xs
xsm
sm
md
lg

ตั้งสติรับมือ “ความเครียด” สู้ภัยน้ำท่วม/คอลัมน์ “ช่วยกันคิด”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทยกำลังประสบปัญหาอุทกภัยอย่างหนัก หลายแห่งน้ำท่วมสูงเกินกว่า 2 เมตร ทำให้ไม่มีที่อยู่อาศัย บางครอบครัวก็จำเป็นต้องอพยพไปอยู่สถานที่อื่นชั่วคราว บางครอบครัวที่เป็นห่วงทรัพย์สินไม่ยอมหนีน้ำก็ขนของขึ้นไปอยู่บนชั้น 2 แทน นาข้าวไร่สวนของเกษตรกรกว่าล้านไร่พังเสียหายยับเยินบางครอบครัวสูญเสียญาติพี่น้องอันเป็นที่รักไป ทำให้เกิดภาวะเครียด วิตกกังวล นอนไม่หลับ บางรายถึงขั้นซึมเศร้า ท้อแท้ และมีความคิดอยากฆ่าตัวตาย เพราะไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไรกับสิ่งที่เกิดขึ้น

นพ.ไกรสิทธิ์ นฤขัตพิชัย กรรมการผู้จัดการ โรงพยาบาลมนารมย์ แนะนำวิธีการรับมือกับความเครียด ว่า คนเราแต่ละคนจะมีความสามารถในการรับมือกับความเครียดได้ไม่เท่ากัน ทั้งนี้ขึ้นกับต้นทุนพื้นฐานด้านจิตใจของแต่ละคนว่าแข็งแรงแค่ไหน ถ้ามีพื้นฐานดี จิตใจแข็งแรง ก็สามารถจะรับมือกับความเครียดได้มากกว่าคนที่จิตใจไม่แข็งแรง

สำหรับความเครียดสามารถแสดงอาการออกมาได้หลายรูปแบบ เบื้องต้นมักแสดงออกมาในรูปแบบของความไม่สบายทางกาย เช่น นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร หายใจไม่อิ่ม ใจสั่น หายใจไม่ออก ปวดหัว คลื่นไส้อาเจียน ท้องเดิน  บางรายถ้าอาการรุนแรงจนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เกิดอาการกลัว วิตกกังวัลอย่างรุนแรง มีอาการตื่นตระหนก หรือที่เราเรียกว่าอาการแพนิค คือ ตื่นตระหนกต่อเหตุการณ์ มีอาการหายใจเร็วกว่าปกติ ใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว เกร็งตามมือและเท้า กลัวว่าตัวเองกำลังจะตาย
สำหรับวิธีตั้งสติเพื่อรับมือกับวิกฤติหรือปัญหาที่เกิดขึ้น มีหลักการปฏิบัติง่ายๆ  ดังนี้

1.    ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น ให้ทำความเข้าใจและยอมรับว่าตอนนี้เรื่องของภัยพิบัติไม่ได้เกิดกับเราคนเดียวซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นทั่วโลก ไม่ใช่ว่าเราเป็นผู้เคราะห์ร้ายอยู่คนเดียว มีเพื่อนร่วมชะตากรรมอีกเยอะมาก แล้วก็คิดว่าปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นนี้ ถึงที่สุดก็จะต้องผ่านไปได้ ต้องเชื่อมั่นว่า มีทางออกแต่อาจจะต้องใช้เวลาบ้าง คือ ท้อแท้ได้แต่อย่านานและต้องลุกขึ้นเดินต่อ อาจจะต้องลำบากอยู่ช่วงหนึ่งแต่ก็จะผ่านไปได้ มันจะมีวันที่ฟ้าสว่าง หลังจากสงบจิตสงบใจ ตั้งสติได้แล้ว ก็คงเป็นเรื่องของการปฏิบัติในขั้นต่อไป

