ผู้ว่าฯ กทม.ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 2550 ออกคำสั่งให้ ผบช.น.ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจคุ้มกันเจ้าหน้าที่ กทม.ในการซ่อมแซมประตูระบายน้ำคลองสามวา ก่อนประตูจะพัง และส่งผลกระทบต่อ ถ.รามอินทรา และรามคำแหง พร้อมประกาศอพยพบางเขนทั้งเขต และเฉพาะหมู่บ้านเสนานิเวศน์ โครงการ 2 แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว ส่วนแขวงทรายกองดิน และแขวงทรายกองดินใต้ เขตคลองสามวา และเขตหนองจอกทั้งเขตเป็นพื้นที่เฝ้าระวัง
วันนี้ (1 พ.ย.) ที่ศาลาว่าการกทม. เวลา 19.40 น. : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงผลการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมสูงและขยายวงกว้างเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ ดังนั้น กทม.ได้ประกาศพื้นที่อพยพเพิ่มเติม ได้แก่ เขตบางเขนทั้งเขต และเฉพาะหมู่บ้านเสนานิเวศน์ โครงการ 2 แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว และเฉพาะแขวงสามวาตะวันออก เขตคลองสามวา ส่งผลให้ขณะนี้ กทม.มีพื้นที่ประกาศอพยพทั้งเขตแล้ว 7 เขต ประกอบด้วย ดอนเมือง บางพลัด สายไหม ทวีวัฒนา หลักสี่ ตลิ่งชัน และ บางเขน นอกจากนี้ กทม.ยังได้ออกประกาศเตือนพื้นที่เฝ้าระวังเพิ่มเติม ได้แก่ เฉพาะแขวงทรายกองดิน และแขวงทรายกองดินใต้ เขตคลองสามวา และเขตหนองจอกทั้งเขต
ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ กทม.กำลังก้าวสู่สภาวะวิกฤต และปัญหาสำคัญประการหนึ่ง คือ ปัญหาขยะ ซึ่ง กทม.ไม่สามารถให้บริการเก็บขยะได้ตามปกติ หากพื้นที่ใดน้ำท่วมสูง 70-80 ซม.ขึ้นไป รถเก็บขยะไม่สามารถเข้าไปได้ และจะต้องใช้เรือดำเนินการ แต่ก็มีข้อจำกัดในเรื่องปริมาณการจัดเก็บและจำนวนเรือ จากกรณีเขตบางพลัด ซึ่งมีปริมาณขยะถึง 33 ตัน ใช้เวลาจัดเก็บมากกว่า 3 วัน ทำให้การใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางปัญหาขยะส่งผลคุณภาพชีวิตของประชาชน แต่ กทม.จะพยายามเก็บขยะให้ดีที่สุดและมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่างไรก็ตาม กทม.ขอให้ประชาชนช่วยแยกขยะ โดยขยะแห้งเก็บไว้ทิ้งในวันข้างหน้า แต่ขยะเปียกและของเสียให้นำมาทิ้งให้เรียบร้อย ซึ่งจะทำให้ปริมาณขยะที่จัดเก็บลดลง
นอกจากนี้ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ได้เกิดความเสียหายต่อประตูระบายน้ำบริเวณคลองสามวา ซึ่ง กทม.ได้พยายามเข้าไปซ่อมแซม แต่ไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ได้ เนื่องจากมีประชาชนจำนวนหนึ่งขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตือนเจ้าหน้าที่ของ กทม.ถึงความอันตราย แต่ทั้งนี้ ประตูระบายน้ำเป็นทรัพย์สินของ กทม.และหากปล่อยให้ชำรุดต่อไป ประตูระบายน้ำอาจพังลงมาได้ และในที่สุดอาจทำให้ ถ.รามอินทรา และถ.รามคำแหง น้ำท่วมหนัก และส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวอีกด้วย
ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า กทม.จะใช้อำนาจตามกฎหมายตามความ ในมาตรดา 37 วรรคสอง ประกอบมาตรา 21 วรรคสอง(1) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 โดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้อำนวยการกรุงเทพมหานคร ให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ส่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปดำเนินการรักษาความสงบเรียบร้อย และป้องกันไม่ให้ประชาชนเข้าไปทำลายประตูระบาย น้ำคลองสามวา อุปกรณ์ส่วนควบสิ่งก่อสร้าง พื้นที่ดินและแนวกระสอบทราย พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่คุ้มครอง เจ้าหน้าที่ กทม.ในการเข้าไปซ่อมแซประตูระบายน้ำ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณ ถ.หทัยมิตร แขวงคลองสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา โดยด่วน
