“สุขุมพันธุ์” เตือนพื้นที่เสี่ยง กทม.6 เขต ให้เก็บของขึ้นที่สูง ย้ายผู้ป่วย เด็ก คนชราไปที่ศูนย์พักพิง ประกอบด้วย เขตดอนเมือง หลักสี่ บางเขน จตุจักร บางซื่อ สายไหม
เมื่อเวลา 23.30 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.แถลงสถานการณ์น้ำ โดยออกประกาศแจ้งเตือนประชาชน ฉบับที่ 4 แจ้งประชาชนในพื้นที่ตอนเหนือของ กทม.ที่จะได้รับผลกระทบจากน้ำเหนือบริเวณรังสิต ปทุมธานี ที่ไหลบ่าเข้า กทม. ขอให้ประชาชนเขตดอนเมือง หลักสี่ บางเขน จตุจักร บางซื่อ สายไหม ขนย้ายสิ่งของทรัพย์สินมีค่ารถยนต์ขึ้นที่สูง และย้ายไปยังศูนย์พักพิงของ กทม. โดยขอให้ย้ายผู้ป่วย เด็ก คนชรา เป็นลำดับแรก และขอให้ประชาชน หน่วยงานภาครัฐในเขต กทม.เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์จาก กทม.อย่างใกล้ชิด
ม.ร.ว.สุขุมพันธ์กล่าวว่า ตั้งแต่คืนนี้จะระดมสรรพกำลังทุกอย่าง ทั้งการแพทย์ และการให้คำปรึกษา เพื่อช่วยเหลือประชาชน สถานการณ์คืนนี้จะดำเนินไปสู่ขั้นวิกฤต ตามที่สัญญาว่า ถ้าวิกฤต ผมจะเป็นคนแรกที่จะแจ้งให้พี่น้องทราบ จากการประเมินสถานการณ์ จะมีปัญหาที่ค่อนข้างรุนแรงกับเขตดอนเมือง หลักสี่ บางเขน จตุจักร บางซื่อ จตุจักร และสายไหม ถ้ามีเขตอื่นจะเตือนทันที
กทม.ได้ประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ ให้สถานเอกอัครราชทูตในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียงแล้ว พร้อมมีข่าวสารแถลงการณ์เป็นภาษาอังกฤษ
โดยสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะวิกฤตพรุ่งนี้ (24 ต.ค.) น่าจะเห็นปัญหาชัดเจน สาเหตุปัญหาหนึ่งเกิดมาจากพื้นที่ ถนนวิภาวดี ตัดถนนพหลโยธิน ซึ่งอยู่ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี แต่ กทม.ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปป้องกัน เมื่อคืน กทม.พยายามเข้าไปกู้สถานการณ์ แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะมีพี่น้องประชาชนจำนวนมาก คัดค้านสิ่งที่เราจะทำ เมื่อการเข้าปฏิบัติงานมีแนวโน้มจะถูกใช้ความรุนแรง จึงสั่งให้เจ้าหน้าที่ กทม.ถอนออกมา ทำให้วันนี้น้ำถึงอนุสรณ์สถาน วันนี้น้ำถึงอนุสรณ์สถานและพรุ่งนี้คงจะเข้ากรุงเทพฯ ในหลายพื้นที่ ผมย้ำนะครับ ผมได้เตือนแล้วเป็นสิบครั้ง
ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ กทม.ไม่ได้สั่งให้อพยพภายใน 24 ชม. และอย่าได้ตื่นตระหนก แต่ให้เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตลอด 24 ชม. หากสถานการณ์เข้าขั้นวิกฤต ผู้ว่าฯ กทม.สัญญาว่าจะเป็นผู้แจ้งให้ประชาชนทราบด้วยตนเอง กทม.จะปฏิบัติงานอย่างสุดความสามารถและร่วมกับศปภ.แก้ปัญหาโดยประชาชนสามารถแจ้งขอความช่วยเหลือได้ที่สำนักงานเขต และศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจ กทม. โทร.1555 และ 0-2221-1212 และ http://www.bangkok.go.th
ก่อนหน้านี้ กทม.ได้ออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย กทม.ฉบับที่ 3 ระบุว่า เนื่องจากยังมีประชาชนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่อาศัยอยู่นอกคันกันน้ำเป็นจำนวนมาก ได้รับผลกระทบน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีระดับสูงขึ้น เนื่องจากมีน้ำเหนือไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องด้วยความเร็วและมีจำนวนมาก กทม.จึงขอให้ประชาชนขนย้ายสิ่งของ ทรัพย์สินมีค่า รถยนต์ และปลั๊กไฟ ขึ้นบนที่สูง หรือเคลื่อนย้ายไปยังศูนย์พักพิงที่ กทม.จัดไว้ โดยขอให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำจากข่าวสารของ กทม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนมั่นใจ กทม.จะทำหน้าที่ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างสุดความสามารถ
