xs
xsm
sm
md
lg

ปลุกแพทย์เน้นสอบสวนโรคจากแร่ใยหิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“หมอสมเกียรติ” เผย เร่งดันการเฝ้าระวังโรคมะเร็งปอดที่เกิดจากแร่ใยหิน ชี้ มีเอกสารหลักฐานจากแวดวงวิชาการยืนยันตรงกันว่าก่อมะเร็งปอด ระบุเดินหน้าเต็มที่ปลุกแพทย์ตื่นตัวตระหนักควบคู่ไปกับการให้ความรู้ประชาชน

นพ.สมเกียรติ ศิริรัตนพฤกษ์ ผอ.สำนักโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยความคืบหน้าการผลักดันการเฝ้าระวังโรคมะเร็งปอดที่เกิดจากแร่ใยหิน ว่า เป็นที่ยอมรับในวงการแพทย์ทั่วโลกและมีเอกสารหลักฐานจากแวดวงวิชาการยืนยันตรงกันว่า แร่ใยหินเป็นสารอันตรายที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งปอดได้ แต่ในประเทศไทยแม้จะมีมติ ครม.เรื่องการควบคุมและห้ามใช้เมื่อวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่ยังไม่การผลักดันเรื่องเหล่านี้อย่างต่อเนื่องและจริงจัง ทุกฝ่ายกำลังเฝ้ามองรัฐบาลใหม่ว่าจะให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวอย่างไร ทั้งนี้ ทางกระทรวงสาธารณสุขได้ตระหนักในเรื่องดังกล่าว จึงได้มีการสร้างเครือข่ายทางการแพทย์เพื่อร่วมกันรณรงค์การตรวจค้นหาผู้ป่วย ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างแพทย์โรคปอด พยาธิแพทย์ และแพทย์ด้านอาชีวะอนามัย ที่จะร่วมมือกันในการค้นหาผู้ป่วย

นพ.สมเกียรติ ยังกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา ได้มีการฝึกอบรมเรื่องของการอ่านฟิล์มเอกซเรย์เฉพาะโรค การสอบสวนโรคซึ่งถือเป็นหัวใจของการค้นหาโรคมะเร็งปอดจากแร่ใยหิน หรือโรคแอสเบส-โตลิสที่ใช้เวลานานกว่า 15-35 ปีที่อาการจะแสดงออก เพราะกลุ่มเสี่ยงไม่ว่าจะเป็น คนในโรงงานที่ผลิต หรือกลุ่มช่างที่ใช้วัสดุก่อสร้างที่มีแร่ใยหินส่วนใหญ่จะไม่มีความรู้ในเรื่องของโรคจากแร่ใยหิน ดังนั้นถ้าวินิจฉัยเพียงแค่การเป็นมะเร็งปอดก็จะไม่พบ จึงต้องสอบสวนโรคให้ลงลึกมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม การเข้าไปรณรงค์ยังพื้นที่เสียงโดยเฉพาะโรงงานผลิตหรือกลุ่มอุตสาหกรรมที่ยังใช้แร่ใยหินยังทำได้ยาก เนื่องจากความเข้าใจของผู้ประกอบการกับทางแพทย์ยังไม่ตรงกันบางส่วน จึงต้องสร้างเครือข่ายเพื่อร่วมรณรงค์ในเรื่องนี้ต่อไป ทั้งนี้ จากการประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ได้วางยุทธศาสตร์ไว้ 4 ประการ ประกอบด้วย 1.การยกเลิกการใช้ ทำให้สังคมไทยไร้แน่ใยหิน 2.ส่งเสริมสนับสนุนการหาสารทดแทน 3.การเผยแพร่ความรู้ และ 4.การตระหนักถึงผลกระทบต่อสุขภาพ และการสร้างเครือข่ายทางการแพทย์ ซึ่งทุกประการจะต้องทำเป็นกระบวนการร่วมกันทั้งกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ รวมถึงกรมโยธาธิการและผังเมือง รวมทั้งภาคประชาชนที่จะต้องร่วมผลักดันร่วมกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น