โดย...เกศกาญจน์ บุญเพ็ญ
ปฏิเสธไม่ได้ว่าฝีมือการจัดโผโยกย้ายผู้บริหารระดับสูง ซี 11 และ 10 กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฤดูกาลนี้ ของ “นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้สร้างปรากฏการณ์แห่งความสับสน วุ่นวาย และปั่นป่วน ที่สุดให้แก่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เพราะนอกจากโผรายชื่อที่เสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ปรับเปลี่ยนทุกสัปดาห์ อีกทั้งล่าสุดยังเกิดปรากฎการณ์ทำหนังสือขอถอนรายชื่อที่ ครม.มีมติแต่งตั้งออกจาก ครม.ด้วย
ความวุ่นวายก่อตัวตั้งแต่ที่ นายวรวัจน์ ยอมรับว่า มีการประสานไปยังกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เพื่อขอโอน นายอภินันท์ โปษยานนท์ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ที่สนิทสนมกันเมื่อครั้ง นั่งเก้าอี้ รมว.วัฒนธรรม ให้ข้ามห้วยมานั่งตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองเลขาธิการ กพฐ.) ระดับ 10 แทน นายสมเกียรติ ชอบผล รองเลขาธิการ กพฐ.ซึ่งได้รับโอนเป็นข้าราชการพลเรือนในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เพื่อดำรงตำแหน่ง ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านวิชาการศึกษา ว่ากันว่า เป็นการโอนย้ายมาพักชั่วคราวเพื่อรอเวลาขึ้นระดับ 11 แทน นายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เลขาธิการ กกอ.) เกษียณอายุราชการ
ทั้งนี้ นายวรวัจน์ ยืนยันว่า การประชุม ครม.วันที่ 20 ก.ย.จะเสนอขออนุมัติโอนย้าย นายอภินันท์ แต่ปรากฏว่า มติ ครม.ในวันดังกล่าวไม่ปรากฏชื่อของ นายอภินันท์ นำเสนอเข้าสู่การพิจารณา และ ครม.มีมติแต่งตั้งโยกย้ายระดับ 10 จำนวน 4 ราย ได้แก่ นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ นายอนันต์ ระงับทุกข์ ผู้ตรวจราชการ ศธ.มาเป็นรองเลขาธิการ กพฐ.สลับ นายเสน่ห์ ขาวโต และ นายกมล รอดคล้าย รองเลขาธิการ กพฐ.มาเป็นผู้ตรวจราชการ ศธ.แว่วว่า เหตุที่ชื่อของ นายอภินันท์ ไม่ได้ถูกเสนอนั้น เพราะนายกรัฐมนตรี ตำหนิว่า การโอนย้ายคนในเวลานี้นั้นไม่เหมาะสม ขณะที่บางข่าวก็ระบุว่า นายอภินันท์ ขอถอนตัว เพราะไม่พอใจที่อาจจะได้อยู่ในตำแหน่งรองเลขาธิการ กพฐ.แต่ที่แน่ๆ งานนี้ รมว.ศึกษาธิการ ไม่มีเหตุผลอะไรมาอธิบายมีเพียงแต่บอกว่าเรื่องการโอนนายอภินันท์ จะยุติเป็นการถาวร
อย่างไรก็ตาม โผรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายของ ศธ.ครั้งที่ 2 ที่เสนอเป็นล็อตใหญ่ 11 ราย ควรสิ้นสุดลงพร้อมมติ ครม.ที่ได้ให้ความเห็นชอบในวันที่ 27 ก.ย.แต่ถัดมาไม่กี่วันเรื่องกลับตาลปัตร..เพราะ นายวรวัจน์ ได้ตัดสินใจทำหนังสือ ศธ.ที่ สป.771/2554 ยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งข้าราชการรักษาราชการแทน และข้าราชการรักษาการ ในระดับซี 10-11 จำนวน 11 ราย ต่อ ครม.โดยคงไว้เพียงมติ ครม.เมื่อวันที่ 20 ก.ย.
การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะวันที่ 29 ก.ย. นายประเสริฐ บุญเรือง เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (เลขาธิการ กศน.) ซึ่งเป็นม้ามืดได้รับแต่งตั้งจาก ครม.(27 ก.ย.) นั่งเก้าอี้เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.) ถือว่าเติบโตขึ้นจากระดับ 10 สู่ระดับ 11 ถือหนังสือแสดงความประสงค์ไม่ขอรับตำแหน่ง เลขาธิการ กอศ.เข้ายื่นต่อนายวรวัจน์ ด้วยตนเองโดยให้เหตุผลว่า ชาว กศน.อยากจะให้ทำงานในฐานะเลขาธิการ กศน.และตนเองก็อยากจะทำงานดังกล่าวต่อไปด้วย ซึ่งการไขก็อกคราวนี้สร้างความประหลาดใจต่อทุกๆ คน
พร้อมกันนี้ มีกระแสข่าวเล็ดรอดออกมาจากพรรคเพื่อไทย ว่า การที่ นายวรวัจน์ แต่งตั้ง นายประเสริฐ ซึ่งถือเป็นคนสนิทของแกนนำพรรคภูมิใจไทยให้ขึ้นตำแหน่งระดับสูงนั้น สร้างความไม่พอใจให้แก่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย อย่างยิ่ง และได้พยายามถามหาคำตอบจาก นายวรวัจน์ แต่ก็ไม่ได้มีการชี้แจงแต่อย่างใด ดังนั้น การที่ นายประเสริฐ ตัดสินใจไขก๊อก คราวนี้เพราะคงทบทวนดีแล้วว่าได้ไม่คุ้มเสีย !!
ทั้งนี้ โผโยกย้ายเดิมของทั้ง 11 รายดังกล่าวนั้น ก็มีเสียงตอบรับในทางที่ไม่ดีนัก โดยเฉพาะในตำแหน่งระดับเลขาธิการ ที่ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่าเป็นการโยกย้ายที่ผิดฝาผิดตัว โดยเฉพาะการโยก นายอภิชาติ จีระวุฒิ ปลัด ศธ.ไปนั่งเก้าอี้ เลขาธิการ กกอ.ซึ่งงานอุดมศึกษานั้นถือเป็นงานที่นายอภิชาติ ขาดความชำนาญหากเทียบการงานด้านการศึกษาพื้นฐาน หรือการศึกษานอกระบบ และคาดว่า การที่เลือก น.ส.ศศิธารา มานั่งเก้าอี้ ปลัด ศธ.แทนเพื่อช่วยเหลือให้พ้นจากภาวะความขัดแย้งในการบริหารงานที่มีการร้องเรียน ตรวจสอบทุจริตกันในสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) อีกทั้ง น.ส.ศศิธารา มีความสนิทสนมกับพี่สาวของนายวรวัจน์ ด้วย
อย่างไรก็ตาม ไม่แน่ว่าโผรอบ 3 จะเข้าสู่ ครม.วันที่ 4 ต.ค.นี้หรือไม่ เพราะเมื่อวันที่ 3 ต.ค.นายวรวัจน์ เพิ่งลงนามในหนังสือคำสั่ง สป.840/2554 เรื่องให้ข้าราชการรักษาราชการแทนและรักษาการในตำแหน่ง จำนวน 10 ราย ตามตำแหน่งเดิมที่ ครม.เคยมีมติ แต่คำสั่งนี้ไม่ปรากฏชื่อ นายประเสริฐ เพราะได้อยู่ในตำแหน่งเลขาธิการ กศน.ดังเดิม ขณะที่ นายพิษณุ ตุลสุข ผู้ตรวจราชการ ศธ.ต้องกินแห้วไปตามระเบียบเพราะถูกแขวนไว้ที่เก่า ส่วนคนที่ดูถูกส้มหล่นคงไม่พ้น นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการ กพฐ.ที่ได้ควบรักษาราชการ เลขาธิการ กอศ.อีกตำแหน่ง ดังนั้น ถ้าหากไม่มีการเสนอโผในวันที่ 4 ต.ค.และการทำหนังสือคำสั่งรักษาราชการแทนนั้น คงเพราะ นายวรวัจน์ คงเจอแรงกดดันอย่างหนักจากภายในพรรค จึงเกิดอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเคลียร์คนไม่ลงตัว ขณะเดียวกันอาจต้องการถ่วงเวลาเพื่อจัดทำโผใหม่อีกฉบับเพื่อดันคนที่คิดไว้ในใจ หรือคนที่เหมาะสม ซึ่งนาทีนี้ไม่ว่าใครก็มีสิทธิ์ลุ้น นั่งเก้าอี้ เลขาธิการ กอศ.
