ผู้ว่าฯ กทม.กังวล4 จุด เครียดแก้ปัญหาถนนพหลโยธิน ตัดคลองรังสิต-คลองสอง และคลองหกวา-คลองมหาสวัสดิ์ ฝั่งกรุงเทพตะวันตก-ศูนย์พักพิง กทม.ล้น “พระนาย” รับปากส่งเจ้าหน้าที่จำนวน 1,000 นายมาเสริมคันกั้นน้ำ
เมื่อเวลาประมาณ 19.30น. ที่ห้องเจ้าพระยา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.แถลงภายหลังการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำ โดยมีข้อกังวลใน 4 ประเด็นดังต่อไปนี้ คือ 1.บริเวณถนนพหลโยธิน ตัดคลองรังสิต เนื่องจากมิได้มีหน่วยงานใดเข้าไป ดูแลติดตามสถานการณ์ โดยก่อนหน้านี้กทม.ได้เจ้าไปเสริมคันกั้นน้ำ ให้ด้วยความจำเป็น แต่ปรากฎว่ามีน้ำเอ่อเข้าท่วมถนนจนถึงหน้าเซียร์รังสิตแล้ว กทม.จึงได้ส่งทีมไปดูแลแต่ไม่สามารถป้องกันน้ำที่เอ่อได้เพราะกำลังคนและทรัพยากรส่วนใหญ่ระดมไปที่เขตสายไหม อย่างไรก็ตาม จะดูอีกทีว่าจะทำอย่างไรทั้งนี้ได้มีการประสานไปยังปลัดกระทรวงมหาดไทยเพื่อขอบุคลกรเข้าไปเสริม ซึ่งปลัด มท.รับปากว่าจะส่งเจ้าหน้าที่จำนวน 1,000 นาย มาเสริมคันกั้นน้ำในจุดนี้แต่จะมาถึงเมื่อไหร่ไม่ทราบเพราะอาจจะเดินทางมาจากต่างจังหวัด ซึ่งหากไม่ดำเนินการแก้ไขในส่วนนี้ก็จะมีผลกระทบต่อกทม.เพราะน้ำอาจจะทำให้น้ำในคลองเปรมประชากรเพิ่มสูงขึ้น
2.คลองสอง และคลองหกวา ขณะนี้น้ำยังทรงตัวตั้งแต่ช่วงบ่ายแต่ห่วงอัตราการเพิ่มของระดับน้ำ ที่ขณะนี้มีอัตราการเพิ่ม 12 เซนติเมตรต่อ 1 วัน ซึ่งเป็นอัตราที่เพิ่มสูงมาก ต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป ส่วนคันกั้นน้ำที่คลอง หกวา เราเสริมใกล้เสร็จแล้วเร็วที่สุดภายในวันนี้หากช้าที่สุดภายในพรุ่งนี้เช้า
**ห่วงน้ำตีกลับโอบ กทม.ฝั่งตะวันตก**
3.คลองมหาสวัสดิ์ ฝั่งกรุงเทพตะวันตก ดูเหมือนว่าระดับน้ำเพิ่มขึ้นเป็น 2 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งหากเพิ่มสูงถึง2.5 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง จะมีปัญหาทำให้น้ำตีกลับโอบกทม.ฝั่งตะวันตกได้ เราต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ขณะนี้ที่คลองประปะเราก็ยังเป็นห่วงอยู่ แต่ขณะนี้ระดับน้ำลดลง โดยทางกปน.ได้แจ้งให้ทราบว่าภายในวันพรุ่งนี้จะแก้ปัญหาได้โดยจะไม่เกิดปัญหาน้ำล้นคลองดังเช่นที่ผ่านมา
**ศูนย์พักพิง ร.ร.วัดเวฬุวรารามล้น**
4.สำหรับประชาชนชาวดอนเมืองเกือบ 1,500 คน ที่ต้องอพยพไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ในโรงเรียนสังกัด กทม.ทั้ง 6 แห่ง รวม 1,492 คน แต่ปัญหาได้เกิดขึ้นที่โรงเรียนวัดเวฬุวราราม ที่มีประชาชนอพยพไปอยู่ถึง 800 คน จากที่รับได้ 500 คน ซึ่งส่งผลให้ศูนย์พักพิงดังกล่าวคับแคบ โดยเหตุที่ประชาชนมาอาศัยอยู่ที่ศูนย์แห่งนี้มาก เพราะไม่อยากไปอยู่ไกลบ้าน ซึ่งเป็นปัญหาที่กทม.ต้องแก้ไขต่อไป ขณะที่เขตหลักสี่ได้มีประชาชนมาลงทะเบียน 1,000 คน แต่ดูเหมือนจะเป็นการสำรองสิทธิ์มากกว่า โดยมีผู้อพยพมาอาศัยจริงเพียง 3 คน ที่โรงเรียนการเคหะท่าทราย
