“สุขุมพันธุ์” ชี้ สัญญาณเตือนน้ำเหนือเริ่มเข้าระบบคลองแล้ว ขณะที่คลองรังสิตระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น 15 ซม.ศปภ.ไม่เหลียวแล กทม.ลุยหาคน ทราย อุดช่องโหว่ป้องกันน้ำเข้าถนนถนนวิภาวดีรังสิต ทะลักดอนเมือง ขณะที่ยอดคนไปศูนย์อพยพ ร.ร.วัดเวฬุวรรณ-ร.ร.วัดดอนเมือง เพิ่มสองเท่าตัวทะลุ 1,360 คน วอนเลิกปล่อยข่าวลือ รัก กทม.รักประเทศไทย เร่งร่วมมือช่วยกัน
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ให้สัมภาษณ์
เมื่อเวลา 16.15 น.ที่ ร.ร.ฤทธิยะวรรณาลัย 2 สายไหม ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร แถลงสถานการณ์น้ำ ล่าสุดว่า ขณะนี้มีสัญญาณเตือนมาแล้วมีหลายสิ่งที่บ่งชี้ว่า น้ำทุ่งเริ่มมาถึง โดยที่ประตูระบายน้ำที่คลอง 2 ขณะนี้ เปิดการระบายน้ำ 1.20 ม.ขณะที่ระดับที่รอบนอกประตูระบายน้ำอยู่ที่ 2.09 ม.และเวลานี้ถึงแม้ว่าเราจะเปิดประตูระบายน้ำที่คลอง 2 จาก 1.20 ม.เป็น 1.30 ม.ระดับน้ำก็ไม่ได้ลดลง โดยระดับน้ำนอกประตูระบายน้ำกลับเพิ่มเป็น 2.23 ม.จาก 2.09 ม.ขึ้นมาอีก 4 ซม. คาดว่า เป็นสัญญาณเตือนว่า น้ำเหนือเริ่มมาสู่ระบบคลองแล้ว
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ขณะที่คลองรังสิต ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น 15 ซม.ทำให้คันกั้นน้ำที่ กทม.สร้างไว้ไม่สามารถรับได้น้ำจึงเริ่มเข้ามาเต็มท้องถนนแล้ว ดังนั้น แม้เราจะประสาน ศปภ.แต่ก็ไม่มีปฏิบัติการใดๆ ในพื้นที่ตรงจุดนี้ จาก ศปภ.ดังนั้น กทม.จะระดมคน ทราย กระสอบบรรจุทราย เพื่อเสริมคันกั้นน้ำบริเวณดังกล่าว อย่างไรก็ตาม จะประสาน ศปภ.เพื่อขอให้มาดูแลเพราะหากน้ำตรงจุดนี้หลุดไปก็จะผ่านถนนวิภาวดีรังสิต เข้าอนุสรณ์สถานและเข้าดอนเมือง ถ้าเป็นเช่นนั้นจะเป็นปัญหาอย่างหนัก เพราะเวลานี้มีน้ำทะลักเข้าสู่คลองประปา ทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่แบริเออร์บางส่วนของคลองประปาก็ยังไม่ได้รับการดูแลซ่อมแซมจากรัฐบาลซึ่งทำให้ประชาชนในพื้นที่ดอนเมืองเดือนร้อนเป็นจำนวนมาก
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ล่าสุด มีจำนวนประชาชนได้อพยพไปอยู่ที่ ร.ร.วัดเวฬุวรรณ แล้ว 800 คน ร.ร.วัดดอนเมือง 560 คน รวมทั้งสิ้น 1,360 คน ซึ่งตัวเลขผู้อพยพจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งตัวเลขจากเมื่อวาน 320 คน แต่วันนี้ยอดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าตัว โดย กทม.ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่โดยเข้าไปดูแลและบรรเทาภัยให้ประชาชนเบื้องต้นแต่ต้นเหตุของปัญหาจะต้องได้รับการแก้ไข คือ การที่น้ำในต่างจังหวัดเข้าในคลองประปา ในพื้นที่ต่างจังหวัดละมาในพื้นที่ กทม.และยังไม่มีการระงับน้ำไม่ให้เข้ามาในคลองประปา หรือลดปริมาณน้ำที่จะเข้ามาคลองประปา เราได้ประสาน ศปภ.แล้ว ทั้งนี้ ในสิ่งที่ กทม.รับผิดชอบ กทม.ได้ทำเต็มที่โดยไม่ได้เลี่ยงความรับผิดชอบ
