เอเอฟพี - ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุไต้ฝุ่น “นันมาดอล” พัดถล่มฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้นเป็น 13 รายในวันนี้ (29) ขณะที่สำนักงานป้องกันพลเรือนระบุว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นอีกเนื่องจากความหวังว่าจะพบผู้สูญหายเริ่มรางเลือน
ชาวฟิลิปปินส์กว่า 61,000 คนยังอยู่ในสภาพพลัดที่นาคาที่อยู่ หลังจากนันมาดอลซึ่งเป็นไต้ฝุ่นลูกใหญ่ที่สุดในปีนี้พัดถล่มพื้นที่ตอนเหนือของเกาะลูซอนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เกิดดินถล่มและอุทกภัยเป็นบริเวณกว้าง
เบนิโต รามอส หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการสำนักงานป้องกันพลเรือน เปิดเผยว่า ร่างผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ถูกฝังอยู่ใต้ดินโคลน รวมถึงเด็ก 2 คนในเมืองบากิโอ ซึ่งถูกขยะกองเท่าภูเขาทลายลงมาทับ
ทั้งนี้ยังมีผู้สูญหายอีก 8 คนซึ่งคาดว่าจะถูกกระแสน้ำในทะเลหรือแม่น้ำที่เชี่ยวกรากพัดพาไป หรือไม่ก็ถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพัง
รามอสบอกด้วยว่า ผู้ที่เสียชีวิตอยู่ใต้กองขยะเป็นพวกคนเก็บของเก่า ซึ่งเข้าไปค้นหาสิ่งของทิ้งแล้วมาประทังชีวิต แม้จะรู้ดีว่าพายุฝนอาจทำให้ภูเขาขยะเหล่านั้นทลายลงมาทับตนเองก็ตาม
ปัญหาลักษณะนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งในฟิลิปปินส์ เนื่องจากคนยากจนมักไม่ยอมละทิ้งที่อยู่ของตน แม้จะอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย
พื้นที่ตอนเหนือของเกาะลูซอนส่วนใหญ่ยังปราศจากกระแสไฟฟ้า หลังจากไต้ฝุ่นนันมาดอลซึ่งมีความเร็วลมที่ศูนย์กลางถึง 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมงพัดเข้าถล่มเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (27)
นันมาดอล ซึ่งได้ชื่อตามโบราณสถานแห่งหนึ่งในไมไครนีเซีย เริ่มอ่อนกำลังลง และเคลื่อนตัวออกจากฟิลิปปินส์มุ่งหน้าไปยังไต้หวันและจีนแล้ว
ทางการไต้หวันสั่งอพยพประชาชน 8,000 คนออกจากพื้นที่เสี่ยง และสั่งปิดโรงเรียนและระบบรถไฟชั่วคราว หลังจากอิทธิพลของไต้ฝุ่นนันมาดอลทำให้เกิดฝนตกหนักในเขตที่มีประชากรหนาแน่นหลายแห่ง วันนี้ (29)