ล่าสุด เมื่อเวลา 00.50 น. พล.ต.อ.ประชา พรมนอก ผู้อำนวยการ ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ. ประกาศฉบับที่ 8 เรื่องการช่วยเหลือประชาชน ในกรุงเทพมหานครตามที่ กทม.ออกประกาศ ฉบับที่ 4 ให้ประชาชนใน เขตดอนเมือง หลักสี่ บางเขน จตุจักร บางซื่อ สายไหม ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง และให้ผู้อยู่อาศัยย้ายไปที่ศูนย์พักพิงของกทม. นั้น ทาง ศปภ. พร้อมให้ความช่วยเหลือ สนับสนุนการดำเนินการของ กทม.อย่างเต็มที่ เพื่อให้การแก้ไขสถานการณ์เป็นไปโดยเรียบร้อย และให้ กทม.ประสานงานกับทาง ศปภ.ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
เรื่อง แจ้งเตือนสถานการณ์อุทกภัยกรุงเทพมหานคร ฉบับที่ 4/2554
ตามที่กรุงเทพมหานครได้มีประกาศแจ้งเตือนสถานการณ์อุทกภัย ฉบับที่1/2254 ลงวันที่ 19 ตุลาคม 2554 ฉบับที่2/2554 ลงวันที่ 20 ตุลาคม 2554 และฉบับที่ 3/2554 ลงวันที่ 22 ตุลาคม 2554 ให้ประชาชนทราบเป็นลำดับแล้ว นั้น
เนื่องจากน้ำเหนือบริเวณรังสิตปทุมธานีได้ไหลบ่าเข้ากรุงเทพมหานคร ทำให้ปริมาณน้ำที่ท่วมพื้นที่ทางตอนเหนือของกรุงเทพมหานครมีระดับสูงขึ้นค่อนข้างรวดเร็ว ซึ่งกรุงเทพมหานครได้ประเมินสถานการณ์จากตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องโดยรอบด้านแล้ว พื้นที่ที่ได้รับและจะได้รับผลกระทบในเบื้องต้น ได้แก่ พื้นที่เขตดอนเมือง เขตหลักสี่ เขตบางเขน เขตจตุจักร เขตบางซื่อ และเขตสายไหม
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยพุทธศักราช 2550 จึงทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ขนย้ายสิ่งของ ทรัพย์สินมีค่า รถยนต์ขึ้นที่สูง และให้ผู้ที่อยู่อาศัยในพื้นที่ที่จะก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน เคลื่อนย้ายไปยังศูนย์พักพิงที่กรุงเทพมหานครจัดเตรียมไว้ โดยเฉพาะการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย เด็ก และคนชราเป็นลำดับแรก
ขอให้ประชาชนและหน่วยงานของรัฐในเขตกรุงเทพมหานครเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์จากกรุงเทพมหานครอย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด อย่าได้ตื่นตระนก ทั้งขอให้มั่นใจว่า กรุงเทพมหานครจะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างสุดความสามารถ และจะร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการการช่วยเหลือผู้ประสบภัย (ศปภ.) เพื่อแก้ไขสถานการณ์และช่วยเหลือประชาชน โดยในส่วนของกรุงเทพมหานครจะระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่ ได้แก่ หน่วยเคลื่อนที่เร็ว และหน่วยฉุกเฉินทางการแพทย์ เพื่อช่วยเหลือและให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง
ประชาชนสามารถแจ้งขอความช่วยเหลือได้ที่สำนักงานเขต และศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร หมายเลขโทรศัพท์ 1555 และ 0-2221-1212 หรือที่เว็บไซต์ www.bangkok.go.th
จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน