โดย...คุณวัตร ไพรภัทรกุล
ท่ามกลางปัญหาเด็กและเยาวชนมากมาย ยังมีเด็กอีกกลุ่มหนึ่งที่ถือเป็นกำลังสำคัญของชาติที่มีคุณภาพ มีความรู้ความสามารถ ทำประโยชน์ให้กับครอบครัว สังคม และประเทศชาติได้อย่างมหาศาล อีกทั้งเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เยาวชน
ในวันที่ 20 กันยายน จะตรงกับวันเยาวชนแห่งชาติ ในปีนี้คณะอนุกรรมการสรรหาและเชิดชูเด็กและเยาวชนดีเด่นแห่งชาติ และผู้ทำคุณประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน ได้สรรหาและคัดเลือกเยาวชนและผู้ทำประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน จำนวน 11 สาขากิจกรรม รวมทั้งสิ้น 155 ราย แบ่งเป็นเยาวชน 109 ราย กลุ่มเยาวชน 14 กลุ่ม บุคคล 9 ราย และองค์กร 3 ราย
ดีเด่นศิลปวัฒนธรรม-ชีวิตไม่ทิ้งโขน
นายพีระพงษ์ เตียนจันทึก อายุ 22 ปี เยาวชนดีเด่นแห่งชาติ สาขาศิลปวัฒนธรรม ซึ่งมีความสามารถในการแสดงโขน-ละคร กล่าวว่า เริ่มเรียนโขนตั้งแต่ ม.1 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลาประมาณ 11 ปี ช่วงเรียนแรกๆ นั้น ท้อมาโดยตลอด แต่อดทน เพราะมีใจรัก อยากรำให้สวย และประสบความสำเร็จเหมือนครู ส่วนตัวคิดว่าโขนนั้นคนดูอาจจะเบื่อ เพราะช้า ไม่เร็วเหมือนลิเก แต่ประโยชน์อยู่ที่เนื้อเรื่อง ซึ่งรามเกียรติ์ได้สอดแทรกข้อคิดคำสอนเอาไว้อย่างแยบคาย
“ปัจจุบันนี้โขนไม่มีคนดู ทั้งๆ ที่เป็นมรดกของชาติ ส่วนมากจะเน้นวัฒนธรรมต่างชาติที่ไม่ใช่ของเรา ทั้งที่สมัยก่อนผู้ที่ได้ชมโขนมีแต่พระเจ้าแผ่นดินหรือแขกบ้านแขกเมืองเท่านั้น ในภายหลังได้มีการเผยแพร่สู่ประชาชนทั่วไปในสมัย ร.5 ซึ่ง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ตรัสกับสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ว่า ตอนนี้โขนแย่แล้ว ผมจึงคิดว่าชีวิตนี้ผมจะไม่ทิ้งโขนไปไหน จะอนุรักษ์โขนเหมือนที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ และ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ทรงทอดทิ้งโขนเช่นกัน” นายพีระพงษ์ กล่าว
ดีเด่นคณิต-วิทย์-คอมพ์
ยิ่งรู้มากเท่าไหร่ก็เหมือนไม่รู้
นายพชร วงศ์สุทธิโภศล อายุ 17 ปี เยาวชนดีเด่นแห่งชาติ สาขาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี มีความรู้ความสามารถทางด้านดาราศาสตร์ กล่าวว่า ช่วง ม.2 ได้เข้าค่ายของมูลนิธิส่งเสริมโอลิมปิกวิชาการและพัฒนามาตรฐานวิทยาศาสตร์ศึกษา ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ (สอวน.) ประมาณครึ่งเดือนเกี่ยวกับดาราศาสตร์ รู้สึกสนุก เพราะตอนเริ่มแรก จากความไม่รู้ยิ่งทำให้ทุกอย่างดูใหม่หมด แล้วพอยิ่งเรียนรู้เรื่อยๆ ก็ยิ่งมีอะไรให้เรียนรู้ต่อไปอีก เหมือนความรู้ไกลออกจากโลกเราไปอีก คือยิ่งเรารู้มากเท่าไหร่ก็เหมือนไม่รู้
“เราสามารถคำนวณหาวงโคจร ตำแหน่ง ขนาด อุณหภูมิของดาวต่างๆ ได้ แล้วเอาความรู้ที่ได้เหล่านี้มาเปรียบเทียบกับโลก เพื่อศึกษาความเป็นไปของโลกได้ เช่น ปี 2012 ที่ดาวต่างๆ เรียงตัวกัน เราก็สามารถคำนวณได้ว่าจะเกิดผลกระทบอย่างไรกับโลก แรงดึงดูดของดาวต่างๆ จะมีผลกระทบกับโลกมากน้อยแค่ไหน” นายพชร เล่าถึงความน่าสนใจของดาราศาสตร์
ดีเด่นกฎหมาย-เยาวชนหัวใจไกล่เกลี่ย
นายปรมัติ ศักดิ์แสน อายุ 17 ปี เยาวชนดีเด่นแห่งชาติ สาขากฎหมาย กล่าวว่า ที่โรงเรียนได้มีโครงการเยาวชนหัวใจไกล่เกลี่ย ซึ่งจะช่วยแก้ไขข้อพิพาทระหว่างบุคคล 2 ฝ่าย เช่น ที่เคยเกิดขึ้นคือมีการทะเลาะวิวาทในโรงเรียน ระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้อง ทางคณะกรรมการที่เป็นนักเรียนก็จะเข้าไปช่วยไกล่เกลี่ย โดยตั้งคณะอนุกรรมการขึ้น 2 ฝ่าย เพื่อหาสาเหตุ ถ้าสาเหตุในการทะเลาะวิวาทไม่ตรงกันก็จะมีการมานั่งคุยกัน เพื่อตกลงกันให้เกิดข้อยุติ
“ทางคณะกรรมการจะร่างกฎระเบียบขึ้นมาใช้บังคับ หากทั้ง 2 ฝ่ายตกลงกันไม่ได้ ก็จะส่งเรื่องไปถึงอาจารย์ฝ่ายปกครอง ซึ่งจะมีโทษหนักกว่า จึงทำให้เรื่องมักจะจบลงด้วยดีระหว่างนักเรียนด้วยกัน เพราะสาเหตุจริงๆ แล้ว เรื่องทะเลาะวิวาทระหว่างกลุ่มเกิดจากปัญหาเพียงเล็กน้อยของคน 2 คน แต่กลุ่มเพื่อนจะมีส่วนทำให้เรื่องบานปลายรุนแรงขึ้น ถ้าเราแยกต้นเหตุ คือคน 2 คน นั้นออกมา เรื่องก็จะคลี่คลายและแก้ปัญหาได้มากกว่า ซึ่งตอนหลังเราก็ดึงเด็กกลุ่มนี้ที่มีปัญหาเข้ามาร่วมเป็นคณะกรรมการด้วย เพื่อไม่ให้เกิดการแบ่งแยก” นายปรมัติ กล่าว
ทั้งนี้ เด็กและเยาวชนแห่งชาติปี 2554 จะเข้ารับพระราชทานรางวัล ในวันที่ 20 กันยายน นี้ จาก สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ต่อไป ติดตามรายละเอียดได้ที่ www.opp.go.th