แต่ที่แน่นอนที่สุดโผในมือผู้จัดที่ชื่อ “วรวัจน์” ปรับเปลี่ยนได้แม้มีเวลาเพียงเสี้ยวนาที
------------------------------------------------
ตรวจแถวรายชื่อ 11 บิ๊ก ศธ.
สำหรับ 11 รายชื่อที่ต้องทบทวนใหม่นั้น ประกอบด้วย 1.นายอภิชาติ จีระวุฒิ ปลัด ศธ.รักษาราชการแทน เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เลขาธิการ กกอ.) 2.น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ เลขาธิการ กอศ.รักษาราชการแทน ปลัด ศธ.3.นายประเสริฐ บุญเรือง ระดับ 10 เลขาธิการ กศน. รักษาราชการแทน เลขาธิการ กอศ.4.นายพิษณุ ตุลสุข ผู้ตรวจราชการ ศธ. รักษาการ เลขาธิการ กศน. 5.นายอกนิษฐ์ คลังแสง ผู้ตรวจราชการ ศธ. รักษาการ รองเลขาธิการ กอศ. 6.นายวิมล จำนงบุตร รองเลขาธิการ กอศ. รักษาการ ผู้ตรวจราชการ ศธ. 7.นายสมบัติ แสงสว่างสัจกุล ผู้ตรวจราชการ ศธ. รักษาการ รองเลขาธิการ กอศ. 8.นางสุทธศรี วงษ์สมาน รองเลขาธิการสภาการศึกษา (รองเลขาธิการ กกศ.) รักษาการ ผู้ตรวจราชการ ศธ. 9.น.ส.จิรพรรณ ปุณเกษม ผู้ตรวจราชการ ศธ. รักษาการ รองเลขาธิการ กกศ. 10.นางวราภรณ์ สีหนาท ผู้ตรวจราชการ ศธ. รักษาการ รองเลขาธิการ กกอ. และ 11.นางเบญจลักษณ์ น้ำฟ้า ผู้ตรวจราชการ ศธ. รักษาการ รองเลขาธิการ กพฐ.
ปฏิเสธไม่ได้ว่าฝีมือการจัดโผโยกย้ายผู้บริหารระดับสูง ซี 11 และ 10 กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฤดูกาลนี้ ของ “นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้สร้างปรากฏการณ์แห่งความสับสน วุ่นวาย และปั่นป่วน ที่สุดให้แก่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เพราะนอกจากโผรายชื่อที่เสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ปรับเปลี่ยนทุกสัปดาห์ อีกทั้งล่าสุดยังเกิดปรากฎการณ์ทำหนังสือขอถอนรายชื่อที่ ครม.มีมติแต่งตั้งออกจาก ครม.ด้วย
ความวุ่นวายก่อตัวตั้งแต่ที่ นายวรวัจน์ ยอมรับว่า มีการประสานไปยังกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เพื่อขอโอน นายอภินันท์ โปษยานนท์ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ที่สนิทสนมกันเมื่อครั้ง นั่งเก้าอี้ รมว.วัฒนธรรม ให้ข้ามห้วยมานั่งตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รองเลขาธิการ กพฐ.) ระดับ 10 แทน นายสมเกียรติ ชอบผล รองเลขาธิการ กพฐ.ซึ่งได้รับโอนเป็นข้าราชการพลเรือนในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เพื่อดำรงตำแหน่ง ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านวิชาการศึกษา ว่ากันว่า เป็นการโอนย้ายมาพักชั่วคราวเพื่อรอเวลาขึ้นระดับ 11 แทน นายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เลขาธิการ กกอ.) เกษียณอายุราชการ