2.    จัดลำดับความสำคัญของปัญหา พยายามนั่งพักให้จิตใจนิ่งแล้วรวบรวมสติมองปัญหาว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แล้วจัดลำดับความสำคัญของปัญหา เรื่องไหนเป็นเรื่องด่วนเรื่องไหนไม่ด่วน มันมีทั้งเรื่องที่ว่าสำคัญน้อยแต่ด่วน เช่น การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เรื่องการอยู่ การกิน การนอน เรื่องห้องน้ำ การขับถ่าย วันนี้จะเอาข้าวที่ไหนกิน เอาเสื้อผ้าที่ไหนสวมใส่ ระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นอีกไหม จะเตรียมตัวขนย้าย หรืออพยพคนในครอบครัวอย่างไร แต่ปัญหาที่สำคัญต้องแก้ไขในระยะยาว เช่น จะป้องกันปัญหาน้ำท่วมอย่างไร ซึ่งก็เป็นเรื่องใหญ่แต่ไม่ด่วน การช่วยเหลือจากรัฐบาลหลังน้ำลด การเตือนภัย แล้วก็อาจจะเป็นเรื่องของการวางผังเมือง หรือเรื่องมาตรการการรักษาป่า รักษาธรรมชาติต่างๆ ซึ่งถือเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไข แต่ยังไม่ด่วนเท่าชีวิตความเป็นอยู่ในช่วงที่ประสบกับปัญหา การจัดลำดับความสำคัญจะช่วยลดความวิตกกังวลไปได้ เรื่องไม่ด่วนวางไว้ก่อน มุ่งสนใจแต่เฉพาะเรื่องด่วนก่อน  อะไรด่วนมากที่สุด ก็ค่อยๆ แก้ไปทีละข้อ เพราะการที่เราแก้ปัญหาได้สำเร็จไปทีละอย่างทีละข้อจะช่วยทำให้เกิดความมั่นใจ กำลังใจก็จะค่อยๆ เกิดขึ้นจนกลายเป็นความเชื่อมั่นว่าจะสามารถผ่านวิกฤตนี้ไปได้   

3.    พยายามใช้ชีวิตเรียบง่าย คนที่ประสบกับปัญหาจะต้องปรับวิธีคิด และปล่อยวางเรื่องทรัพย์สินสิ่งของนอกกาย อนาคตยังมีโอกาสหาใหม่ได้ พยายามใช้ชีวิตเรียบง่าย เพื่อลดการที่จะทำให้รู้สึกเครียดลง บางคนเครียด เพราะเป็นห่วงเรื่องทรัพย์สิน จนไม่ยอมอพยพขึ้นไปอยู่พื้นที่สูงเหนือน้ำ ตรงนี้ควรจะมีการชั่งน้ำหนักว่าเรื่องของทรัพย์สินของมีค่าก็มีความจำเป็นในระดับหนึ่ง แต่เรื่องของชีวิตสุขภาพเป็นสิ่งที่สำคัญกว่า ทางออกของปัญหาอีกอย่างหนึ่ง หากไม่ยอมย้ายก็อาจทำได้โดยจะมีการรวมกลุ่มกันกับเพื่อนบ้าน มีการช่วยแบ่งเบาภาระกัน เช่น เพื่อนบ้านแบ่งเวลาสลับเวรยามกัน แทนที่ทุกคนจะต้องเฝ้าบ้านของตัวเอง ไม่มีเวลาพัก ก็อาจจะช่วยดูแลกันไปเป็นกลุ่มๆ อย่างน้อยเรื่องของทรัพย์สิน และความปลอดภัยในชีวิตของคนก็ได้รับการดูแล     แต่ละคนก็จะไม่เหนื่อยจนเกินไป สุขภาพไม่ทรุดโทรมจนเกินไป

4.    เอาใจใส่ ดูแลกันและกัน โดยคนที่แข็งแรงต้องช่วยคนที่อ่อนแอ ถ้าในบ้านนั้นยังมีคนที่เป็นหลักได้ ยังยืนอยู่ได้ ก็คงต้องคอยให้กำลังใจกับคนที่รู้สึกหมดแรง ท้อแท้ ให้คนที่รู้สึกเครียดมากได้ระบายความรู้สึก แล้วก็ให้กำลังใจเขา รับฟัง เพราะเพียงแค่การที่มีคนมารับฟัง มาเข้าใจว่าฉันรู้สึกอย่างไร อึดอัดใจอย่างไร ทุกข์ใจอย่างไร ก็สามารถช่วยทำให้ผู้ที่ประสบปัญหาหรือมีความเครียดรู้สึกดีขึ้นได้แล้วในระดับหนึ่ง     

วิกฤติที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ถือว่าเป็นสิ่งที่รุนแรงมากในประวัติศาสตร์ของประเทศ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะผ่านไปได้สำเร็จ ต้องใช้เวลายอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วก็ตั้งหลัก ตั้งสติให้ได้ มีกำลังใจเดินต่อ สิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องรักษาไว้จะสูญเสียไม่ได้เลย คือ ความเชื่อมั่นและความหวัง ขอเป็นเป็นกำลังใจ เอาใจช่วยให้คนไทย เพื่อนร่วมชาติทั้งหลาย ผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้สำเร็จ
กำลังโหลดความคิดเห็น