“สุเมธ” ชี้ ต้องตั้งคณะทำงานจากมหา’ลัย และ สพฐ.วางกรอบการแจกแท็บเล็ต ทั้งดูความเหมาะสมและดูส่วนการผลิตซึ่งคงทำเองลำบาก ต้องจัดซื้อจากผู้ที่ไว้ใจได้
นายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เลขาธิการ กกอ.) กล่าวถึงกรณีที่ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ไปศึกษาภาพรวมการดำเนินการตามนโยบาย One Tablet PC Per Child ของรัฐบาลตามที่ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) มอบหมาย ว่า ต้องหารือในหลักการให้ชัดเจนว่าถ้าดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลจะเอาอย่างไร
เบื้องต้น คงต้องตั้งคณะทำงานจากมหาวิทยาลัย และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มาช่วยกันวางกรอบการดำเนินงานในเรื่องต่างๆ ก่อน เช่น ความเหมาะสมว่าควรจะแจกนักเรียนระดับใด เพราะถ้าแจกเด็กที่อายุน้อยเกินไปอาจไม่ได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ แต่ถ้าแจกเด็กโตจะใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ และสามารถเชื่อมโยงกับเน็ตเวิร์กอื่นๆ เพื่อใช้ประโยชน์ได้หลากหลายขึ้น อีกประเด็นที่ต้องดู คือ แท็บเล็ตเป็นเทคโนโลยีชั้นสูง ทำเองลำบาก ดังนั้น จึงต้องจัดซื้อจากผู้จำหน่ายที่มีหลักประกันและเชื่อถือได้
ส่วนการวางเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ที่ สกอ.รับผิดชอบวางเครือข่ายไปยังมหาวิทยาลัยต่างๆ และกำลังขยายไปสู่โรงเรียนนั้น ขณะนี้สามารถเชื่อมโยงเครือข่ายไปสู่โรงเรียนได้แล้วจำนวนหนึ่งแต่ยังไม่ครอบคลุมโรงเรียนทั้งหมดของ สพฐ.ที่มีถึงกว่า 3 หมื่นโรง ซึ่งอาจต้องใช้เวลาจึงจะสามารถขยายเครือข่ายให้ครอบคลุมได้ อย่างไรก็ตาม การวางเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะสิ่งที่ทุกคนห่วง คือ เรื่องหลักสูตรและองค์ความรู้ที่จะใส่เข้าไป ร่วมถึงวิธีการส่งเสริมให้เด็กนำแท็บเล็ตไปใช้ให้เกิดประโยชน์
นายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เลขาธิการ กกอ.) กล่าวถึงกรณีที่ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ไปศึกษาภาพรวมการดำเนินการตามนโยบาย One Tablet PC Per Child ของรัฐบาลตามที่ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) มอบหมาย ว่า ต้องหารือในหลักการให้ชัดเจนว่าถ้าดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลจะเอาอย่างไร
เบื้องต้น คงต้องตั้งคณะทำงานจากมหาวิทยาลัย และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มาช่วยกันวางกรอบการดำเนินงานในเรื่องต่างๆ ก่อน เช่น ความเหมาะสมว่าควรจะแจกนักเรียนระดับใด เพราะถ้าแจกเด็กที่อายุน้อยเกินไปอาจไม่ได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ แต่ถ้าแจกเด็กโตจะใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ และสามารถเชื่อมโยงกับเน็ตเวิร์กอื่นๆ เพื่อใช้ประโยชน์ได้หลากหลายขึ้น อีกประเด็นที่ต้องดู คือ แท็บเล็ตเป็นเทคโนโลยีชั้นสูง ทำเองลำบาก ดังนั้น จึงต้องจัดซื้อจากผู้จำหน่ายที่มีหลักประกันและเชื่อถือได้
ส่วนการวางเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ที่ สกอ.รับผิดชอบวางเครือข่ายไปยังมหาวิทยาลัยต่างๆ และกำลังขยายไปสู่โรงเรียนนั้น ขณะนี้สามารถเชื่อมโยงเครือข่ายไปสู่โรงเรียนได้แล้วจำนวนหนึ่งแต่ยังไม่ครอบคลุมโรงเรียนทั้งหมดของ สพฐ.ที่มีถึงกว่า 3 หมื่นโรง ซึ่งอาจต้องใช้เวลาจึงจะสามารถขยายเครือข่ายให้ครอบคลุมได้ อย่างไรก็ตาม การวางเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะสิ่งที่ทุกคนห่วง คือ เรื่องหลักสูตรและองค์ความรู้ที่จะใส่เข้าไป ร่วมถึงวิธีการส่งเสริมให้เด็กนำแท็บเล็ตไปใช้ให้เกิดประโยชน์