ทั้งนี้ นายวรวัจน์ ยืนยันว่า การประชุม ครม.วันที่ 20 ก.ย.จะเสนอขออนุมัติโอนย้าย นายอภินันท์ แต่ปรากฏว่า มติ ครม.ในวันดังกล่าวไม่ปรากฏชื่อของ นายอภินันท์ นำเสนอเข้าสู่การพิจารณา และ ครม.มีมติแต่งตั้งโยกย้ายระดับ 10 จำนวน 4 ราย ได้แก่ นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ นายอนันต์ ระงับทุกข์ ผู้ตรวจราชการ ศธ.มาเป็นรองเลขาธิการ กพฐ.สลับ นายเสน่ห์ ขาวโต และ นายกมล รอดคล้าย รองเลขาธิการ กพฐ.มาเป็นผู้ตรวจราชการ ศธ.แว่วว่า เหตุที่ชื่อของ นายอภินันท์ ไม่ได้ถูกเสนอนั้น เพราะนายกรัฐมนตรี ตำหนิว่า การโอนย้ายคนในเวลานี้นั้นไม่เหมาะสม ขณะที่บางข่าวก็ระบุว่า นายอภินันท์ ขอถอนตัว เพราะไม่พอใจที่อาจจะได้อยู่ในตำแหน่งรองเลขาธิการ กพฐ.แต่ที่แน่ๆ งานนี้ รมว.ศึกษาธิการ ไม่มีเหตุผลอะไรมาอธิบายมีเพียงแต่บอกว่าเรื่องการโอนนายอภินันท์ จะยุติเป็นการถาวร
อย่างไรก็ตาม โผรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายของ ศธ.ครั้งที่ 2 ที่เสนอเป็นล็อตใหญ่ 11 ราย ควรสิ้นสุดลงพร้อมมติ ครม.ที่ได้ให้ความเห็นชอบในวันที่ 27 ก.ย.แต่ถัดมาไม่กี่วันเรื่องกลับตาลปัตร..เพราะ นายวรวัจน์ ได้ตัดสินใจทำหนังสือ ศธ.ที่ สป.771/2554 ยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งข้าราชการรักษาราชการแทน และข้าราชการรักษาการ ในระดับซี 10-11 จำนวน 11 ราย ต่อ ครม.โดยคงไว้เพียงมติ ครม.เมื่อวันที่ 20 ก.ย.
การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะวันที่ 29 ก.ย. นายประเสริฐ บุญเรือง เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (เลขาธิการ กศน.) ซึ่งเป็นม้ามืดได้รับแต่งตั้งจาก ครม.(27 ก.ย.) นั่งเก้าอี้เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.) ถือว่าเติบโตขึ้นจากระดับ 10 สู่ระดับ 11 ถือหนังสือแสดงความประสงค์ไม่ขอรับตำแหน่ง เลขาธิการ กอศ.เข้ายื่นต่อนายวรวัจน์ ด้วยตนเองโดยให้เหตุผลว่า ชาว กศน.อยากจะให้ทำงานในฐานะเลขาธิการ กศน.และตนเองก็อยากจะทำงานดังกล่าวต่อไปด้วย ซึ่งการไขก็อกคราวนี้สร้างความประหลาดใจต่อทุกๆ คน
พร้อมกันนี้ มีกระแสข่าวเล็ดรอดออกมาจากพรรคเพื่อไทย ว่า การที่ นายวรวัจน์ แต่งตั้ง นายประเสริฐ ซึ่งถือเป็นคนสนิทของแกนนำพรรคภูมิใจไทยให้ขึ้นตำแหน่งระดับสูงนั้น สร้างความไม่พอใจให้แก่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย อย่างยิ่ง และได้พยายามถามหาคำตอบจาก นายวรวัจน์ แต่ก็ไม่ได้มีการชี้แจงแต่อย่างใด ดังนั้น การที่ นายประเสริฐ ตัดสินใจไขก๊อก คราวนี้เพราะคงทบทวนดีแล้วว่าได้ไม่คุ้มเสีย !!