วันนี้ (1 พ.ย.) ที่ศาลาว่าการกทม. เวลา 19.40 น. : ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงผลการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมสูงและขยายวงกว้างเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ ดังนั้น กทม.ได้ประกาศพื้นที่อพยพเพิ่มเติม ได้แก่ เขตบางเขนทั้งเขต และเฉพาะหมู่บ้านเสนานิเวศน์ โครงการ 2 แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว และเฉพาะแขวงสามวาตะวันออก เขตคลองสามวา ส่งผลให้ขณะนี้ กทม.มีพื้นที่ประกาศอพยพทั้งเขตแล้ว 7 เขต ประกอบด้วย ดอนเมือง บางพลัด สายไหม ทวีวัฒนา หลักสี่ ตลิ่งชัน และ บางเขน นอกจากนี้ กทม.ยังได้ออกประกาศเตือนพื้นที่เฝ้าระวังเพิ่มเติม ได้แก่ เฉพาะแขวงทรายกองดิน และแขวงทรายกองดินใต้ เขตคลองสามวา และเขตหนองจอกทั้งเขต
ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ กทม.กำลังก้าวสู่สภาวะวิกฤต และปัญหาสำคัญประการหนึ่ง คือ ปัญหาขยะ ซึ่ง กทม.ไม่สามารถให้บริการเก็บขยะได้ตามปกติ หากพื้นที่ใดน้ำท่วมสูง 70-80 ซม.ขึ้นไป รถเก็บขยะไม่สามารถเข้าไปได้ และจะต้องใช้เรือดำเนินการ แต่ก็มีข้อจำกัดในเรื่องปริมาณการจัดเก็บและจำนวนเรือ จากกรณีเขตบางพลัด ซึ่งมีปริมาณขยะถึง 33 ตัน ใช้เวลาจัดเก็บมากกว่า 3 วัน ทำให้การใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางปัญหาขยะส่งผลคุณภาพชีวิตของประชาชน แต่ กทม.จะพยายามเก็บขยะให้ดีที่สุดและมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่างไรก็ตาม กทม.ขอให้ประชาชนช่วยแยกขยะ โดยขยะแห้งเก็บไว้ทิ้งในวันข้างหน้า แต่ขยะเปียกและของเสียให้นำมาทิ้งให้เรียบร้อย ซึ่งจะทำให้ปริมาณขยะที่จัดเก็บลดลง
นอกจากนี้ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ได้เกิดความเสียหายต่อประตูระบายน้ำบริเวณคลองสามวา ซึ่ง กทม.ได้พยายามเข้าไปซ่อมแซม แต่ไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ได้ เนื่องจากมีประชาชนจำนวนหนึ่งขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตือนเจ้าหน้าที่ของ กทม.ถึงความอันตราย แต่ทั้งนี้ ประตูระบายน้ำเป็นทรัพย์สินของ กทม.และหากปล่อยให้ชำรุดต่อไป ประตูระบายน้ำอาจพังลงมาได้ และในที่สุดอาจทำให้ ถ.รามอินทรา และถ.รามคำแหง น้ำท่วมหนัก และส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวอีกด้วย
ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า กทม.จะใช้อำนาจตามกฎหมายตามความ ในมาตรดา 37 วรรคสอง ประกอบมาตรา 21 วรรคสอง(1) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 โดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้อำนวยการกรุงเทพมหานคร ให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ส่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปดำเนินการรักษาความสงบเรียบร้อย และป้องกันไม่ให้ประชาชนเข้าไปทำลายประตูระบาย น้ำคลองสามวา อุปกรณ์ส่วนควบสิ่งก่อสร้าง พื้นที่ดินและแนวกระสอบทราย พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่คุ้มครอง เจ้าหน้าที่ กทม.ในการเข้าไปซ่อมแซประตูระบายน้ำ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณ ถ.หทัยมิตร แขวงคลองสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา โดยด่วน