xs
xsm
sm
md
lg

“หมอวิชัย” ฉะ สพศท.เอาของเก่ามาเล่า หวังให้หลุดเก้าอี้บอร์ด สปสช.

เผยแพร่:

“หมอวิชัย” โต้กลับ สพศท.จงใจปลดพ้นเก้าอี้ บอร์ด สปสช.แต่นำเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ แจงพ้นมลทินแล้ว ย้ำชัดทุกตำแหน่งที่ได้มาโปร่งใส ยันทำหน้าที่ด้วยความบริสุทธิ์ใจ

จากกรณีที่ พญ.ประชุมพร บูรณ์เจริญ ประธานสมาพันธ์แพทย์โรงพยาบาล โรงพยาบาลทั่วไป (สพศท.) และเครือข่ายภาคประชาชนบางกลุ่มได้ยื่นหนังสือต่อนายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อขอให้คัดชื่อ นพ.วิชัย โชควิวัฒน ออกจากการเป็นคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปช.) โดยให้เหตุผลว่า นพ.วิชัย มีพฤติกรรมเสื่อมเสียตามมาตรา 16(6) ซึ่งว่าด้วยเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อน คือ นพ.วิชัย เป็นประธานอนุกรรมการยุทธศาสตร์ สปสช.ซึ่งมีอำนาจในการจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์ จากองค์การเภสัชกรรม ซึ่ง นพ.วิชัย ดำรงตำแหน่งประธานโปร่งใสนั้น
ล่าสุด วันนี้ (13 ก.ย.) นพ.วิชัย กล่าวถึงกรณีดังกล่าว ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการหยิบประเด็นเก่ามาเล่าใหม่ ซึ่งหลายๆ ประเด็นตนได้ถูกสอบสวนและลงโทษ และว่ากล่าวตักเตือนไปแล้ว ถือเป็นการล้างมลทินแล้ว ดังนั้น ก็ไม่ได้มีความเสื่อมเสียใด เช่น กรณีเรื่องการเบิกค่าน้ำมันรถของรัฐบาลผิด เป็นต้น ส่วนเรื่องการมีผลประโยชน์ทับซ้อนในส่วนของ บอร์ด สปสช.โดยการดึงพรรคพวกและตั้งคนในกลุ่มเพื่อเข้าไปบริหารนั้น เป็นไปตามกระบวนการที่ถูกต้อง และตนก็เป็นแค่ผู้สมัคร ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นตัวแทนจากภาคประชาชนเท่านั้น ไม่ได้เข้าบนเส้นสายของใคร

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่มีผู้คัดค้านการดำรงตำแหน่งกรรมการ สปสช.ควบคู่กับประธานกรรมการ อภ.เพราะเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม เพราะ อภ.เป็นเหมือนผู้ขายยาและเวชภัณฑ์ และ สปสช.เป็นเหมือนผู้ซื้อผลิตภัณฑ์จะอธิบายอย่างไร นพ.วิชัยตอบว่า ในการบริหารตำแหน่งประธานกรรมการ อภ.นั้น ตนจะหมดวาระลงในวันที่ 2 ก.พ.2555 นี้ ส่วนใครจะมาดำรงตำแหน่งใหม่ก็ขึ้นอยู่กับว่า รมว.สธ.เสนอชื่อ จึงไม่ต้องกังวลว่าตนจะดำรงตำแหน่งอยู่นาน สำหรับความกังวลที่ว่า ตนดำรงตำแหน่งควบทั้งผู้ซื้อและผู้ขายนั้น ขอชี้แจงว่า ไม่มีอะไรที่ต้องมาจับผิด เนื่องจากหน่วยงานทั้งสองเป็นหน่วยงานของรัฐ ต้องบริการประชาชนโดยยึดประโยชน์สูงสุดอยู่แล้ว นั่นคือ ให้ประชาชนเข้าถึงบริการสาธารณสุขที่มีมาตรฐาน และ อภ.ในฐานะรัฐวิสาหกิจ ก็ต้องดำเนินการเพื่อให้อยู่ได้โดยไม่ขาดทุนและจะดีมากหากได้กำไร ซึ่งในการนั่งดำรงตำแหน่งของตนในฐานะประธานคณะกรรมการ อภ.เป็นเพียงการวิเคราะห์ข้อมูลและนโยบายให้หน่วยงานเท่านั้น ส่วนการจัดซื้อจัดจ้างก็แล้วแต่กรรมการจะลงความเห็น ซึ่งที่ผ่านมา อภ.ก็เพิ่มยอดขายจาก 5 พันล้าน เป็นหมื่นล้าน โดยในส่วนของการขายยานั้น หากเป็นหน่วยงานของรัฐที่สั่งซื้อก็จะต้องลดราคาเพื่อประโยชน์ส่วนรวม

นพ.วิชัย กล่าวด้วยว่า สำหรับการดำรงตำแหน่งในบอร์ด สปสช.ที่กลุ่มผู้ต่อต้านมองว่าเผาผลาญงบประมาณไปโดยไม่เหมาะสมนั้น จากหลักฐานะการบริการยาต้านไวรัสเอดส์ ที่สามารถประหยัดงบได้ถึง 1 ล้านบาท และดำเนินการฉีดวัคซีนเด็กภายใต้นโยบายที่เหมาะสมก็สามารถประหยัดงบประมาณได้ราว 200 ล้านบาท จึงขอยืนยันว่าการทำหน้าที่ทั้งสองตำแหน่งโดยความบริสุทธิ์ใจ
กำลังโหลดความคิดเห็น