ทั้งนี้ โผโยกย้ายเดิมของทั้ง 11 รายดังกล่าวนั้น ก็มีเสียงตอบรับในทางที่ไม่ดีนัก โดยเฉพาะในตำแหน่งระดับเลขาธิการ ที่ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่าเป็นการโยกย้ายที่ผิดฝาผิดตัว โดยเฉพาะการโยก นายอภิชาติ จีระวุฒิ ปลัด ศธ.ไปนั่งเก้าอี้ เลขาธิการ กกอ.ซึ่งงานอุดมศึกษานั้นถือเป็นงานที่นายอภิชาติ ขาดความชำนาญหากเทียบการงานด้านการศึกษาพื้นฐาน หรือการศึกษานอกระบบ และคาดว่า การที่เลือก น.ส.ศศิธารา มานั่งเก้าอี้ ปลัด ศธ.แทนเพื่อช่วยเหลือให้พ้นจากภาวะความขัดแย้งในการบริหารงานที่มีการร้องเรียน ตรวจสอบทุจริตกันในสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) อีกทั้ง น.ส.ศศิธารา มีความสนิทสนมกับพี่สาวของนายวรวัจน์ ด้วย
อย่างไรก็ตาม ไม่แน่ว่าโผรอบ 3 จะเข้าสู่ ครม.วันที่ 4 ต.ค.นี้หรือไม่ เพราะเมื่อวันที่ 3 ต.ค.นายวรวัจน์ เพิ่งลงนามในหนังสือคำสั่ง สป.840/2554 เรื่องให้ข้าราชการรักษาราชการแทนและรักษาการในตำแหน่ง จำนวน 10 ราย ตามตำแหน่งเดิมที่ ครม.เคยมีมติ แต่คำสั่งนี้ไม่ปรากฏชื่อ นายประเสริฐ เพราะได้อยู่ในตำแหน่งเลขาธิการ กศน.ดังเดิม ขณะที่ นายพิษณุ ตุลสุข ผู้ตรวจราชการ ศธ.ต้องกินแห้วไปตามระเบียบเพราะถูกแขวนไว้ที่เก่า ส่วนคนที่ดูถูกส้มหล่นคงไม่พ้น นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการ กพฐ.ที่ได้ควบรักษาราชการ เลขาธิการ กอศ.อีกตำแหน่ง ดังนั้น ถ้าหากไม่มีการเสนอโผในวันที่ 4 ต.ค.และการทำหนังสือคำสั่งรักษาราชการแทนนั้น คงเพราะ นายวรวัจน์ คงเจอแรงกดดันอย่างหนักจากภายในพรรค จึงเกิดอาการกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเคลียร์คนไม่ลงตัว ขณะเดียวกันอาจต้องการถ่วงเวลาเพื่อจัดทำโผใหม่อีกฉบับเพื่อดันคนที่คิดไว้ในใจ หรือคนที่เหมาะสม ซึ่งนาทีนี้ไม่ว่าใครก็มีสิทธิ์ลุ้น นั่งเก้าอี้ เลขาธิการ กอศ.
แต่ที่แน่นอนที่สุดโผในมือผู้จัดที่ชื่อ “วรวัจน์” ปรับเปลี่ยนได้แม้มีเวลาเพียงเสี้ยวนาที
------------------------------------------------
ตรวจแถวรายชื่อ 11 บิ๊ก ศธ.
สำหรับ 11 รายชื่อที่ต้องทบทวนใหม่นั้น ประกอบด้วย 1.นายอภิชาติ จีระวุฒิ ปลัด ศธ.รักษาราชการแทน เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เลขาธิการ กกอ.) 2.น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ เลขาธิการ กอศ.รักษาราชการแทน ปลัด ศธ.3.นายประเสริฐ บุญเรือง ระดับ 10 เลขาธิการ กศน. รักษาราชการแทน เลขาธิการ กอศ.4.นายพิษณุ ตุลสุข ผู้ตรวจราชการ ศธ. รักษาการ เลขาธิการ กศน. 5.นายอกนิษฐ์ คลังแสง ผู้ตรวจราชการ ศธ. รักษาการ รองเลขาธิการ กอศ. 6.นายวิมล จำนงบุตร รองเลขาธิการ กอศ. รักษาการ ผู้ตรวจราชการ ศธ. 7.นายสมบัติ แสงสว่างสัจกุล ผู้ตรวจราชการ ศธ. รักษาการ รองเลขาธิการ กอศ. 8.นางสุทธศรี วงษ์สมาน รองเลขาธิการสภาการศึกษา (รองเลขาธิการ กกศ.) รักษาการ ผู้ตรวจราชการ ศธ. 9.น.ส.จิรพรรณ ปุณเกษม ผู้ตรวจราชการ ศธ. รักษาการ รองเลขาธิการ กกศ. 10.นางวราภรณ์ สีหนาท ผู้ตรวจราชการ ศธ. รักษาการ รองเลขาธิการ กกอ. และ 11.นางเบญจลักษณ์ น้ำฟ้า ผู้ตรวจราชการ ศธ. รักษาการ รองเลขาธิการ กพฐ.
