จับตา ศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก เสาร์นี้ แฟนบอลวัยโจ๋ส่อแววพนันทายผล “เครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน” เปิดผลสำรวจ เด็ก 64% มีประสบการณ์เคยเล่นพนัน ฟุตบอลติดอันดับ 1 ด้าน “เครือข่ายครอบครัว” ชี้ การพนันลามเด็กระดับประถมศึกษา อนาคตเกิดผีพนันหน้าใหม่เกลื่อนสังคม ระบุแก้ยากเพราะกฎหมายเก่า-ล้าสมัย
นายธนากร คมกฤส ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์หยุดการพนัน กล่าวว่า ทางเครือข่ายฯได้ลงพื้นที่เพื่อสำรวจ “สถานการณ์ของเด็กนักเรียนกับประสบการณ์การเล่นพนัน” ระหว่างวันที่ 24-25 พ.ค.2554 จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 412 คน ที่กำลังศึกษาอยู่ในโรงเรียนระดับประถมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลาย ในกรุงเทพมหานคร อายุระหว่าง 7-18 ปี เป็นชาย 56.1% หญิง 39.6% อื่นๆ 2.4 % พบว่า มีเด็กนักเรียนถึง 64% ที่ตอบว่ามีประสบการณ์เคยเล่นพนัน และที่น่าตกใจคือ ในจำนวนนี้มีเด็ก 20% ที่เป็นนักเรียนชั้นประถมตอนต้น และ19.7 % เป็นนักเรียนชั้นประถมตอนปลาย 12.3% เป็นนักเรียนชั้นมัธยมต้น และ 48% เป็นนักเรียนชั้นมัธยมปลาย
นายธนากร กล่าวว่า สำหรับประเภทของการพนันที่เด็กเล่นมากที่สุด คือ พนันฟุตบอล 52.04% รองลงมา คือ เกมออนไลน์ โดยที่เด็กเล่นพนันฟุตบอลด้วยมากที่สุด คือ เพื่อน 39.84% รองลงมา คือ โต๊ะบอล 18.70% และเล่นพนันฟุตบอลออนไลน์ 5.29% ส่วนการพนันเกมออนไลน์ที่เด็กเล่นมาก คือ ไพ่เท็กซัส X-shot FIFA แข่งม้า ไพ่นกกระจอก สลาฟ ไพ่โปกเกอร์ เป็นต้น เมื่อถามถึงความถี่ในการเล่นพนัน เด็กนักเรียนส่วนใหญ่ หรือ 70.8% ตอบว่านานๆ ครั้ง ส่วนเล่นบ่อยครั้ง 20.5% และเล่นเป็นประจำ 8.7% โดยเฉลี่ยใช้เงินในการเล่นพนันต่อครั้ง ไม่เกิน 50 บาท อยู่ที่ 40.4% ส่วนจำนวนเงินที่เล่นสูงสุดคือตั้งแต่ 1,001-10,000 บาท มี 4.3% และจำนวนเงินที่เคยเล่นพนันได้มากที่สุดสำหรับเด็กวัยเรียน คือ 25,000 บาท ส่วนเหตุผลที่ทำให้ตัดสินใจเล่นพนัน เพราะรู้สึกสนุกสนานและรู้สึกท้าทาย 67.9% ขณะที่ 24% ให้เหตุผลว่าเบื่อ/ไม่มีอะไรทำ ส่วนอีกเหตุผลคือ เล่นเพราะอยากได้เงิน 50.8% และ 25% เป็นอิทธิพลของเพื่อนหรือคนรอบข้าง
“มีเด็กเพียง16% ที่คิดว่าตนเองติดพนัน และต้องการความช่วยเหลือ โดยระบุว่าต้องการความช่วยเหลือจากพ่อแม่ผู้ปกครองมากที่สุด รองลงมาคือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จากเพื่อน และจากตำรวจ อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจครั้งนี้สะท้อนชัดเจนว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เด็กตัดสินใจเล่นพนันมาจากคนใกล้ชิด หรือคนที่รู้จักของเด็กเหล่านี้ มีพฤติกรรมเล่นพนันให้เด็กรับรู้ เพราะมีเด็กมากถึง 62.8% ตอบว่ามีคนที่ตนรู้จักเล่นพนัน ซึ่งกรณีดังกล่าวอาจจะต้องมองปัจจัยที่เป็นตัวกระตุ้น” นายธนากร กล่าวและว่า ทั้งนี้เครือข่ายฯคงต้องจับตาเป็นพิเศษ เนื่องจากในวันเสาร์ที่ 28 พ.ค.นี้ จะมีการแข่งขันฟุตบอลนัดชิงชนะเลิศ ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ระหว่าง บาร์เซโลนา พบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สนามเวมบลีย์ ซึ่งตนคาดว่าการพนันทายผลฟุตบอลนัดนี้จะมีเงินสะพัดเป็นจำนวนมาก ซึ่งผู้เล่นจำนวนไม่น้อยที่เป็นกลุ่มเด็กและเยาวชน
น.ส.เกณิกา พงษ์วิรัช ผู้ประสานงานชมรมเครือข่ายครอบครัว โรงเรียนประเทืองทิศวิทยา กล่าวว่า จากผลสำรวจทำให้เป็นห่วงว่าแนวโน้มเด็กและเยาวชนจะเข้าสู่วงจรพนันอย่างเต็มตัว ทั้งแบบออนไลน์ และแบบตั้งโต๊ะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งปัจจัยส่วนใหญ่ยังเกิดจากสภาพสังคม สิ่งแวดล้อม เด็กทำตามผู้ใหญ่ เพราะมองว่าเป็นเรื่องปกติ อยากรู้อยากลอง อยากได้เงิน อีกทั้งกฎหมายการพนันยังเก่า ล้าสมัย ไม่สามารถจัดการปัญหาเหล่านี้ได้ และประชาชน เด็กเยาวชน รับรู้น้อยไม่มีการเข้าถึงข้อมูลอย่างถูกต้อง
“ปัญหานี้แก้ยาก เพราะแม้แต่ภาครัฐเอง ยังมองว่าเป็นเรื่องปกติ และมีคนบางกลุ่มที่ความพยายามทำให้การพนันเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมาย ซึ่งหากยังปล่อยไว้แบบนี้ในอนาคตวงจรพนันจะมีเด็กเยาวชนหน้าใหม่เกิดขึ้น ในสังคม ซึ่งตอนนี้การพนันได้รุกลามเข้าไปในระดับประถมศึกษาแล้ว แต่ยังไม่เห็นมีหน่วยงานไหนที่จะจริงจังในเรื่องนี้ ช่วงใกล้เลือกตั้งนี้จึงอยากเห็นพรรคการเมืองต่างๆให้ความสำคัญกับปัญหาสังคมโดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชนให้มากกว่านี้”น.ส.เกณิกา กล่าว
