นร.ชิโนรสวิทยาลัย กว่า 450 ชีวิต พร้อมคณาจารย์ ร่วมพิธีบวงสรวงสมเด็จพระมหาพระสมณเจ้า กรมพระประมานุชิตชิโนรส และบูชาครู ก่อน จัดแสดงพิพิธพระพิพนธ์พรรณา ฤๅษีดัดตน, ลิลิตตะเลงพ่าย, กฤษณาสอนน้อง, มหาเวสสันดรชาดก เทิดพระเกียรติสมเด็จฯ กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ประสูติครบ 221 พรรษา และครบ 110 ปี ชิโนรสวิทยาลัย ที่โรงละครแห่งชาติ 21-23 พ.ย.นี้
วันนี้ (7 ก.ค.) ที่โรงเรียนชิโนรสวิทยาลัย คณะนักเรียน ครูอาจารย์ ได้ร่วมกันประกอบพิธีบวงสรวงสมเด็จพระมหาพระสมณเจ้า กรมพระประมานุชิตชิโนรส และพิธีบูชาครู เนื่องในโอกาสที่โรงเรียนชิโนรสวิทยาลัย เตรียมจัดงานเทิดพระเกียรติครบรอบวันประสูติ 221 ปี สมเด็จพระมหาพระสมณเจ้า กรมพระประมานุชิตชิโนรส และครบรอบการสถาปนาโรงเรียนชิโนรสครบ 110 ปี ในชื่อโครงการ “สองร้อยยี่สิบเอ็ดปี รัตนกวี ศรีรัตนโกสินทร์ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส” โดยมี นายวิฑูรย์ วงศ์อิน ผู้อำนวยการโรงเรียน เป็นประธานในพิธี
นายสุวรรณ ศรีระษา อาจารย์ประจำหมวดวิชาภาษาอังกฤษ ผู้ริเริ่มโครงการ เปิดเผยถึงรายละเอียดของงานว่า งานดังกล่าว จะนำบทพระนิพนธ์ที่สำคัญของพระองค์มาจัดเป็นการแสดงในลักษณะ พิพิธพระพิพนธ์พรรณา โดยมีพระนิพนธ์ อาทิ ฤๅษีดัดตน 7 กระบวนท่าที่พระองค์ทรงจารึกไว้ที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นต้นกำเนิดแห่งการกายภาพบำบัด โดยล่าสุดองค์การยูเนสโกได้ยกย่องผลงานดังกล่าวเอาไว้, พระนิพนธ์เรื่องลิลิตตะเลงพ่าย โดยจะนำบางฉากที่สำคัญ อาทิ ฉากสู้รบของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชมาจัดเป็นแสดง, พระนิพนธ์เรื่อง กฤษณาสอนน้องคำฉันท์ ซึ่งจะยกบทสอนสตรีในการครองตนมาประกอบกับการบรรเลงจินตลีลา และพระนิพนธ์เรื่องมหาเวสสันดรชาดก กัณฑมหาราชและกัณฑ์ฉกษัตริย์
นายสุวรรณ กล่าวว่า การแสดงนี้จะใช้นักเรียนจากชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 เป็นผู้แสดงทั้งหมดรวมกว่า 450 คน ทั้งนี้ ก็เพื่อที่จะเผยแพร่พระนิพนธ์ของพระองค์ต่อสาธารณชน ในฐานะที่พระองค์ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก ในปี 2533 ว่า ทรงเป็นผู้มีผลงานด้านวรรณกรรมดีเด่นระดับโลก และเพื่อเป็นการทดแทนพระคุณในฐานะที่โรงเรียนได้ใช้พระนาม,พระนุสาวรีย์ ของพระองค์ และสัญลักษณ์ประจำพระองค์เป็นสัญลักษณ์และสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของนักเรียน คณาจารย์ และศิษย์เก่าของโรงเรียน โดยการแสดงดังกล่าวจะจัดขึ้นวันที่ 21-23 พฤศจิกายน 2554 ณ โรงละครแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร ซึ่งจะแบ่งการแสดงเป็น 2 รอบ รอบละ 2 ชั่วโมงต่อวัน
นายสุวรรณ กล่าวด้วยว่า สำหรับการซ้อมของเด็กนักเรียนนั้น โดยเฉลี่ยแล้วจะซักซ้อมกันวันละประมาณ 2 ชั่วโมงหลังเลิกเรียน โดยเริ่มต้นมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งได้มีการเปิดรับสมัครนักแสดงก็มีนักเรียนมาสมัครกันเป็นจำนวนหนึ่ง บางส่วนที่ถอดใจขอถอนตัวก็มี แต่ส่วนใหญ่ก็พร้อมที่จะฝึกซ้อมเพื่อให้ได้แสดงในวันจริง
ด้านนายณัชพณ สันตยากร นักเรียนชั้น ม.6 ผู้รับบทเป็นสมเด็จพระนเรศวร ในพระนิพนธ์เรื่องลิลิตตะเลงพ่าย กล่าวว่า ตอนที่ได้รับบทนี้คืออาจารย์เห็นว่ามีลักษณะที่น่าจะเหมาะสมก็เลยลองทาบทามตนดู ซึ่งตนก็รู้สึกตื่นเต้นที่ต้องมารับบทนี้ และเห็นว่าอาจเป็นโอกาสครั้งเดียวในชีวิต ก็เลยยอมรับบท ขณะนี้ก็เริ่มซ้อมท่าทาง บุคลิก และเริ่มเข้าสู่เนื้อหาบทมากว่า 3 อาทิตย์แล้ว โดยมีครูจากกรมศิลปากรมาช่วยฝึกสอนขั้นพื้นฐาน โดยตอนนี้ก็จะพยายามให้ดีที่สุด ด้านนายธนพล ใจเอื้อ นักเรียนชั้น ม.6 ผู้รับบทเป็นพระเอกาทศรส กล่าวว่า ตนภูมิใจที่ได้รับคัดเลือกให้มาแสดงพระนิพนธ์ดังกล่าว เพื่อที่จะได้เทิดพระเกียรติตอบแทนพระคุณของพระองค์ท่าน
ทั้งนี้ นอกจากจะมีการแสดงตามบทพระนิพนธ์แล้ว ยังมีการแสดงเพลงฉ่อยคั่นรายการอีกด้วย โดย น.ส.ปองสุดา พิมลสมสกุล นักเรียนชั้น ม.6 หนึ่งในผู้ร่วมแสดง กล่าวว่า การแสดงดังกล่าวตนและเพื่อนๆ ได้ร่วมกันคิดขึ้นมา โดยได้แนวคิดมาจากการแสดงเพลงฉ่อยในรายการโทรทัศน์ จึงเห็นว่าเป็นไอเดียที่ดีที่น่าจะนำมาใช้แสดงคั่นเวลา ประกอบกับพวกตนได้เคยแสดงโชว์คณะเยาวชนไทยที่เติบโตในประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เดินทางมาศึกษางานที่โรงเรียนมาแล้ว โดยท่านผู้อำนวยการโรงเรียนก็ได้เห็นว่าน่าสนับสนุนให้นำมาแสดง โดยการแสดงจะแบ่งเป็นเหตุการณ์รายเรื่องให้ดูขบขัน ซึ่งตอนนี้มีนักแสดงแล้วกว่า 10 คน และอาจจะมีเพิ่มมากขึ้นเพราะทุกคนก็อยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเทิดพระเกียรติพระองค์