เอ็นจีโอ ท้า “ไทยเบฟ” ควรออกมารับผิด ไม่อยู่เหนือ กม.

เฺอ็นจีโอ ท้า! “ไทยเบฟ” เป็นสปอนเซอร์ใหญ่ จัดคอนเสิร์ต 30 ปี คาราบาว ออกมารับผิดชอบการกระทำ ย้ำ อย่าโยนผิด บ.รับจัดงาน-วงดนตรี มารับแทน อัดเละ มีหลักฐานชัด เชื่อมีกำลังจ่ายค่าปรับแค่เล็กน้อย แต่ต้องมีจริยธรรม และไม่อยู่เหนือกฎหมาย

จากกรณีที่นายวินิจ เลิศรัตนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด ผู้จัดคอนเสิร์ตมหกรรม 30 ปี คาราบาว ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการจัดคอนเสิร์ต จากบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด โดยล่าสุด เตรียมออกมาแถลงข่าวเพื่อชี้แจงรายละเอียดทั้งหมดกรณีกระทำผิด พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในวันที่ 8 สิงหาคม นี้

ล่าสุด วันนี้ (6 ส.ค.) ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) กล่าวว่า อยากให้บริษัท ไทยเบฟ ซึ่งเป็นสปอนเซอร์หลักในการจัดงาน ออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ไม่ควรให้บริษัทของนายวินิจ ที่รับจัดงานหรือวงคาราบาว ออกมารับผิดชอบแทน เพราะที่ผ่านมามีหลักฐานการกระทำผิดชัดเจน ทั้งภาพวิดีโอและภาพนิ่ง ในการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่ราชการ ตลอดจนใช้เด็กและเยาวชนอายุตำ่กว่า 20 ปี เป็นเครื่องมือในการโฆษณา ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมผิดกฎหมาย และผิดจริยธรรม

ภก.สงกรานต์ กล่าวว่า กรณีนี้เป็นเหมือนการทดสอบประสิทธิภาพของ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก่อนที่จะเข้าสู่เทศกาลสังสรรค์ในช่วงปลายปี ที่จะมีคอนเสิร์ต และกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ เกิดขึ้น หรือที่เรียกว่า ช่วงเวลาเงินเวลาทองของธุรกิจน้ำเมา อย่างไรก็ตาม หากเป็นการกระทำผิดซ้ำซากหรือการแสดงออกถึงความไม่เกรงกลัวกฎหมาย มีความเป็นไปได้สูงที่โทษจำคุกจะเข้ามาแทนที่โทษปรับ และเข้าใจว่าธุรกิจเหล่านี้พร้อมที่จะจ่ายค่าปรับอยู่แล้ว เพราะถือเป็นเรื่องเล็กน้อยเมื่อเทียบกับผลประโยชน์ที่ได้รับ หวังว่า บริษัท ไทยเบฟ ที่อยู่เบื้องหลังตัวจริงจะเร่งทบทวนแก้ไขให้ถูกต้อง

“เครือข่ายจะเร่งส่งสัญญาณให้ภาคีภาคประชาชนที่มีอยู่ทุกจังหวัด เข้าไปเก็บข้อมูลหลักฐานเพื่อส่งให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินคดี ให้ถึงที่สุดหากยังนิ่งเฉย และขอย้ำว่า ไม่ได้ขัดแย้งกับคอนเสิร์ต 30 ปีคาราบาว เพียงแต่ไม่ต้องการให้กิจกรรมที่เกิดขึ้นกลายเป็นเครื่องมือของธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มุ่งหาประโยชน์อย่างเดียว และเจตนารมณ์สำคัญของ พ.ร.บ.ฉบับนี้ ก็เพื่อใช้ปกป้องเด็กและเยาวชน แต่กลับถูกบริษัทดังกล่าวดึงเยาวชนให้ตกไปเป็นเหยื่อในกิจกรรมเหล่านี้” ภก.สงกรานต์ กล่าว

ด้านนายจะเด็จ เชาวน์วิไล ที่ปรึกษาเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด ออกมาแสดงความรับผิดชอบ และยอมรับผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย หรือปัดความรับผิดชอบ ซึ่งภาคประชาชนขอประณามการกระทำดังกล่าวในการใช้คอนเสิร์ตคาราบาวเป็นหน้าฉาก แฝงกิจกรรมส่งเสริมการขาย และต้องตั้งคำถามกลับไปยังบริษัทว่าหากมีความจริงใจ และต้องการสนับสนุนงานศิลปวัฒนธรรมหรือคอนเสิร์ตอย่างจริงจัง ควรจะใช้สินค้าตัวอื่นแทนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปสนับสนุน เพราะรู้อยู่แล้วว่าในคอนเสิร์ตแต่ละครั้งจะมีเด็กและเยาวชนจำนวนมาก กลยุทธ์ที่สร้างการจดจำตราสินค้าควรมีความรับผิดชอบต่อสังคมมากกว่านี้ และต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย อย่างไรก็ตาม เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบฯ ขอสนับสนุนการทำหน้าที่ของ นพ.สมาน ฟูตระกูล ผอ.สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ที่บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพราะเป็นสิ่งที่ถูกต้องและจำเป็นต้องเดินหน้าบังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่ทำผิด ตรงกันข้ามหากนพ.สมานไม่ทำตามหน้าที่ ภาคประชาชนก็คงต้องตรวจสอบเพราะถือว่าละเลยต่อหน้าที่

“ที่ผ่านมา บริษัท ไทยเบฟ พยายามสร้างภาพลักษณ์ให้ดูดี เช่น สร้างโรงพยาบาล แจกผ้าห่มกันหนาวต่างๆ ทำเหมือนปกป้องสังคม แต่เมื่อมีกรณีแบบนี้เกิดขึ้น แสดงให้เห็นว่าบริษัท ไทยเบฟ ก็ไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคมหลงเหลืออยู่เลย โดยเฉพาะการทำให้เด็กและเยาวชนเป็นเหยื่อ ก้าวไปสู่การเป็นนักดื่มหน้าใหม่ รวมถึงปัญหาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังทำให้เกิดอุบัติเหตุ การทะเลาะวิวาท เพราะที่ผ่านมามีผู้ได้รับผลกระทบ เกิดความสูญเสีย หรือพิการตลอดชีวิตเป็นจำนวนมาก” นายจะเด็จ กล่าว