ปลัด สธ.เร่งเรียกประชุม คกก.ป้องกันควบคุมการติดเชื้อ ใน รพ.พร้อมสั่งทบทวน สถานการณ์ คาดมีผู้ป่วยติดเชื้อราว 5 แสนรายต่อปี อาจกระทบค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพพุ่ง 4 พันล้าน ชี้หาก รพ.มีมาตรการเฝ้าระวังอย่างถูกสุขลักษณะ ช่วยลดอัตราเสี่ยงได้
เมื่อเร็วๆ นี้ นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า จากการประชุมร่วมกับคณะกรรมการป้องกันควบคุมการติดเชื้อในโรงพยาบาล เพื่อประเมินสถานการณ์การติดเชื้อในโรงพยาบาล พบว่า ปัจจุบันทั่วโลกมีอัตราการติดเชื้อในโรงพยาบาลราวร้อยละ 5 ซึ่งหากมีจำนวนผู้ป่วย 10 ล้านคน จะทำให้มีอัตราการติดเชื้ออยู่ที่ 5 แสนรายต่อปี โดยในจำนวนนี้อาจมีผู้ป่วยติดเชื้อถึงขั้นเสียชีวิตประมาณร้อยละ 10 ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตผู้ป่วยทำให้มีอาการเจ็บป่วย ทั้งนี้ จากการคาดการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อดังกล่าวจะทำให้เสียค่าใช้จ่ายประมาณ 4 พันล้าน ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
ดังนั้น ในส่วนของประเทศไทยจึงมีการออกคำสั่งให้มีคณะกรรมการป้องกันควบคุมการติดเชื้อในโรงพยาบาลตั้งแต่ปี 2546 เพื่อติดตามและเฝ้าระวัง เพื่อพัฒนาระบบ โดยจะมีการนำข้อมูลจากการตั้งคณะกรรมการดังกล่าวในทั่วประเทศ มาประเมินสถานการณ์อีกครั้ง ว่า ประเทศไทยมีอัตราการติดเชื้อในโรงพยาบาลจริงๆ คิดเป็นจำนวนเท่าใด รวมทั้งต้องมีการทบทวนถึงมาตรการป้องกันที่สร้างไว้อย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อทบทวนว่ามาตรการที่สร้างขึ้นสามารถลดค่าใช้จ่ายได้เท่าใด ลดอัตราการติดเชื้อได้มากเพียงใด ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาในการทบทวน 1-2 เดือน หลังจากนั้นจะมีการเชิญผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป มาประชุมร่วมกันเพื่อนำไปสู่การปรับปรุงระบบการเฝ้าระวังให้เกิดรูปธรรม เพื่อนำไปสู่การลดอัตราการติดเชื้อในโรงพยาบาลลง
ปลัด สธ.กล่าวต่อว่า หากสามารถลดอัตราการติดเชื้อในโรงพยาบาลลงให้ต่ำกว่าร้อยละ 1 เชื่อว่าจะช่วยลดภาวะเสี่ยงของผู้ป่วย และลดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งโรงพยาบาลจำเป็นต้องมีมาตรการเฝ้าระวัง เช่น การล้างมือ ใส่ถุงมือ หน้ากากอนามัย ของบุคลากรแพทย์ พยาบาล และญาติ ก็สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไปสู่ผู้ป่วยลงได้ เพราะเชื้อเหล่านี้มักเกิดขึ้นกับผู้ป่วยซึ่งมีร่างกายอ่อนแอเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทั้งนี้ การทบทวนสถานการณ์จะนำข้อมูลทั่วประเทศมาจัดระบบการเฝ้าระวังและรายงานสถานการณ์ เพื่อทำให้ทราบความเสี่ยงเพื่อป้องกันและแก้ปัญหาต่อไป
