กระบี่ -กกต.กระบี่ แจ้งเตือน ผู้สมัคร ส.ส.เร่งยื่นบัญชีรายรับรายจ่าย ก่อนครบกำหนด 90 วัน 1 ต.ค.54 เพิกเฉย คุก 2 ปี ตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี
นายพัฒนพงศ์ อินทรวารี ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ตามที่มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป ในวันอาทิตย์ ที่ 3 กรกฎาคม 2554 ที่ผ่านมานั้น เนื่องจากพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มา ซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2550 แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 2)พ.ศ.2554 มาตรา 51 และมาตรา 52 ประกอบประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีการจัดทำบัญชีรายรับและรายจ่ายของสมุห์บัญชีเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2550 แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 2)พ.ศ.2554 ข้อ 22 และประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสอบรายการค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งของผู้สมัครและพรรคการเมือง พ.ศ.2550 และแก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 2)พ.ศ.2554 ข้อ 9 และ ข้อ 10 กำหนดให้ภายใน 90 วันหลังจากวันเลือกตั้ง
ผู้สมัครแต่ละคนต้องยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายที่สมุห์บัญชีจัดทำขึ้น โดยผู้สมัครได้รับรองความถูกต้องบัญชีรายรับและรายจ่ายต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด และหากผู้สมัครไม่ยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายภายในระยะเวลาที่กำหนด หรือยื่นหลักฐานไม่ถูกต้องครบถ้วนตามความเป็นจริง จะมีความผิดตามมาตรา 143 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2550 แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่2)พ.ศ.2554 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนด 5 ปี
ดังนั้น เพื่อให้การยื่นแสดงบัญชีรายรับและรายจ่ายของผู้สมัครรับเลือกตั้ง เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด จึงขอให้ยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกระบี่ ภายในวันที่ 1 ตุลาคม 2554 สำหรับผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งจังหวัดกระบี่ จากจำนวน 3 เขต มีจำนวนผู้สมัคร 16 คน จาก 6 พรรคการเมือง ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน พรรคประชาธิปัตย์ พรรครักษ์สันติ พรรคภูมิใจไทย และพรรคเครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย
นายพัฒนพงศ์ อินทรวารี ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ตามที่มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป ในวันอาทิตย์ ที่ 3 กรกฎาคม 2554 ที่ผ่านมานั้น เนื่องจากพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มา ซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2550 แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 2)พ.ศ.2554 มาตรา 51 และมาตรา 52 ประกอบประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีการจัดทำบัญชีรายรับและรายจ่ายของสมุห์บัญชีเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2550 แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 2)พ.ศ.2554 ข้อ 22 และประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสอบรายการค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งของผู้สมัครและพรรคการเมือง พ.ศ.2550 และแก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 2)พ.ศ.2554 ข้อ 9 และ ข้อ 10 กำหนดให้ภายใน 90 วันหลังจากวันเลือกตั้ง
ผู้สมัครแต่ละคนต้องยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายที่สมุห์บัญชีจัดทำขึ้น โดยผู้สมัครได้รับรองความถูกต้องบัญชีรายรับและรายจ่ายต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด และหากผู้สมัครไม่ยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายภายในระยะเวลาที่กำหนด หรือยื่นหลักฐานไม่ถูกต้องครบถ้วนตามความเป็นจริง จะมีความผิดตามมาตรา 143 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2550 แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่2)พ.ศ.2554 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนด 5 ปี
ดังนั้น เพื่อให้การยื่นแสดงบัญชีรายรับและรายจ่ายของผู้สมัครรับเลือกตั้ง เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด จึงขอให้ยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกระบี่ ภายในวันที่ 1 ตุลาคม 2554 สำหรับผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งจังหวัดกระบี่ จากจำนวน 3 เขต มีจำนวนผู้สมัคร 16 คน จาก 6 พรรคการเมือง ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน พรรคประชาธิปัตย์ พรรครักษ์สันติ พรรคภูมิใจไทย และพรรคเครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย