ที่ปรึกษา กก.แพทยสภา เตรียมแก้ร่างข้อบังคับอนุญาตเด็ก 13 ปีตรวจเอดส์ หวังลดจำนวนผู้ป่วยเอดส์หน้าใหม่
ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา ที่ปรึกษากรรมการแพทยสภา กล่าวว่า แนวทางการลดจำนวนผู้ป่วยเอดส์รายใหม่ สิ่งสำคัญต้องรณรงค์ให้มีการตรวจการติดเชื้อเอชไอวีตั้งแต่แรกเริ่ม เพราะปัจจุบันประชาชนมีเพศสัมพันธ์ในอายุที่น้อยลงกว่าเดิมมาก โดยประเทศไทยนั้นพบได้ในเด็กอายุเฉลี่ย 13-14 ปี ซึ่งหากไม่มีความรู้เรื่องดังกล่าวย่อมเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี ที่ผ่านมาคณะอนุกรรมการพิจารณาร่างแนวทางปฏิบัติแพทย์เกี่ยวกับเรื่องเอดส์ ที่มีตนเป็นประธาน จึงได้ร่างข้อบังคับแพทยสภาว่าด้วยการตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวีในบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี พ.ศ. 2552 โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 21(3) (ช) และด้วยความเห็นชอบของสภานายกพิเศษตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 ที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล เพื่อให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี สามารถตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวีได้โดยไม่ต้องขออนุญาตผู้ปกครอง
ศ.นพ.สมศักดิ์กล่าวว่า ในช่วงที่แพทยสภาได้มีการร่างข้อบังคับดังกล่าวนั้น ได้ทำประชาพิจารณ์กับทั้งประชาชนทั่วไป เช่น ครู ผู้ปกครอง แพทย์ ฯลฯ อย่างรอบด้าน แต่ยังมีคำวิพากษ์วิจารณ์จากนักกฎหมายและวิชาชีพอื่นบางส่วนที่เห็นว่า การตรวจหาเชื้อเอชไอวีในบุคคลดังกล่าว โดยปราศจากการยินยอมของพ่อแม่ แพทย์ผู้ตรวจอาจเสี่ยงต่อการถูกฟ้องได้ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีการแก้ไขร่างดังกล่าวให้สมบูรณ์ก่อน โดยต้องกำหนดอายุที่ชัดเจน ซึ่งการกำหนดอายุนั้นแทนที่จะเป็นอนุญาตให้ตรวจได้ในบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ให้เปลี่ยนเป็นอนุญาตให้ตรวจในบุคคลอายุตั้งแต่ 13 ปี แทน แต่เรื่องนี้ยังไม่ชัดเจน ซึ่งจะมีการเรียกประชุมหารือเรื่องนี้อีกครั้งภายใน 1-2 เดือนก่อนเสนอคณะกรรมการแพทยสภา ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปี 2554 แน่นอน