รมว.สธ.สั่งโรงพยาบาลทุกแห่งป้องกันน้ำไม่ให้ท่วมสถานที่อย่างเต็มที่ กำชับให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการผู้ประสบภัยทุกวัน พร้อมเฝ้าระวังป้องกันโรคที่มากับน้ำท่วม ยืนยันจนถึงขณะนี้ยังไม่มีโรคระบาด และไม่มีผู้ประสบภัยเสียชีวิตจากโรคฉี่หนู
วันนี้ (19 ส.ค.)นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมว่า ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม หรือวอร์รูมน้ำท่วมของกระทรวงสาธารณสุข ได้ติดตามเฝ้าระวังประเมินปัญหาจากพื้นที่ทุกวัน วันนี้มีพื้นที่ที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ 5 จังหวัด เนื่องจากระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ได้แก่ พิจิตร นครสวรรค์ พิษณุโลก กำแพงเพชร และพระนครศรีอยุธยา ได้ให้โรงพยาบาลทุกแห่งทำการป้องกันไม่ให้น้ำท่วมอาคารสถานที่อย่างเต็มที่แล้ว เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน ขณะนี้โรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่งในพื้นที่ประสบภัย สามารถเปิดให้บริการตามปกติ และให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกให้บริการประชาชนทุกวัน โดยเน้นให้ดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรังหรือผู้พิการ ผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก รวมทั้งจุดที่ประชาชนติดเกาะ เดินทางยากลำบาก และจุดที่ประชาชนอพยพไปอยู่เช่นข้างถนน เป็นต้น
นายวิทยากล่าวว่า เนื่องจากระยะเวลาน้ำท่วมขัง เป็นเวลาใกล้ 1 เดือน อาจเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดโรคระบาด เนื่องจากประชาชนอาจขาดแคลนน้ำสะอาดใช้ หรืออาจสัมผัสน้ำปากปรกที่มีเชื้อโรคปนเปื้อน เช่น โรคฉี่หนู โรคอุจจาระร่วง ได้สั่งการกำชับให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ประสบภัยทั้งที่น้ำลดแล้วและกำลังท่วม ให้เฝ้าระวังป้องกันอย่างเต็มที่ ในพื้นที่ใดที่น้ำท่วมขังเป็นเวลานาน ให้ทำส้วมชั่วคราวให้ประชาชนใช้ให้เพียงพอ จนถึงขณะนี้ทุกพื้นที่ยังไม่มีโรคระบาด รวมทั้งที่อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย ที่มีข่าวว่ามีผู้ประสบภัยเสียชีวิตจากโรคฉี่หนูนั้น จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พบว่าผู้เสียชีวิตที่เป็นข่าวเสียชีวิตช่วงกลางเดือนกรกฎาคม 2554 และไม่ได้เสียชีวิตจากโรคฉี่หนูแต่อย่างใด โดยในบ่ายวันนี้จะประชุมศูนย์ปฏิบัติการน้ำท่วมด้วย
ด้านนพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขอย้ำเตือนให้ประชาชน ผู้ปกครองระมัดระวัง อย่าให้ลูกหลานลงเล่นน้ำท่วม โดยเฉพาะน้ำที่ท่วมขังเป็นเวลานาน เนื่องจากในน้ำท่วมขังจะมีสิ่งปนเปื้อนสกปรกประปนจำนวนมาก น้ำอาจเข้าตาทำให้เกิดโรคตาแดง หรือเข้าปากอาจทำให้เกิดโรคอุจจาระร่วงได้ และภายหลังจากเดินลุยน้ำแล้ว ขอให้รีบล้างชำระเท้าด้วยน้ำสะอาด และเช็ดให้แห้ง โดยเฉพาะตามง่ามเท้า เพื่อป้องกันโรคน้ำกัดเท้า
วันนี้ (19 ส.ค.)นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมว่า ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม หรือวอร์รูมน้ำท่วมของกระทรวงสาธารณสุข ได้ติดตามเฝ้าระวังประเมินปัญหาจากพื้นที่ทุกวัน วันนี้มีพื้นที่ที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ 5 จังหวัด เนื่องจากระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ได้แก่ พิจิตร นครสวรรค์ พิษณุโลก กำแพงเพชร และพระนครศรีอยุธยา ได้ให้โรงพยาบาลทุกแห่งทำการป้องกันไม่ให้น้ำท่วมอาคารสถานที่อย่างเต็มที่แล้ว เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน ขณะนี้โรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่งในพื้นที่ประสบภัย สามารถเปิดให้บริการตามปกติ และให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกให้บริการประชาชนทุกวัน โดยเน้นให้ดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรังหรือผู้พิการ ผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก รวมทั้งจุดที่ประชาชนติดเกาะ เดินทางยากลำบาก และจุดที่ประชาชนอพยพไปอยู่เช่นข้างถนน เป็นต้น
นายวิทยากล่าวว่า เนื่องจากระยะเวลาน้ำท่วมขัง เป็นเวลาใกล้ 1 เดือน อาจเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดโรคระบาด เนื่องจากประชาชนอาจขาดแคลนน้ำสะอาดใช้ หรืออาจสัมผัสน้ำปากปรกที่มีเชื้อโรคปนเปื้อน เช่น โรคฉี่หนู โรคอุจจาระร่วง ได้สั่งการกำชับให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ประสบภัยทั้งที่น้ำลดแล้วและกำลังท่วม ให้เฝ้าระวังป้องกันอย่างเต็มที่ ในพื้นที่ใดที่น้ำท่วมขังเป็นเวลานาน ให้ทำส้วมชั่วคราวให้ประชาชนใช้ให้เพียงพอ จนถึงขณะนี้ทุกพื้นที่ยังไม่มีโรคระบาด รวมทั้งที่อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย ที่มีข่าวว่ามีผู้ประสบภัยเสียชีวิตจากโรคฉี่หนูนั้น จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พบว่าผู้เสียชีวิตที่เป็นข่าวเสียชีวิตช่วงกลางเดือนกรกฎาคม 2554 และไม่ได้เสียชีวิตจากโรคฉี่หนูแต่อย่างใด โดยในบ่ายวันนี้จะประชุมศูนย์ปฏิบัติการน้ำท่วมด้วย
ด้านนพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขอย้ำเตือนให้ประชาชน ผู้ปกครองระมัดระวัง อย่าให้ลูกหลานลงเล่นน้ำท่วม โดยเฉพาะน้ำที่ท่วมขังเป็นเวลานาน เนื่องจากในน้ำท่วมขังจะมีสิ่งปนเปื้อนสกปรกประปนจำนวนมาก น้ำอาจเข้าตาทำให้เกิดโรคตาแดง หรือเข้าปากอาจทำให้เกิดโรคอุจจาระร่วงได้ และภายหลังจากเดินลุยน้ำแล้ว ขอให้รีบล้างชำระเท้าด้วยน้ำสะอาด และเช็ดให้แห้ง โดยเฉพาะตามง่ามเท้า เพื่อป้องกันโรคน้ำกัดเท้า