**ชี้คนคลองเปรมประชากรยังไม่จำเป็นต้องอพยพ**
อย่างไรก็ตาม ตนเองคิดว่า ปัญหาที่คลองเปรมประชากรจะสามารถแก้ไขได้ภายในวันพรุ่งนี้ ทั้งนี้ระดับความสูงของนะดันน้ำที่คลองเปรมประชากรได้เพิ่มจาก 1 เมตร ระดับน้ำทะเลปานกลาง เมื่อช่วงเช้า เป็น 1.50 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ทั้งนี้จะยังไม่มีการประกาศให้ประชาชนที่อยู่ริมคลองเปรมอพยพกทม.ยังสามารถรับมือได้อยู่
**พ.ร.บ.ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยเพิ่มอำนาจกทม.**
ผู้สื่อข่าวถามว่า ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ได้ประกาศใช้ พ.ร.บ.ป้องกันบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 มาตรา 31 จะส่งผลต่อกทม.หรือไม่ ผู้ว่าฯกทม.กล่าวว่า ผมก็ทำงานต่อไป และมีอำนาจมากกว่าเดิม สามารถสั่งการหน่วยงานต่างๆ ได้ ซึ่งวันนี้ทางนายพระนาย สุวรรณรัฐ ปลัด มท.ซึ่งจะมาเป็นหน่วยล่วงหน้าของ ศปภ.ที่ศาลาว่าการ กทม.ซึ่งได้พูดคุยหารือกันเรียบร้อยแล้ว ซึ่งการประชุมของกทม.อย่างน้อยว่าละ 2 ครั้ง นายพระนายก็เข้าร่วมประชุมได้
** นายกฯสั่งผมทำอะไรก็ได้ครับ **
ส่วนที่มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ดังกล่าว เนื่องจากมีปัญหาการทำงานกับรัฐบาลหรือไม่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ต้องไปถามรัฐบาลผมตอบแทนไม่ได้ขอยืนยันว่า กทม.เปิดประตูระบายน้ำมาตลอดจากเหนือ ไปใต้ แต่ถามว่า เปิดเต็มที่หรือไม่นั้น ก็เปล่า เพราะความรับผิดชอบของผม คือ ความรับผิดชอบของผู้ว่าฯ กทม.ที่มีต่อประชาชนชาวกทม. ผมจึงต้องเก็บเครื่องมือนี้ไว้เพื่อแก้ไขปัญหาให้ชาว กทม.เพราะปีนี้มีฝนตกหนักมากจริงๆ เพราะผมทำหน้าที่ไปตามพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร ปี 2528 ฉะนั้น ความรับผิดชอบของผมคือความรับผิดชอบของางกทม.เป็นภารกิจที่ผมไม่สามารถปฏิเสธได้แม้แต่นิดเดียว
นายกฯ สามารถสั่งการผู้ว่าฯ กทม.ได้หรือไม่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ตอนนี้สั่งผมทำอะไรก็ได้ครับ
**สุขุมพันธุ์ “ผมถวายชีวิตให้คน กทม.แล้ว” **
รู้สึกอย่างไรที่ ศปภ.ประกาศใช้ พ.ร.บ.ดังกล่าว ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวต่อว่า จะทำอะไรก็ได้ครับขอให้ กทม.สามารถแก้ไขปัญหานี้ไปได้ จะทำอะไรก็ได้ครับที่ประชาชนไม่เดือนร้อน จะทำอะไรก็ได้ครับที่ทำให้คน กทม.อยู่เย็นเป็นสุข ผมถวายชีวิตให้คน กทม.แล้ว ซึ่งที่ผ่านมามีปัญหาคือการตีความไม่ตรงกันแต่ตอนนี้ตีความตรงกันแล้ว
