นศ.ป.บัณฑิต ม.อีสาน ยื่นหนังสืออุทธรณ์ต่อปธ.กรรมการคุรุสภา-กมว.เรียกร้องความเป็นธรรม เหตุ ม.อีสานไม่ออกใบรับรองผลการศึกษา อ้างต้องรอสภามหาวิทยาลัยอนุมัติ หลังถูก กมว.เพิกถอนวุฒิ-ใบประกอบวิชาชีพ ขู่ รวมตัวฟ้อง ม.อีสาน หากเสียสิทธิ์รับบรรจุ ด้าน คกก.คุรุสภา เผย หากฟ้องต้องตั้งอนุกรรมการด้าน กม.พิจารณาก่อน หรือมอบเลขาธิการคุรุสภา ฟ้องร้องในนามสำนักงานเลขาธิการ
วันนี้ (9 พ.ค.) ที่กระทรวงศึกษาธิการ นายชูเกียรติ ดวงผุย อายุ 25 ปี นักศึกษา ป.บัณฑิต มหาวิทยาลัยอีสาน ได้เข้ายื่นหนังสืออุทธรณ์ต่อประธานกรรมการคุรุสภา และประธานกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ (กมว.) เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมกรณีที่ กมว.มีมติเพิกถอนใบประกอบวิชาชีพครูของป.บัณฑิต มหาวิทยาลัยอีสาน ส่งผลกระทบต่อการบรรจุครูผู้ช่วย
โดย นายชูเกียรติ กล่าวว่า ตนจบป.บัณฑิต จากศูนย์สว่างแดนดินซึงเป็นศูนย์นอกที่ตั้งของ ม.อีสาน ทั้งยังเป็น 1 ใน 4 ศูนย์นอกที่ตั้งของ ม.อีสาน ที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) รับทราบ และสอบบรรจุและแต่งตั้งตำแหน่งครูผู้ช่วยที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) 28 ศรีสะเกษ-ยโสธร โดยได้ขึ้นบัญชีเป็นลำดับที่ 1 ซึ่งสพม.ได้เรียกไปรายงานตัวเพื่อบรรจุเป็นครูผู้ช่วยที่โรงเรียนตระกูลประเทืองวิทยาคม อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร เมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่เมื่อตนไปรายงานตัวกลับไม่ได้รับการบรรจุโดยสพม.ระบุว่าขาดคุณสมบัติ ไม่มีวุฒิการศึกษาและไม่มีใบอนุญาติประกอบวิชาชีพครู เนื่องจากถูกกมว.เพิกถอน จึงได้เดินทางมาร้องเรียนที่คุรุสภาก่อนหน้านี้ แต่ก็แจ้งให้กลับไปขอใบรับรองผลการศึกษาที่ ม.อีสาน ซึ่งก็ได้ไปถึง 3 ครั้งแล้วก็ยังเพิกเฉย เพียงแจ้งว่าต้องรอสภามหาวิทยาลัยอนุมัติ
นายชูเกียรติ กล่าวด้วยว่า ตนทำงานเป็นบรรณารักษ์อยู่ที่โรงเรียนมาลีพิทักษ์สว่างแดนดิน และได้ลงทะเบียนเรียน ป.บัณฑิต ที่ ม.อีสาน และฝึกสอนที่ ร.ร.มาลีพิทักษ์สว่างแดนดิน ครบตามเกณฑ์ที่กำหนด โดยเสียค่าใช้จ่ายไปทั้งหมด 33,000 บาท แต่ไม่ทราบมาก่อนว่าการเรียนที่ศูนย์นอกที่ตั้งไม่เข้าเกณฑ์ ทำให้เสียสิทธิ์ทั้งที่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ อย่างไรก็ตามอยากเรียกร้องให้ม.อีสานเร่งอนุมัติใบรับรองผลการเรียนเพื่อนำมาประกอบขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูที่คุรุสภา แต่หากยังไม่ได้การดูแล หรือทำให้ต้องเสียสิทธิ์ในการบรรจุครูผู้ช่วย ก็จะรวมกลุ่มเพื่อนๆ ที่เรียนร่วมรุ่นด้วยกันมาและสอบบรรจุได้เช่นกันกว่า 20 คนฟ้องร้องดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม ตนได้เข้าพบ นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะการมการการศึกษาขั้นพื้นฐานและนายเสน่ห์ ขาวโต รองเลขาธิการ กพฐ.ซึ่งได้รับทราบเรื่องนี้แล้ว
นายธนารัชต์ สมคเณ กรรมการคุรุสภา กล่าวว่า กรณีที่จะให้ทางคณะกรรมการคุรุสภาในฐานะนิติบุคคลอนุมัติให้ดำเนินการฟ้องร้องทางอาญาและแพ่งกับทาง มอส.นั้น จะต้องดูในข้อกฎหมายว่ามีอำนาจฟ้องร้องหรือไม่ ดังนั้น จึงทำให้ที่ประชุมคุรุสภาต้องตั้งคณะอนุกรรมการด้านกฎหมายมาพิจารณาเรื่องนี้ เพราะหากไม่มีอำนาจแล้วฟ้องร้อง ทางกรรมการคุรุสภาทั้ง 39 คน ก็ต้องรับผิดชอบ ทั้งนี้ หากนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ต้องการจะให้มีการฟ้องร้องนั้น สามารถมอบให้นายองค์กร อมรสิรินันท์ เลขาธิการคุรุสภา ฟ้องร้องในนามสำนักงานเลขาธิการได้เนื่องจากนายองค์กรเองเป็นผู้ที่มีพยานหลักฐาน แต่หากนายชินวรณ์ต้องการจะให้คณะกรรมการคุรุสภาฟ้องร้องนั้นก็น่าจะทำหนังสือแจ้งมาที่ นายดิเรก พรสีมา ประธานคณะกรรมการคุรุสภาพิจารณาได้
“ที่มีข่าวว่ามีกรรมการคุรุสภาบางคนพยายามล็อบบี้ไม่ให้ดำเนินการเรื่องนี้นั้น ผมไม่ทราบขอให้ไปถามนายอัษฎางค์ แสวงการ อดีตอธิการบดี มอส.น่าจะทราบเรื่องนี้ดี ” กรรมการคุรุสภา กล่าว