านอาคารสถานที่ เครื่องมือแพทย์ และระบบสนับสนุนบริการ เพื่อการฟื้นฟูสถานบริการ ไปแล้วจำนวน 40 แห่ง ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ลำปาง พิษณุโลก ตาก นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี ฉะเชิงเทรา และหน่วยงานสังกัดกรมการแพทย์ กรมอนามัย และกรมควบคุมโรค ซึ่งอยู่ในระหว่างประเมินมูลค่าความเสียหาย โดยคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน 2554 นี้