“ผมยืดออกรับหลายเรื่องทั้งที่ไม่ต้องรับ ถ้าเราสามารถเข้าไปแก้ไขปัญหาคลองประปาได้ เราก็จะเข้าไปแก้ไขทันที แต่ต้นเหตุอยู่ไกล กทม.โดยอยู่ต่างจังหวัด และระบบคลองประปา กทม.ก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ดังนั้น ขอความกรุณาให้ร่วมมือกันแก้ไขปัญหาในจุดนี้ และขอความร่วมมือจากประชาชนอย่าปล่อยข่าวลือที่ไม่เป็นความจริงแม้แต่นิดเดียว เช่น กทม.เปิดประตูระบายน้ำให้เข้าคลองประปา ทั้งๆ ที่เราเป็นฝ่ายช่วยระบายน้ำออก ผมคิดว่า ถ้าคนที่รัก กทม.รักประเทศไทยจริงๆ โปรดอย่าปล่อยข่าวที่ทำให้เกิดความเสียหาย ชั่วโมงนี้ไม่ใช่ชั่วโมงที่จะทำร้ายกัน แต่ต้องช่วยกันและกัน” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ว่า ฯกทม.และคณะผู้บริหารนั่งมอเตอร์ไซค์ สำรวจแนวคั้นกั้นน้ำคลอง หกวา ระยะทาง 6 กม.พร้อมให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงาน นอกจากนี้ แม่ทัพภาค 1 ยังได้เข้ามาติดตามให้กำลังใจลูกน้อง
เมื่อเวลา 11.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เดินทางมาตรวจเยี่ยมการระบายน้ำที่ ประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนา ซึ่งรับน้ำมาจากคลองมหาสวัสดิ์ จาก อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี และบางส่วนจาก จ.ปทุมธานี ในส่วนของคลองมหาสวัสดิ์จะระบายน้ำแยกไปแม่น้ำท่าจีน และลงสู่ทะเลต่อไป นอกจากนั้นน้ำก็จะแบ่งไปลงที่คลองบางกอกน้อยก่อนที่จะไหลลงแม่น้ำเจ้าพระยาและลงสู่ทะเล ส่วนที่ประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนาวันนี้เปิดประตูสูง1.20 ม. เพื่อช่วยระบายน้ำจากอ.บางบัวทอง และระบายน้ำได้ประมาณ 3-4 ล้าน ลบ.ม./วัน ส่วนระดับน้ำระหว่างด้านหน้าและหลังประตูห่างกันอยู่ประมาณ1เมตร รวมทั้งจะไม่เปิดประตูระบายน้ำเพิ่มมากกว่านี้ เพราะจะทำให้น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมในชุมชนด้านท้ายประตูซึ่งน้ำที่ผ่านจากที่ประตูระบายน้ำทวีวัฒนาแล้วจะไหลลงไปสู่คลองภาษีเจริญ และคลองย่อย ก่อนระบายลงสู่อ่าวไทยต่อไป
จากนั้นเวลา 15.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้ลงพื้นที่โรงเรียนฤทธิยะวรรณลัย 2 เพื่อตรวจแนวคันกั้นน้ำริมคลองหกวา เขตสายไหม และซอยสายไหม 85 โดยการขึ้นมอเตอร์ไซค์ เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่เขตต่างๆ และดูความแข็งแรงของแนวกระสอบทรายระยะทางยาว 6 กิโลเมตร ซึ่งพบว่าระดับน้ำทั้งสองคลองเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ประชาชนที่อาศัยอยู่นอกแนวคันกั้นน้ำบางส่วนได้อพยพมายังศูนย์อพยพผู้ประสบอุทกภัยที่กทม.เตรียมเอาไว้ในพื้นที่สายไหม นอกจากนี้ กทม.ยังคงระดมบุคคลากรเพื่อช่วยเสริมคันกั้นน้ำริมคลองทั้งสองฝั่งคลองระยะทาง 6 กิโลเมตรให้แล้วเสร็จในวันนี้ ส่วนสาเหตุที่เสร็จล่าช้าจากกำหนดเดิม เนื่องจากมีปัญหาการจราจรติดขัดเมื่อคืนที่ผ่านมา
จากนั้นเวลา 16.00 น. พล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 พร้อมคณะเดินทางมาประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์ที่และตรวจแนวคันกั้นน้ำริมคลองหกว่า ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เสร็จสิ้นการตรวจพื้นที่ โดยพล.ท.อุดมเดชได้หารือกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ว่า มีการคาดการณ์ว่ามวลน้ำจากทางเหนือจะเข้าพื้นที่กทม.ในวันนี้ พร้อมกล่าวว่า เชื่อว่าจะเสริมแนวคันกั้นน้ำได้ทันเวลา ซึ่งจะช่วยลดความรุนแรงในพื้นที่กทม.ได้ โดยได้สั่งการให้มีการจัดกำลังทหารคอยประจำการเพื่อเฝ้าระวังพื้นที่ในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินขึ้น โดยทางกองทัพจะช่วยเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากจะมีการอพยพกองทัพก็เตรียมยานพาหนะรองรับไว้พร้อม