เมื่อเวลาประมาณ 19.30น. ที่ห้องเจ้าพระยา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.แถลงภายหลังการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำ โดยมีข้อกังวลใน 4 ประเด็นดังต่อไปนี้ คือ 1.บริเวณถนนพหลโยธิน ตัดคลองรังสิต เนื่องจากมิได้มีหน่วยงานใดเข้าไป ดูแลติดตามสถานการณ์ โดยก่อนหน้านี้กทม.ได้เจ้าไปเสริมคันกั้นน้ำ ให้ด้วยความจำเป็น แต่ปรากฎว่ามีน้ำเอ่อเข้าท่วมถนนจนถึงหน้าเซียร์รังสิตแล้ว กทม.จึงได้ส่งทีมไปดูแลแต่ไม่สามารถป้องกันน้ำที่เอ่อได้เพราะกำลังคนและทรัพยากรส่วนใหญ่ระดมไปที่เขตสายไหม อย่างไรก็ตาม จะดูอีกทีว่าจะทำอย่างไรทั้งนี้ได้มีการประสานไปยังปลัดกระทรวงมหาดไทยเพื่อขอบุคลกรเข้าไปเสริม ซึ่งปลัด มท.รับปากว่าจะส่งเจ้าหน้าที่จำนวน 1,000 นาย มาเสริมคันกั้นน้ำในจุดนี้แต่จะมาถึงเมื่อไหร่ไม่ทราบเพราะอาจจะเดินทางมาจากต่างจังหวัด ซึ่งหากไม่ดำเนินการแก้ไขในส่วนนี้ก็จะมีผลกระทบต่อกทม.เพราะน้ำอาจจะทำให้น้ำในคลองเปรมประชากรเพิ่มสูงขึ้น
2.คลองสอง และคลองหกวา ขณะนี้น้ำยังทรงตัวตั้งแต่ช่วงบ่ายแต่ห่วงอัตราการเพิ่มของระดับน้ำ ที่ขณะนี้มีอัตราการเพิ่ม 12 เซนติเมตรต่อ 1 วัน ซึ่งเป็นอัตราที่เพิ่มสูงมาก ต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป ส่วนคันกั้นน้ำที่คลอง หกวา เราเสริมใกล้เสร็จแล้วเร็วที่สุดภายในวันนี้หากช้าที่สุดภายในพรุ่งนี้เช้า
**ห่วงน้ำตีกลับโอบ กทม.ฝั่งตะวันตก**
3.คลองมหาสวัสดิ์ ฝั่งกรุงเทพตะวันตก ดูเหมือนว่าระดับน้ำเพิ่มขึ้นเป็น 2 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งหากเพิ่มสูงถึง2.5 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง จะมีปัญหาทำให้น้ำตีกลับโอบกทม.ฝั่งตะวันตกได้ เราต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ขณะนี้ที่คลองประปะเราก็ยังเป็นห่วงอยู่ แต่ขณะนี้ระดับน้ำลดลง โดยทางกปน.ได้แจ้งให้ทราบว่าภายในวันพรุ่งนี้จะแก้ปัญหาได้โดยจะไม่เกิดปัญหาน้ำล้นคลองดังเช่นที่ผ่านมา
**ศูนย์พักพิง ร.ร.วัดเวฬุวรารามล้น**
4.สำหรับประชาชนชาวดอนเมืองเกือบ 1,500 คน ที่ต้องอพยพไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ในโรงเรียนสังกัด กทม.ทั้ง 6 แห่ง รวม 1,492 คน แต่ปัญหาได้เกิดขึ้นที่โรงเรียนวัดเวฬุวราราม ที่มีประชาชนอพยพไปอยู่ถึง 800 คน จากที่รับได้ 500 คน ซึ่งส่งผลให้ศูนย์พักพิงดังกล่าวคับแคบ โดยเหตุที่ประชาชนมาอาศัยอยู่ที่ศูนย์แห่งนี้มาก เพราะไม่อยากไปอยู่ไกลบ้าน ซึ่งเป็นปัญหาที่กทม.ต้องแก้ไขต่อไป ขณะที่เขตหลักสี่ได้มีประชาชนมาลงทะเบียน 1,000 คน แต่ดูเหมือนจะเป็นการสำรองสิทธิ์มากกว่า โดยมีผู้อพยพมาอาศัยจริงเพียง 3 คน ที่โรงเรียนการเคหะท่าทราย
