“การเต้นบนส้นสูง” ถือว่าเป็นสไตล์การเต้นแนวใหม่ที่ประยุกต์เอาลักษณะเด่นของการเต้นละติน และแจ๊ส มาผสมกัน ในระยะแรกๆ นิยมใช้ในการแสดงละครเวที ละครบรอดเวย์ ในประเทศฝั่งตะวันตก ก่อนจะลัดข้ามฟ้ามาฮิตสร้างกระแสในฝั่งเอเชียบ้านเรา
สำหรับในประเทศไทย การเต้นบนส้นสูง หรือ High Heel Dance เป็นที่รู้จักพอสมควร ด้วยกระแสการชมสื่อจากต่างประเทศ ผนวกกับมีอดีตนักร้องชื่อดังที่ผันตัวมาเปิดสถาบันสอนเต้นก็มีการบรรจุการเต้นชนิดดังกล่าวไว้ในหลักสูตร และล่าสุดจากการประกวดหาบุคคลที่มีความสามารถแขนงต่างๆ ทั่วประเทศที่รู้จักกันดีในนามเวที Thailand's Got Talent ก็ได้มีทีมผู้เข้าประกวดทีมหนึ่ง โชว์ความสามารถในการเต้นบนรองเท้าส้นสูง ทำให้การเต้นชนิดนี้กลายเป็นที่รู้จักกันในวงกว้างมากขึ้น และมีแนวโน้มว่าน่าจะเป็นเทรนด์การออกกำลังกายของคนรุ่นใหม่เหมือนกับกระแสก่อนหน้าที่ผ่านๆ มา ที่คนรุ่นใหม่บ้านเรามักจะให้ความสนใจต่อการออกกำลังกายรูปแบบใหม่ๆ อยู่เสมอ
นพ.ธีรศักดิ์ ลักษณานันท์ ผู้อำนวยการกองออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข อธิบายว่า ตามปกติการสวมรองเท้าส้นสูง ส่งผลเสียต่อสรีระอยู่แล้ว การเต้นบนรองเท้าส้นสูงซึ่งต้องมีแรงกระแทกมากกว่าการยืนหรือเดินปกติน่าจะยิ่งทำให้ส่งผลกระทบต่อร่างกายมากขึ้นไปอีกแน่นอน
“ได้มีโอกาสดูทีมที่เต้นบนรองเท้าส้นสูงในรายการดังกล่าวเหมือนกัน เห็นลักษณะที่เขาเต้นก็รู้สึกเป็นห่วง เพราะเห็นมีทั้งเต้น กระโดด ตีลังกา ต่อตัว คือ ตามปกติแล้วการสวมรองเท้าส้นสูงมันก็ส่งผลเสียต่อสรีระอยู่แล้ว เมื่อสวมส้นสูง กล้ามเนื้อบางมัดจะถูกยืดตลอดเวลา ในขณะที่บางมัดจะต้องเกร็งตลอดเวลา หากจำเป็นต้องสวมเพื่อเสริมบุคลิก ไม่ควรจะสวมที่มีส้นสูงเกิน 2 นิ้ว”
ผอ.กองออกกำลังกาย ยังกล่าวต่อไปอีกว่า การสวมรองเท้าส้นสูง ทำให้สรีระของร่างกายถูกฝืน แม้ว่ารองเท้าสำหรับการสวมเพื่อเต้น High Heel จะเป็นรองเท้าพิเศษที่เพิ่มส่วนกันกระแทกที่อ่อนนุ่มกว่ารองเท้าส้นสูงปกติ ลักษณะใกล้เคียงกับรองเท้าบัลเลต์ แต่ Position เมื่อสวมรองเท้า ลักษณะรูปเท้าก็ยังคงต้องเกร็ง และกล้ามเนื้อถูกยืดออกไปเหมือนกับการสวมรองเท้าส้นสูงอยู่ดี
“รองเท้าส้นสูงทำให้สมดุลของร่างกายเปลี่ยนไปอยู่แล้ว ยิ่งใส่เพื่อเต้นยิ่งมีผล แถมเสี่ยงต่อการพลาดล้มและเกิดอุบัติเหตุได้ และในความคิดของผมการเต้นเป็นการออกกำลังกายอยู่แล้ว การสวมรองเท้าส้นสูงเต้นไม่น่าจะเพิ่มสมรรถภาพหรือข้อดีอะไรในการออกกำลังกาย” นพ.ธีรศักดิ์ สรุปทิ้งท้าย