ศธ.โยกย้ายผิดฝาผิดตัว จับ “อภิชาติ” นั่งเก้าอี้เลขาธิการ กกอ.สลับ “ศศิธารา” ลงตำแหน่งปลัด ศธ.แทน ขณะที่ “ประเสริฐ” ม้ามืดขึ้นซี 11 แถมได้เก้าอี้ เลขาธิการ กอศ.ไปครอง ด้าน “วรวัจน์” ขอเวลาทุกคนพิสูจน์ฝีมือ ระบุถ้าทำไม่ได้ก็สามารถปรับเปลี่ยนได้
นายพงศ์พันธ์ ยอดเมืองเจริญ โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบการแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ทั้งหมด 11 ราย ดังนี้ นายอภิชาติ จีระวุฒิ ปลัด ศธ.เป็น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เลขาธิการ กกอ.) น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.) เป็น ปลัด ศธ. นายประเสริฐ บุญเรือง เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ระดับ 10 ขึ้นเป็น เลขาธิการ กอศ. นายพิษณุ ตุลสุข ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ระดับ 10 เป็น เลขาธิการ กศน.ระดับ 10
นายอกนิษฐ์ คลังแสง ผู้ตรวจราชการ ศธ.เป็น รองเลขาธิการ กอศ. นายวิมล จำนงบุตร รอง กอศ.เป็น ผู้ตรวจราชการ ศธ. นายสมบัติ แสงสว่างสัจกุล ผู้ตรวจราชการ ศธ.เป็น รอง กอศ. นางสุทธศรี วงษ์สมาน รองเลขาธิการสภาการศึกษา เป็น ผู้ตรวจราชการ ศธ. น.ส.จิรพรรณ ปุณเกษม ผู้ตรวจราชการ ศธ.เป็น รองเลขาธิการสภาการศึกษา นางวราภรณ์ สีหนาท ผู้ตรวจราชการ ศธ.เป็น รองเลขาธิการ กกอ.และ นางเบญจลักษณ์ น้ำฟ้า ผู้ตรวจราชการ ศธ. เป็นรองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.)
ด้านนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า การโยกย้ายครั้งนี้ ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ซึ่ง นายอภิชาติ ก็รู้สายงานของพื้นฐานมากอยู่สามารถเชื่อมโยงระหว่างอุดมศึกษากับพื้นฐานได้ดี และตนก็ได้ให้นายสุเมธ เป็นที่ปรึกษาคอยช่วยดูแลอยู่ด้วย และเหตุผลการย้าย น.ส.ศศิธารา มาเป็นปลัด ศธ.แทนนั้น แม้ว่าจะมีเรื่องร้องเรียนการทุจริตมากมาย และยังถูกฟ้องศาลอาญานั้น ถือว่าคดียังไม่ถึงที่สิ้นสุด เรื่องของกฎหมายก็ให้ดำเนินการไปตามกระบวนการและขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนเรื่องการทำงานก็คิดว่าเป็นการหมุนเวียนภายใน ศธ.ไม่ใช่เรื่องน่าแปลก อย่างไรก็ตาม ขอเวลาให้ทุกคนได้ทำงานก่อน ซึ่งหากต่อไปดูว่าทำงานไม่ได้ก็ค่อยพิจารณาปรับเปลี่ยนได้
อนึ่ง การแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องจากการที่มีผู้บริหารระดับ 11 และ 10 เกษียณอายุราชการ คือ นายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการ กกอ.นางแน่งน้อย พัวพัฒนกุล รองเลขาธิการ กกอ.นายพันธ์ศักดิ์ โรจนการ รองเลขาธิการ กอศ.และนายสมเกียรติ ชอบผล รองเลขาธิการ กพฐ.ซึ่งได้รับโอนเป็นข้าราชการพลเรือนในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เพื่อดำรงตำแหน่ง ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านวิชาการศึกษา
นายพงศ์พันธ์ ยอดเมืองเจริญ โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบการแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ทั้งหมด 11 ราย ดังนี้ นายอภิชาติ จีระวุฒิ ปลัด ศธ.เป็น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เลขาธิการ กกอ.) น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.) เป็น ปลัด ศธ. นายประเสริฐ บุญเรือง เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ระดับ 10 ขึ้นเป็น เลขาธิการ กอศ. นายพิษณุ ตุลสุข ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ระดับ 10 เป็น เลขาธิการ กศน.ระดับ 10
นายอกนิษฐ์ คลังแสง ผู้ตรวจราชการ ศธ.เป็น รองเลขาธิการ กอศ. นายวิมล จำนงบุตร รอง กอศ.เป็น ผู้ตรวจราชการ ศธ. นายสมบัติ แสงสว่างสัจกุล ผู้ตรวจราชการ ศธ.เป็น รอง กอศ. นางสุทธศรี วงษ์สมาน รองเลขาธิการสภาการศึกษา เป็น ผู้ตรวจราชการ ศธ. น.ส.จิรพรรณ ปุณเกษม ผู้ตรวจราชการ ศธ.เป็น รองเลขาธิการสภาการศึกษา นางวราภรณ์ สีหนาท ผู้ตรวจราชการ ศธ.เป็น รองเลขาธิการ กกอ.และ นางเบญจลักษณ์ น้ำฟ้า ผู้ตรวจราชการ ศธ. เป็นรองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.)
ด้านนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า การโยกย้ายครั้งนี้ ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ซึ่ง นายอภิชาติ ก็รู้สายงานของพื้นฐานมากอยู่สามารถเชื่อมโยงระหว่างอุดมศึกษากับพื้นฐานได้ดี และตนก็ได้ให้นายสุเมธ เป็นที่ปรึกษาคอยช่วยดูแลอยู่ด้วย และเหตุผลการย้าย น.ส.ศศิธารา มาเป็นปลัด ศธ.แทนนั้น แม้ว่าจะมีเรื่องร้องเรียนการทุจริตมากมาย และยังถูกฟ้องศาลอาญานั้น ถือว่าคดียังไม่ถึงที่สิ้นสุด เรื่องของกฎหมายก็ให้ดำเนินการไปตามกระบวนการและขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนเรื่องการทำงานก็คิดว่าเป็นการหมุนเวียนภายใน ศธ.ไม่ใช่เรื่องน่าแปลก อย่างไรก็ตาม ขอเวลาให้ทุกคนได้ทำงานก่อน ซึ่งหากต่อไปดูว่าทำงานไม่ได้ก็ค่อยพิจารณาปรับเปลี่ยนได้
อนึ่ง การแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องจากการที่มีผู้บริหารระดับ 11 และ 10 เกษียณอายุราชการ คือ นายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการ กกอ.นางแน่งน้อย พัวพัฒนกุล รองเลขาธิการ กกอ.นายพันธ์ศักดิ์ โรจนการ รองเลขาธิการ กอศ.และนายสมเกียรติ ชอบผล รองเลขาธิการ กพฐ.ซึ่งได้รับโอนเป็นข้าราชการพลเรือนในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เพื่อดำรงตำแหน่ง ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านวิชาการศึกษา