**ชี้คนคลองเปรมประชากรยังไม่จำเป็นต้องอพยพ**
อย่างไรก็ตาม ตนเองคิดว่า ปัญหาที่คลองเปรมประชากรจะสามารถแก้ไขได้ภายในวันพรุ่งนี้ ทั้งนี้ระดับความสูงของนะดันน้ำที่คลองเปรมประชากรได้เพิ่มจาก 1 เมตร ระดับน้ำทะเลปานกลาง เมื่อช่วงเช้า เป็น 1.50 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ทั้งนี้จะยังไม่มีการประกาศให้ประชาชนที่อยู่ริมคลองเปรมอพยพกทม.ยังสามารถรับมือได้อยู่
**พ.ร.บ.ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยเพิ่มอำนาจกทม.**
ผู้สื่อข่าวถามว่า ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ได้ประกาศใช้ พ.ร.บ.ป้องกันบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 มาตรา 31 จะส่งผลต่อกทม.หรือไม่ ผู้ว่าฯกทม.กล่าวว่า ผมก็ทำงานต่อไป และมีอำนาจมากกว่าเดิม สามารถสั่งการหน่วยงานต่างๆ ได้ ซึ่งวันนี้ทางนายพระนาย สุวรรณรัฐ ปลัด มท.ซึ่งจะมาเป็นหน่วยล่วงหน้าของ ศปภ.ที่ศาลาว่าการ กทม.ซึ่งได้พูดคุยหารือกันเรียบร้อยแล้ว ซึ่งการประชุมของกทม.อย่างน้อยว่าละ 2 ครั้ง นายพระนายก็เข้าร่วมประชุมได้
** นายกฯสั่งผมทำอะไรก็ได้ครับ **
ส่วนที่มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ดังกล่าว เนื่องจากมีปัญหาการทำงานกับรัฐบาลหรือไม่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ต้องไปถามรัฐบาลผมตอบแทนไม่ได้ขอยืนยันว่า กทม.เปิดประตูระบายน้ำมาตลอดจากเหนือ ไปใต้ แต่ถามว่า เปิดเต็มที่หรือไม่นั้น ก็เปล่า เพราะความรับผิดชอบของผม คือ ความรับผิดชอบของผู้ว่าฯ กทม.ที่มีต่อประชาชนชาวกทม. ผมจึงต้องเก็บเครื่องมือนี้ไว้เพื่อแก้ไขปัญหาให้ชาว กทม.เพราะปีนี้มีฝนตกหนักมากจริงๆ เพราะผมทำหน้าที่ไปตามพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร ปี 2528 ฉะนั้น ความรับผิดชอบของผมคือความรับผิดชอบของางกทม.เป็นภารกิจที่ผมไม่สามารถปฏิเสธได้แม้แต่นิดเดียว
นายกฯ สามารถสั่งการผู้ว่าฯ กทม.ได้หรือไม่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ตอนนี้สั่งผมทำอะไรก็ได้ครับ
**สุขุมพันธุ์ “ผมถวายชีวิตให้คน กทม.แล้ว” **
รู้สึกอย่างไรที่ ศปภ.ประกาศใช้ พ.ร.บ.ดังกล่าว ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวต่อว่า จะทำอะไรก็ได้ครับขอให้ กทม.สามารถแก้ไขปัญหานี้ไปได้ จะทำอะไรก็ได้ครับที่ประชาชนไม่เดือนร้อน จะทำอะไรก็ได้ครับที่ทำให้คน กทม.อยู่เย็นเป็นสุข ผมถวายชีวิตให้คน กทม.แล้ว ซึ่งที่ผ่านมามีปัญหาคือการตีความไม่ตรงกันแต่ตอนนี้ตีความตรงกันแล้ว
