เตือนสภาพอากาศเปลี่ยน ทำยุงลายชุก กัดคนบ่อยขึ้น

สธ.ชี้สภาพอากาศร้อนทำให้วงจรชีวิตยุงสั้น ส่งผลให้ปริมาณยุงเพิ่มขึ้น เสี่ยงถูกยุงกัดบ่อย ขณะสถานการณ์โรคไข้เลือดออกยังน้อยกว่าปีก่อน ป่วย 44,330 ราย เสียชีวิต 34 ราย

นพ.วิชัย สติมัย ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่อนำโดยแมลง กล่าวว่า สภาพอากาศที่เปลี่ยนไป พบว่า อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น 0.5-1 องศาเซลเซียส ทำให้วงจรชีวิตของยุงสั้นลง ตั้งแต่ไข่ ตัวอ่อน และตัวโม่ง และขนาดของตัวยุงจะเล็กลง ซึ่งหมายความว่า ปริมาณยุงจะเพิ่มสูงขึ้น กัดบ่อยขึ้น เนื่องจากรอบวงจรชีวิตสั้น แต่ที่เห็นอย่างชัดเจนในพื้นที่ของประเทศไทย คือ ภาวะฝนตกนอกฤดูกาล ซึ่งอาจมาจากการตัดไม้ทำลายป่า ทำให้เกิดดินถล่มมากขึ้น

นพ.วิชัย กล่าวว่า ทั้งนี้สำหรับสถานการณ์โรคไข้เลือดออก ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 31 ส.ค.2554 พบผู้ป่วยสะสม 44,330 ราย เสียชีวิต 34 ราย ซึ่งมีจำนวนผู้ป่วยและเสียชีวิตลดลง เมื่อเปรียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา ถึงร้อยละ 30 แต่พบแนวโน้มผู้ป่วยมีการเปลี่ยนแปลงจากเดิม จากกลุ่มเด็กอายุ 5-14 ปี เป็นผู้ใหญ่ในอายุระหว่าง 15-24 ปี มากขึ้น ทั้งนี้ ได้ส่งเรื่องดังกล่าวให้ราชวิทยาลัยด้านอายุรเวชศาสตร์ รับทราบถึงความเปลี่ยนแปลง เพื่อให้การรักษาอย่างถูกต้องในผู้ป่วยกลุ่มผู้ใหญ่ สำหรับพื้นที่ที่พบอัตราการป่วยมากที่สุด ได้แก่ ภาคกลาง รองลงมา ภาคเหนือ และภาคตะวันวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ สำหรับเชื้อเด็งกี่ที่พบการระบาดในปีนี้ เป็นสายพันธุ์ที่ 2 และ 3 มากที่สุด

“ขณะนี้ได้มีการกำชับลงไปในระดับเทศบาล ให้เน้น 5 ป. คือ ป.ปิดภาชนะ ป. เปลี่ยนน้ำรองในภาชนะ ป.ปล่อยปลากินลูกน้ำ ป.ปรับปรุงภาชนะ และสภาพแวดล้อม ที่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และ ป.ทำให้เป็นประจำสม่ำเสมอ และหากมีอาการไข้สูงติดต่อกัน 3-4 วัน ซึม เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน มีผื่น หรือจุดแดง ตามร่างกาย ควรรีบพบแพทย์” นพ.วิชัย กล่าว