กทม.จับมือเครือข่ายบุกตลาดสดเดินหน้ารณรงค์ชวนงดเหล้าเข้าพรรษาถวายในหลวง 84 พรรษา พร้อมแสดงเจตนารมย์ร่วมลงนามปฏิญาณตนงดเหล้าเข้าพรรษา นำร่องตลาดประชานิเวศน์ ตั้งเป้าปีหน้ารณรงค์ครอบคลุมตลาดสดระดับทอง ประชาชนสนใจรับการบำบัดได้ที่ศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้บ้าน ทั้ง 68 แห่ง ขอคำปรึกษาจากศูนย์ปรึกษาปัญหาสุรา โทร.1413
วันนี้ (28 ก.ค.) ที่ตลาดประชานิเวศน์ เขตจตุจักร พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานเปิดกิจกรรมรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษา ภายใต้โครงการตลาดสดชวนงดเหล้า รวมพลังทำความดีถวายในหลวง 84 พรรษา ณ บริเวณตลาดประชานิเวศน์ เขตจตุจักร และร่วมลงนามปฏิญาณตนงดเหล้าเข้าพรรษา ซึ่งสำนักอนามัย กทม.ร่วมกับเครือข่ายองค์กรงดเหล้า และ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ลงพื้นที่รณรงค์เชิญชวนพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนงดเหล้าช่วงเทศกาลเข้าพรรษา โดยจัดแสดงละครเร่สะท้อนปัญหาและผลกระทบจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ลงนามปฏิญาณตนงดเหล้าเข้าพรรษา ให้คำปรึกษาการเลิกเหล้า คัดกรองผู้เข้าข่ายติดเหล้า แจกเอกสารรณรงค์ประชาสัมพันธ์ เช่น สติกเกอร์ แผ่นพับ ใบปลิว
พญ.มาลินีกล่าวว่า กทม.ให้ความสำคัญต่อการรณรงค์ให้ประชาชนลด ละ เลิกดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากเป็นเหตุให้เกิดปัญหาอื่นได้ เช่น ทำลายสุขภาพตนเอง ทำลายสุขภาพจิตคนรอบข้าง ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุและปัญหาอาชญากรรมได้ ซึ่งโครงการตลาดสดชวนงดเหล้าฯ เป็นโครงการนำร่องในการส่งเสริมให้ประชาชนงดบริโภคเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์อย่างจริงจัง โดยเริ่มจากช่วงเทศกาลเข้าพรรษาและต่อเนื่องให้นานที่สุด ทั้งนี้ ได้กำหนดรณรงค์ในตลาดสดที่ผ่านการรับรองมาตรฐานระดับเพชรจากสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร จำนวน 17 แห่ง และในปีหน้าจะรณรงค์ครอบคลุมในตลาดสดระดับทองต่อไป
ด้านนายธวัชชัย กุศล หัวหน้าศูนย์ปรึกษาปัญหาสุราทางโทรศัพท์ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) กล่าวว่า ในปีหน้าเครือข่ายองค์กรงดเหล้าจะนำโครงการตลาดสดชวนงดเหล้าเข้าพรรษาฯ ขยายผลไปยังต่างจังหวัดด้วย ซึ่งตอนนี้เรามีเครือข่ายคลอบคลุมอยู่ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ คาดว่าจะช่วยสร้างกระแสและสร้างความตระหนักในการลด ละ เลิก เหล้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะตลาดสดเป็นที่รวมของคนทุกวัย ทุกชนชั้น สามารถเป็นกระบอกเสียงได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญการที่พ่อค้าแม่ค้า ร่วมกันเลิกเหล้า ก็จะเป็นผลดีแก่ตัวเองด้วย ทั้งในด้านสุขภาพ ลดรายจ่าย รวมไปถึงความพร้อมของร่างกายในการทำมาค้าขายด้วย
นายธวัชชัยกล่าวด้วยว่า สำหรับบุคคลท่านใดที่ต้องการลด ละ เลิก สามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่ ศูนย์ปรึกษาปัญหาสุราทางโทรศัพท์ โทร. 1413 หรือ เข้าไปที่ www.1413.in.th เพื่อพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญ และค้นหาวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยเหลือผู้มีปัญหาการดื่มและผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งถือว่าเป็นช่องทางหนึ่งของการช่วยเหลือ โดยมีการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และเข้าสู่ระบบสาธารสุขได้อย่างรวดเร็ว และสามารถโทรศัพท์สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรงพยาบาล หรือสถานบำบัดใกล้บ้านของรัฐทุกแห่งทั่วประเทศได้ที่ โทร.1413