กลุ่มเยาวชน บุก สธ.วอนเร่งบังคับใช้ กม.คุมเหล้า “เอาผิดไทยเบฟฯ” พร้อมพ่วงหลักฐานมาแฉกิจกรรมส่งเสริมการขายเพียบ ! ด้าน รองปลัด สธ.รับปากจะเร่งร่อนหนังสือถึงผู้ว่าฯ ให้เข้มงวด “หมอสมาน” เตือน เจ้าหน้าที่อย่าเผลอเอี่ยวไปร่วมกิจกรรม อาจพลาดทำผิด กม.อาญา 157 โทษจำคุกสูงสุด 10 ปี
วันนี้ (29 ก.ค.) ที่สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ มูลนิธิเพื่อนเยาวชนเพื่อการพัฒนา จำนวนราว 20 คน เดินทางมาเข้าพบ นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล รองปลัด สธ.เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องให้ สธ.บังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ดำเนินคดี กับ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และผู้จัดคอนเสิร์ต 30 ปี คาราบาว ที่ไม่ปฏิบัติตาม พร้อมเรียกร้อง จริยธรรมบริษัท หยุดอาศัยคอนเสิร์ตบังหน้าขายเหล้าเบียร์ โดยกลุ่มเยาวชน ได้นำเอาหลักฐานทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ที่แสดงถึงการกระทำผิด ของบริษัทมานำเสนอด้วย
โดย นส.ศิริพร กัลปหา ตัวแทนนักศึกษาจากกลุ่มนักกฎหมายเพื่อสังคม มหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวว่า จากการที่กลุ่มเยาวชนได้ลงพื้นที่สำรวจและสังเกตการณ์ในสถานที่จัดคอนเสิร์ต “มหกรรมดนตรี 30 ปีคาราบาว” ใน.จ.นครศรีธรรมราช เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา นั้น พบว่า มีการจัดกิจกรรมที่ขัดต่อ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯมากมาย ทั้งส่วนของ ส่งเสริมการขายโดยใช้สาวเชียร์เบียร์ และมีการลดแลก แจก แถม รวมทั้งมีการขายเครื่องดื่มแอลกฮอล์ในสถานที่ต้องห้าม ด้วย ดังนั้นทางเครือข่ายฯ จึงขอเรียกร้อง ใน 4 ประเด็น 1.ขอให้ทำตามกฎหมายต่อผู้จัด และบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย 2.ขอให้กระทรวงมหาดไทย และ สธ.มีหนังสือแจ้งเตือนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดที่กำลังจะเป็นพื้นที่จัดคอนเสิร์ตครั้งต่อไปให้เข้มงวดต่อการบังคับใช้กฎหมาย 3.ขอให้บริษัท ผู้จัด มีความรับผิดชอบและยุติการละเมิดกฎหมาย และ 4.ขอให้ภาคประชาคมทุกจังหวัดช่วยกันตรวจสอบการจัดคอนเสิร์ต และช่วยสอดส่องดูแลการกระทำผิด
ด้าน นพ.ศิริวัฒน์ กล่าวว่า จะเร่งทำการตรวจสอบหลักฐานและเดินหน้าดำเนินคดีต่อไป อย่างไรก็ตาม ในเรื่องการจัดคอนเสิร์ต ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ผิดตรงภายในงานมีการละเมิดพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ ซึ่งจะมีการทำหนังสือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ ที่กำลังจะมีการจัดแสดงคอนเสิร์ตเร็วๆนี้ ให้ช่วยเข้มงวดเรื่องนี้ เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น
ขณะที่ นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กล่าวว่า จากหลักฐานทีกลุ่มเยาวชนนำมาเสนอในวันนี้ แสดงให้เห็นการกระทำผิดอย่างชัดเจน ทั้งการจำหน่ายในสถานที่ต้องห้าม อย่างสวนสาธารณะ สถานที่ราชการ เนื่องจากสนามหน้าเมืองของ จ.นครศรีธรรมราช จัดเป็นพื้นที่สวนสาธารณะของทางราชการที่จัดไว้เพื่อการพักผ่อนของประชาชน อีกทั้งยังเข้าข่ายเป็นพื้นที่สถานศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ เนื่องจากภายในบริเวณยังเป็นที่ตั้งของศูนย์การเรียนรู้ ซึ่งเป็นสถานศึกษาอีกประเภทหนึ่ง กรณีนี้จึงเข้าข่ายความผิด 3 มาตราตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ คือ 1.มาตรา 27 ห้ามขายในสถานที่ห้าม เนื่องจากเข้าข่ายสวนสาธารณะในที่ราชการ สถานศึกษา มีโทษปรับ 10,000 จำคุก 6 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ
นพ.สมาน กล่าวอีกว่า 2.มาตรา 30 ห้ามขายโดยวิธีการลด แลก แจก แถม ซึ่งหลักฐานชัดเจนว่ามีวิธีการดังกล่าว ทั้งซื้อครบ 100 บาทแลกซื้อเสื้อในราคาพิเศษ หรือซื้อ 2กระป๋องในราคาลด มีโทษเท่ากับมาตรา 27 และ 3.มาตรา 32 ห้ามผู้ใดโฆษณาแสดงชื่อหรืเครื่องหมาย หรือสัญลักษณ์ใดๆ อันเป็นการอวดอ้างสรรพคุณ หรือชักจูงใจผู้อื่นดื่ม มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ยังมีโทษปรับอีกวันละ 50,000 บาทจนกว่าจะปฏิบัติถูกต้อง
“อยากเตือนว่า การจัดคอนเสิร์ตไม่ผิด การร้องเพลงก็ไม่ผิด แต่ผิดตรงมีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่ต้องห้าม และการกระทำดังกล่าวก็เข้าข่ายส่งเสริมการขายชัดเจน การที่ใครออกมาพูดว่าไม่ได้ทำผิดก็ต้องมีการพิจารณา เพราะหลักฐานมีพร้อม ซึ่งใครจะผิดใครจะเกี่ยวข้องบ้าง ทั้งผู้จัดคอนเสิร์ต หรือแม้แต่วงคาราบาว หรือกรรมการบริหารของบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่จำหน่าย เรื่องนี้ต้องพิจารณาว่า มีส่วนรู้เห็นหรือมีส่วนร่วมในการโฆษณา ส่งเสริมการขายลักษณะนี้ด้วยหรือไม่ หากรู้เห็นตั้งแต่ต้นในทางกฎหมายอาญาก็จะต้องรับผิดเท่าเทียมผู้กระทำผิดทั้งหมด ซึ่งเรื่องนี้จะชัดเจนในการหารือของคณะอนุกรรมการด้านกฎหมายของคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันที่ 3 สิงหาคมนี้ ที่กรมควบคุมโรค” นพ.สมาน กล่าว